ฟังชัดๆ 'ผกก.โจ้' สาบานไม่เคยทุจริต ยัน ผู้ต้องหาตาย ไม่เกี่ยวถุง 6 ใบ คลุมหัว
'ผกก.โจ้' โฟนอินตอบสื่อ บอกพลาดไป รับผิดชอบเพียงผู้เดียว ลั่นรับราชการไม่เคยทำผิดเรื่องเงิน ขอโทษพ่อแม่ผู้ตาย
เมื่อเวลา 21.50 น. วันที่ 26 ส.ค.ที่กองบังคับการปราบปราม พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. แถลงข่าวการจับกุมตัว พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ โดยมึพล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รอง ผบช.ภ.6 พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผบก.สส.ภ.7 พ.ต.อ.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบก.ปส.3 ชุดคลี่คลายคดีร่วมด้วย
พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า ตนอยากเรียนว่าการจับกุมหรือการรับมอบตัว ตำรวจพยายามทำให้สังคมเห็นว่า เราไม่เคยปกป้องคนกระทำผิด มันอาจไม่ได้ช่วยให้สิ่งที่สูญเสียไปดีขึ้น แต่อย่างน้อยก็ให้เห็นว่าเราไม่เคยปกป้อง แล้วสังคมตำรวจจะอยู่ได้ด้วยความเชื่อมั่นของประชาชน ที่ผ่านมาในนามของผู้นำองค์กร ต้องขอโทษพี่น้องประชาชนที่เกิดเรื่องแบบนี้ แต่ยืนยันว่าองค์กรตำรวจตรวจสอบได้ ไม่เคยมีตำรวจคนไหนทำผิดแล้วพ้นโทษหลบหนีไปได้ ส่วนใหญ่เราดำเนินการเกือบทั้งหมด ซึ่งไม่ว่าจะยศชั้นไหนเหมือนกัน ตั้งแต่ ผบ.ตร ถึงลูกแถว ถ้าทำผิดต้องถูกลงโทษ ทั้งนี้เราไม่มีนโยบายที่จะนำผู้ต้องหามาแถลงข่าวแต่จะเป็นการต่อสายให้สื่อมวลชนได้ซักถาม
จากนั้น ผบ.ตร. ต่อสายหา ผกก.โจ้ โดยสอบถามว่า
"โจ้ได้ยินไหม ตอนนี้มีการถ่ายทอดสู่สาธารชน อยากจะเตือนว่าสิ่งที่โจ้พูดมีคนฟังและมีการถ่ายทอดสดออกไป โจ้ต้องรู้ว่าสิ่งที่พูดมันเป็นพยานหลักฐานมัดตัวเอง และไม่ได้มีใคร มาบังคับขู่เข็ญหรือทำสัญญาใดๆให้ออกมาพูดเข้าใจหรือไม่ และมีคนอยู่ด้วยหรือไม่
โดย ผกก.โจ้ ตอบว่า "เข้าใจครับ ตอนนี้มีทนายส่วนตัวและมีตำรวจ และผมก็เต็มใจที่จะตอบคำถามสื่อมวลชน"
เมื่อถามว่า จะยอมรับสารภาพกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหรือไม่ ผกก.โจ้ กล่าวว่า ขออนุญาตให้การในชั้นศาล แต่จะเล่าข้อเท็จจริงให้ฟังว่า มีการจับผู้ต้องหายาเสพติดมาได้ และเจอโทรศัพย์ที่พึ่งถ่ายรูปก่อนหน้านี้มา 2 ชม. มียาไอซ์ 1 ก.ก.และ ยาบ้าเกือบ 20,000 ปกติตนไม่เคยลงไปดู แต่เห็นว่าเคสนี้เป็นเคสใหญ่ก็ลงไปดู และพยายามสอบถามผู้ต้องหาแล้วก็ไม่ยอมบอกความจริง
"ผมยอมรับว่าสิ่งที่ทำไปไม่ถูกต้อง แต่เจตนาที่ทำไปเพื่อต้องการเอาข้อมูลเพื่อไม่ให้ยาเสพติดไปทำลายพี่น้องประชาชนจังหวัดนครสวรรค์ ในขณะที่ลูกน้องทุกคน ผมเป็นคนสั่งเองทั้งหมดผมก็ขอรับผิดแต่เพียงผู้เดียวและลูกน้องก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องและได้มีการห้ามปรามผมแล้วผมจึงขอรับผิดแต่เพียงผู้เดียวเพราะผมเป็นนายสั่งลูกน้อง เขาก็ต้องปฏิบัติตาม และยืนยันว่าไม่มีเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง"
