สรุป "น้ำท่วม" 10 จังหวัด เดือดร้อน 11,407 ครัวเรือน เสียชีวิต 1 ราย
ปภ. รายงานสถานการณ์ "น้ำท่วม" ใน 10 จังหวัด ประชาชนได้รับผลกระทบ 11,407 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 1 ราย ประสานจังหวัดช่วยเหลือผู้ประสบภัย เร่งระบายน้ำ
เมื่อวันที่ 15 ก.ย. 64 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานในช่วงวันที่ 7 - 15 ก.ย. 64 เกิดอุทกภัยใน 28 จังหวัด รวม 100 อำเภอ 224 ตำบล 793 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 11,407 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 1 ราย ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ใน 10 จังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก กำแพงเพชร พิจิตร สมุทรปราการ ปราจีนบุรี เพชรบูรณ์ นครนายก พระนครศรีอยุธยา เลย และนครราชสีมา ภาพรวมหลายพื้นที่ระดับน้ำลดลง แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในบางพื้นที่ ทั้งนี้ ปภ. ได้ร่วมกับจังหวัด หน่วยทหาร อปท. อปพร. อาสาสมัคร และมูลนิธิ ได้เร่งระบายน้ำออก ส่วนพื้นที่สถานการณ์คลี่คลายได้จัด จนท. ลงพื้นที่สํารวจความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือตามระเบียบฯ ต่อไป
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานจากอิทธิพลร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุม ทะเลอันดามันและภาคใต้ฝั่งตะวันตก ทำให้บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันตกจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ สำหรับคลื่นลมในทะเลอันดามันตอนบนจะมีกำลังแรงขึ้น ตั้งแต่วันที่ 7 ก.ย. 64 – ปัจจุบัน (15 ก.ย. 64 เวลา 06.00 น.) ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินสไลด์ ในพื้นที่ 28 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน แพร่ ลําพูน ลําปาง ตาก พิษณุโลก เพชรบูรณ์กําแพงเพชร พิจิตร นครสวรรค์เลย ชัยภูมิ นครราชสีมา อุบลราชธานี ปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี จันทบุรี ระยอง ตราด ลพบุรี พระนครศรีอยุธยา นครนายก สมุทรปราการ ระนอง กระบี่ และตรัง รวม 100 อำเภอ 224 ตำบล 793 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 11,407 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 1 ราย (เชียงใหม่)
ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ใน 10 จังหวัด รวม 28 อำเภอ 84 ตำบล 3 เขตเทศบาล ได้แก่
1. พิษณุโลก น้ำท่วมขังในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอพรหมพิราม และอำเภอเนินมะปราง รวม 4 ตำบล
2. กำแพงเพชร น้ำท่วมขังในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอพรานกระต่าย และอำเภอลานกระบือ รวม 3 ตำบล
3. พิจิตร น้ำท่วมขังในพื้นที่ 10 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองพิจิตร อำเภอวังทรายพูน อำเภอดงเจริญ อำเภอวชิรบารมี อำเภอสามง่าม อำเภอโพทะเล อำเภอทับคล้อ อำเภอโพธิ์ประทับช้าง อำเภอสากเหล็ก และอำเภอบึงนาราง รวม 33 ตำบล 186 หมู่บ้าน
4. สมุทรปราการ น้ำท่วมขังในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองสมุทรปราการ อำเภอบางพลี อำเภอบางบ่อ และอำเภอบางเสาธง รวม 21 ตำบล 1 เขตเทศบาล
5. ปราจีนบุรี น้ำท่วมขังในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอกบินทร์บุรี และอำเภอศรีมหาโพธิ์ รวม 6 ตำบล
6. เพชรบูรณ์ น้ำท่วมขังในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอหล่มเก่า อำเภอหล่มสัก และอำเภอน้ำหนาว รวม 12 ตำบล 1 เขตเทศบาล
7. นครนายก น้ำท่วมขังในพื้นที่ตำบลบางอ้อ อำเภอบ้านนา
8. พระนครศรีอยุธยา น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอผักไห่ และอำเภอเสนา รวม 3 ตำบล
9. เลย น้ำท่วมขังในพื้นที่เขตเทศบาลตำบลคอนสาน อำเภอปากชม
10. นครราชสีมา น้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ตำบลโคราช อำเภอสูงเนิน
ภาพรวมหลายพื้นที่ระดับน้ำลดลง แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ ขณะที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำเพิ่มขึ้น สำหรับการให้ความช่วยเหลือ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัด หน่วยทหาร อปท. อปพร. อาสาสมัคร และมูลนิธิ ได้เร่งระบายน้ำออก ส่วนพื้นที่สถานการณ์คลี่คลายได้จัด จนท. ลงพื้นที่สํารวจความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือตามระเบียบฯ ต่อไป
ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้ประสบอุทกภัยสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM รวมถึงติดต่อสายด่วนนิรภัย 1784 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง