ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร สั่งสำรวจกลุ่มต่างด้าว ดีเดย์ 11 ก.ย.ฉีดวัคซีนแรงงานข้ามชาติ
ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร สั่งสำรวจกลุ่มต่างด้าว เตรียมพร้อมดีเดย์ 11 ก.ย. ฉีดแรงงานข้ามชาติ ลั่นทุกคนในสมุทรสาครต้องได้รับวัคซีน
นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า ตามที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาครได้มีการหารือร่วมกันเกี่ยวกับเรื่องของวัคซีนจนได้ข้อสรุปเป็นที่ชัดเจนแล้วว่า สำหรับการเปิดจุดให้บริการ Walk in นั้น สามารถให้บริการกับทุกคนในจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งคนไทยและแรงงานข้ามชาติ ทั้งที่มีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดหรือที่มาทำงานหรือพักอาศัยอยู่ในจังหวัดสมุทรสาคร จะต้องได้รับสิทธิฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19 กันอย่างถ้วนหน้า แต่ในส่วนของแรงงานข้ามชาตินั้นจะเริ่มให้บริการฉีดวัคซีนตั้งแต่วันที่ 11 กันยายน 2564 เป็นต้นไป เนื่องจากจะต้องมีการเตรียมความพร้อมเพิ่มมากขึ้น เช่นเรื่องของล่ามสื่อสารภาษา เป็นต้น
โดยในระยะแรกสำหรับกลุ่มแรงงานข้ามชาตินั้น จะเน้นไปที่กลุ่มสถานประกอบการที่ให้ความร่วมมือการจัดทำ FAI ก่อน ซึ่งก็ได้สั่งการให้แรงงานจังหวัดสมุทรสาครและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภายใน 1 สัปดาห์นับจากนี้จะต้องช่วยกันสำรวจความต้องการฉีดวัคซีนในกลุ่มแรงงานข้ามชาติว่ามีจำนวนเท่าไหร่ เพื่อที่จะได้วางแนวทางการดำเนินงานที่ชัดเจนได้ ทำให้การฉีดวัคซีนเป็นไปอย่างครอบคลุมและรวดเร็ว ส่วนในกลุ่มเด็กไทย ที่คาดว่าช่วงเดือนตุลาคมนี้ จะได้รับวัคซีนไฟเซอร์มาฉีดให้นั้น
เบื้องต้นทางจังหวัดสมุทรสาครได้วางแนวทางคร่าวๆไว้ก่อนว่า ถ้าวัคซีนไฟเซอร์สำหรับเด็กไทยทั่วไป ที่รัฐบาลจัดสรรมาในระยะแรกไม่เพียงพอต่อเด็กอายุ 12 -18 ปีทั้งหมด ก็จะเริ่มฉีดในกลุ่มอายุ 16 18 ปีก่อน จากนั้นเมื่อได้รับวัคซีนสำหรับเด็กมาเพิ่มก็จะขยายกลุ่มอายุน้อยลงมาอีก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับจำนวนวัคซีนที่จัดสรรมาให้กับทางจังหวัดสมุทรสาคร จำนวนเด็กไทยที่มีอยู่ และข้อกำหนดหรือข้อสั่งการจากทางรัฐบาลนั่นเอง โดยทางจังหวัดสมุทรสาครก็ต้องการที่จะฉีดวัคซีนให้กับเด็กไทยอายุ 12 18 ปีให้ครบ 100 เปอร์เซ็นต์ หรือเต็มจำนวนที่มีอยู่จริงอย่างรวดเร็วที่สุด เพื่อจะได้ให้เด็กได้กลับมาเข้าชั้นเรียนในสถานศึกษาตามปกติ
ส่วนภาพรวมของจังหวัดสมุทรสาครในการฉีดวัคซีนนั้น ขณะนี้เราฉีดวัคซีนเข็มแรกไปแล้วกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ ส่วนเข็มสองประมาณ 20 กว่าเปอร์เซ็นต์ จากยอดประชากรทั้งหมดราวๆ 1 ล้านคน ซึ่งแม้จะมีความน่าพอใจอยู่ แต่ก็ยังมีจุดที่ต้องปรับแก้ไขกันบ้างเล็กน้อย เช่น จุดให้บริการ Walk in ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ทั้งหมด 9 จุด คือ อำเภอเมืองสมุทรสาคร 4 จุด อำเภอกระทุ่มแบน 2 จุด และอำเภอบ้านแพ้วอีก 3 จุดนั้น บางวันอาจจะไม่ทันต่อการให้บริการ ดังนั้นจึงได้มีการเตรียมจัดชุดโมบายเคลื่อนที่ของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร ไว้ช่วยเหลือเฉพาะกิจตามจุดฉีดต่างๆ อีกด้วย
นายวีระศักดิ์ฯ ยังได้กล่าวฝากทิ้งท้ายไว้ด้วยว่า ช่วงนี้เป็นช่วงขาลงของสถานการณ์โควิด 19 คือ มีแนวโน้มที่ดีขึ้น ตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลง แต่ประชาชนก็ไม่ควรที่จะประมาทอย่างยิ่ง เพราะนักวิชาการหลายคนได้ออกมาเตือนว่า โรคโควิดนี้อาจจะกลับมาระบาดได้ใหม่อีกครั้งถ้าทุกคนไม่ช่วยกันอย่างเข้มแข็งและจริงจัง จึงอยากฝากไปถึงทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยว่า ให้ร่วมกันพยายามรักษามาตรฐานตรงนี้ไว้ให้ดี ทั้งเรื่องของตลาด การฉีดวัคซีน การดูแลรักษา การจัดโมบาย รวมถึงการเกิดขึ้นของ CI และความร่วมมือกับการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามสีเหลือง ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เป็นเครื่องยืนยันให้เห็นว่าจังหวัดสมุทรสาครมีการเตรียมความพร้อมไว้แล้วและต้องสามารถรองรับการระบาดในครั้งหน้าได้ด้วย ดังนั้นอย่าประมาทโดยเด็ดขาด ถ้าเราสามารถรองรับการระบาดในครั้งหน้าได้โดยที่ไม่เกิดความตื่นตระหนกนั้น ก็เชื่อมั่นได้ว่าเราจะผ่านเรื่องนี้ไปได้ด้วยดี