สมบัติ 866 ล.!‘ธรรมนัส-2 เมีย’ก่อนถูกปลดฟ้าผ่า-ป.ป.ช.สอบทรัพย์สินเชิงลึก
พลิกสมบัติหรู 866 ล.! “ธรรมนัส-2 ภริยา” ก่อนถูกปลดฟ้าผ่าพ้น รมช.เกษตรฯ - ป.ป.ช.ลุยสอบทรัพย์สินเชิงลึก ปมไม่แจ้งถือหุ้นตัวเอง-เมีย-รายได้ขายหวย คืบ 60-70% แล้ว
หลังจากที่ ‘ฟ้าผ่า’ กลางทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 9 ก.ย. 2564 ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ ประกาศให้รัฐมนตรีพ้นจากความเป็นรัฐมนตรี ตอนหนึ่งว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กราบบังคมทูลว่า สมควรให้รัฐมนตรีบางคนพ้นจากความเป็นรัฐมนตรี เพื่อความเหมาะสมและบังเกิดประโยชน์แก่ราชการ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 171 ของรัฐธรรมนูญ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า พ้น รมช.เกษตรและสหกรณ์ พ่วงด้วย นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ พ้น รมช.แรงงาน
มาดูในมุมบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของ ‘อดีต รมช.’ ที่เพิ่งถูกปลดกันบ้าง?
ร.อ.ธรรมนัส แจ้งบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช. กรณีเข้ารับตำแหน่ง ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ (เปิดเผยเมื่อวันที่ 22 ส.ค. 2562) แจ้งว่ามีคู่สมรส 2 ราย ได้แก่ นางอริสรา พรหมเผ่า และ น.ส.ธนพร ศรีวิราช (จุ๊บจิ๊บ) แจ้งมีบุตรไม่บรรลุนิติภาวะรวม 7 ราย แบ่งเป็น จากการสมรส 2 ราย และมีบุตรนอกสมรสรับรอง 5 ราย
อ่านข่าว-“จุ๊บจิ๊บ”ภรรยา“ธรรมนัส”จ่อยื่นลาออกพ้นขรก.การเมืองสำนักเลขานายกฯ
โดย ร.อ.ธรรมนัส มีทรัพย์สิน 644,921,184 บาท ได้แก่ เงินสด 3 แสนบาท เงินฝาก 168,554,858 บาท เงินลงทุน 14 รายการ 13,804,900 บาท ที่ดิน 98,981,315 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 50,902,717 บาท ยานพาหนะ 62,840,000 บาท สิทธิและสัมปทาน 92,417,394 บาท ทรัพย์สินอื่น 157,120,000 บาท รวม 644,921,184 บาท หนี้สิน 73,361,936 บาท ขณะเดียวกันยังแจ้งว่ามีรายได้จากการขายสลากกินแบ่งรัฐบาล (เฉลี่ยต่อเดือน) 3 ล้านบาทด้วย
นางอริสรา พรหมเผ่า มีทรัพย์สิน 189,952,776 บาท ได้แก่ เงินฝาก 10,464,853 บาท เงินลงทุน 18,200,000 บาท ที่ดิน 100,069,025 บาท โรงเรือนละสิ่งปลูกสร้าง 49,398,898 บาท ยานพาหนะ 3,390,000 บาท ทรัพย์สินอื่น 8,430,000 บาท รวทรัพย์สิน 189,952,776 บาท หนี้สิน 13,582,860 บาท
น.ส.ธนพร ศรีวิราช (จุ๊บจิ๊บ) มีทรัพย์สิน 63,684,291 บาท บุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ มีทรัพย์สิน 31,148,049 บาท เป็นสิทธิและสัมปทาน
รวมทั้งหมดมีทรัพย์สินทั้งสิ้น 866,022,010 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 73,361,936 บาท
ทรัพย์สินที่น่าสนใจของ ร.อ.ธรรมนัส เช่น ยานพาหนะ 17 รายการ รวมมูลค่า 62,840,000 บาท แบ่งเป็น รถยนต์ 16 คัน เป็นรถหรูหลายคัน เช่น โรลส์ รอยซ์ 2 คัน คันละ 20 ล้านบาทและ 12 ล้านบาทตามลำดับ รถเบท์ลีย์ แบบคอนติเนนทัล คันละ 12 ล้านบาท เทสลา คันละ 8 ล้านบาท เป็นต้น
ส่วนทรัพย์สินอื่น (ราคาตั้งแต่สองแสนบาทขึ้นไป) จำนวน 157,120,000 บาท เช่น พระพุทธรูป พระเครื่อง 6 องค์ ในจำนวนนี้มีพระสมเด็จชุดเบญจภาคี มูลค่า 10 ล้านบาท นาฬิกายี่ห้อ PATEK PHILIPPE 16 เรือน มีเรือนหนึ่งมูลค่า 9.2 ล้านบาท เป็นต้น
ขณะที่นางอริสรา มีทรัพย์สินประเภทกระเป๋ายี่ห้อต่าง ๆ โดยราคาสูงสุดคือ Hermes Birkin สีแดง ราคา 6.8 แสนบาท และสีดำราคา 675,000 บาท
ส่วน น.ส.ธนพร ถือครองยานพาหนะ 2 รายการ เป็นรถเมอร์ซิเดสเบนซ์ ราคา 5.8 ล้านบาท และ Porsche Panamera 4E Hybrid ราคา 8.9 ล้านบาท นอกจากนี้ยังถือครองพระพุทธรูป พระเครื่อง 2 องค์ เครื่องประดับ จิวเวลรี 23 รายการ เช่น มงกุฎเพชร 12.35 กะรัต (ได้มาปี 2559) ราคา 1.2 ล้านบาท และถือครองกระเป๋าหรูจำนวนมาก รวม 42 ใบ ทั้ง Hermes 12 ใบ Chanel 13 ใบ Balenciaga 2 ใบ Gucci 2 ใบ Dior 3 ใบ Louis Vuitton 3 ใบ เป็นต้น
เงื่อนปมที่น่าสนใจที่ถูกสำนักงาน ป.ป.ช. ดำเนินการตรวจสอบบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินเชิงลึกอยู่ตอนนี้คือ
1.กรณีการถือครองหุ้นบริษัท เดอะบางกอก อะไลฟ์ จำกัด ทำธุรกิจนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ เช่าพื้นที่ทำตลาด จำนวน 15,000 หุ้น (คิดเป็น 30% ของทุนจดทะเบียน) แต่มิได้แจ้งในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช. กรณีเข้ารับตำแหน่ง ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ
2.กรณีนางอริสรา พรหมเผ่า ถือครองหุ้นบริษัท สบายใจ มาร์เก็ต จำกัด จำนวน 40,000 หุ้น มูลค่า 4 ล้านบาท (คิดเป็น 80% ของทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท) 2.บริษัท ฮันนี สไมล์ ฮอลิเดย์ (2018) จำกัด จำนวน 8,000 หุ้น มูลค่า 200,000 บาท (คิดเป็น 80% ของทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท) 3. บริษัท รักษาความปลอดภัย พี.ที.การ์ด จำกัด จำนวน 140,000 หุ้น มูลค่า 14 ล้านบาท (คิดเป็น 70% ของทุนจดทะเบียน 20 ล้านบาท โดยทั้ง 3 บริษัทนางอริสาถือครองหุ้นเกิน 5% แต่มิได้แจ้งต่อประธานกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อขอรับประโยชน์ อาจเข้าข่ายไม่เป็นไปตาม พ.ร.บ.การจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรี พ.ศ.2543
3.กรณีการแจ้งมีรายได้จากการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเฉลี่ยเดือนละ 3 ล้านบาท ทั้งที่ไม่ปรากฏชื่อถือหุ้นในบริษัทขายสลากแต่อย่างใด
ความคืบหน้ากรณีนี้ แหล่งข่าวระดับสูงจากสำนักงาน ป.ป.ช. เปิดเผยว่า อยู่ระหว่างรวมรวบพยานหลักฐานคืบหน้าไปแล้วไม่น้อยกว่า 60-70% รอเพียงเอกสารบางรายการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น เอกสารการถือครองหุ้น หรือบัญชีเงินฝากธนาคาร เพื่อนำมาประกอบในสำนวน ก่อนจะมีการสรุปสำนวน นำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณา หากมีมูลจะมีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน ตรวจสอบต่อไป