เมื่อถามว่า ที่ใช้ถุงคลุมหัวถึง 6 ใบ เพราะต้องการให้ผู้ต้องหารับสารภาพหรือมีการเรียกรับเงินด้วย ผกก.โจ้ กล่าวว่า ไม่มีการเรียกรับเงินซึ่งเจตนาจริงๆตอนแรก ที่เอาถุงมาคลุมหัวผู้ต้องหา เนื่องจากไม่ให้ผู้ต้องหาเห็นหน้าของตน แต่ผู้ต้องหาฉีกถุงก็เลยต้องมัดมือไพล่หลัง ป้องกันไม่ให้ฉีกถุง และครั้งนี้ทำเป็นครั้งแรก
เมื่อถามถึงกรณีที่มีการเรียกรับเงิน 1 ล้านข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ผกก.โจ้ กล่าวว่า ไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าวแน่นอน ตนสาบานกับพระที่ห้อยคอได้เลย ชีวิตผมรับราชการมาไม่เคยมีทุจริตเรื่องเงิน
ผกก.โจ้ กล่าวต่อว่า ตอนที่ผู้ต้องหาสลบไปตนตกใจทำอะไรไม่ถูก จึงเอาผ้ามาเช็ดเพื่อให้เขาตื่น และจับชีพจรยังหายใจอยู่ จึงให้ลูกน้องช่วยซีพีอาร์ ก่อนรีบนำส่งโรงพยาบาล ซึ่งหลังจากน้องเสียชีวิต สาเหตุที่ไม่ได้ทำทุกอย่างให้ถูกต้องตามขั้นตอน เพราะตกใจเลยปรึกษากันว่าจะทำอย่างไร แต่ไม่มีการให้ผลประโยชน์กับพ่อผู้เสียชีวิต ให้อย่างเดียวคือช่วยทำบุญงานศพไป 3 หมื่นบาท
ส่วนที่แจ้งหมอว่า ผู้ต้องหาเสพยาเสพติดเกินขนาด เพราะคุยกับแฟนของผู้ต้องหาได้ข้อมูลว่า เขาเสพยาแต่ละวันเยอะจริง และเขานอนน้อย จึงคาดสาเหตุน็อคจากการเสพยา
ส่วนกรณีมีข่าวว่าตนถูกตบทรัพย์ยืนยันว่าไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าว “ผมยอมรับผิด และยอมรับสิ่งที่จะเกิดขึ้น ไม่ว่าศาลจะตัดสินอย่างไร จะจำคุกผมตลอดชีวิต แต่ผมขอให้การว่า ผมไม่ได้มีเจตนาฆ่าน้อง แต่เจตนาตั้งใจที่จะทำงานเพื่อประชาชนไม่ให้ลูกหลานคนนครสวรรค์ติดยา ต้องกราบขอโทษประชาชนทุกคน ผมตั้งใจทำงานจริงๆ แต่พลาดไป กราบขอโทษพ่อแม่ผู้ตายเพราะตนไม่มีเจตนา และใจจริงก็ทราบว่าไม่ได้ตายเพราะการที่เราไปคลุมหัวเพื่อต้องการเอาข้อมูลยาเสพติด และกราบขอโทษผบ.ตร. และตำรวจทุกคน องค์กรตำรวจยังมีคนดีๆ เยอะ ผมผิดเอง”พ.ต.อ.ธิติสรรค์กล่าว
เมื่อถามว่า ผกก.โจ้พูดมาตลอดว่าไม่ได้เจตนาแต่เพราะเหตุใดจึงสั่งให้มีการถอดกล้องวงจรปิดหลังเกิดเหตุ ผกก.โจ้ กล่าวว่า "ผมยอมรับผิด เพราะตอนนั้นเมื่อเกิดเหตุแล้วช็อค และไม่เคยเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ และผมก็อายุน้อยประสบการณ์น้อย ก็ยอมรับผิดเพราะไม่รู้จะทำอย่างไรก็เป็นคนสั่งให้ไปถอดกล้อง"
เมื่อถามว่าเป็นถึงผู้บังคับบัญชาการสถานี แต่สั่งให้ถอดกล้องวงจรปิดออก ด้วยเหตุผลอายุน้อย ประสบการณ์น้อยอาจจะฟังไม่ขึ้น ผกก.โจ้ กล่าวว่า
ทั้งนี้มีกล้องบางตัวที่เสียอยู่ด้วยนานแล้ว แต่ไม่ได้ซ่อม ตนก็เลยสั่งให้เปลี่ยน และไม่ทราบว่าภายในห้องที่สอบสวนผู้ต้องหามีกล้องวงจรปิด
จากนั้น พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. ได้ขอให้หยุดการสอบถาม พร้อมระบุว่า "มีหลายอย่างเกี่ยวข้องกับการดำเนินคดี แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว ไม่ต้องถามแล้ว ไม่เช่นนั้นจะเสียหายต่อรูปคดี ถ้าสื่อถามอย่างนี้ทั้งหมดก็เจ๊ง ไม่ต้องดำเนินคดี ส่งฟ้องตอนนี้เลย หรือ ไม่ส่งฟ้อง จะเอายังไง แค่นี้ก็เกินพอแล้ว ขอความกรุณาทุกอย่างในเรื่องรายละเอียดขอให้ไปอยู่ในสำนวน ซึ่ง ผบ. ตร. ก็ระบุแล้วว่าทุกอย่างจะเป็นไปด้วยความเป็นธรรม"