ปี 63 รายได้รวม 98 ล้าน! 2 ธุรกิจ “ปฐมพล จันทร์โอชา”-หจก.รับเหมาฯขาดทุนรอบ 5 ปี
เจาะ 2 ธุรกิจหลัก “ปฐมพล จันทร์โอชา” หลานชาย “บิ๊กตู่” โดน "ป.ป.ช." ไต่สวนปมตั้งในค่ายกองทัพภาค 3 คว้างานรัฐ 611 ล้าน หจก.รับเหมาฯ แจ้งขาดทุนครั้งแรกในรอบ 5 ปี บ.ให้เช่ารถ ขาดทุน 9.6 ล้าน แต่รายได้รวม 2 แห่ง 98 ล้าน
ในบรรดาคดีความต่าง ๆ ของ “กลุ่มขั้ว” ในพรรคพลังประชารัฐ-แกนนำรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่อยู่ระหว่างการไต่สวนในสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
ปฏิเสธไม่ได้ว่า มีคดีหนึ่งที่กลายเป็น “หอกข้างแคร่” ทิ่มแทง “นายกฯบิ๊กตู่” เสมอมา นั่นคือกรณี หจก.คอนเทมโพรารี คอนสตรัคชั่น ของนายปฐมพล จันทร์โอชา “หลานชาย” พล.อ.ประยุทธ์ บุตรชาย พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม กรณีจดทะเบียนจัดตั้งในค่ายทหารสมเด็จพระเอกาทศรถ กองทัพภาคที่ 3 และเข้ามาเป็นคู่สัญญากับกองทัพภาคที่ 3 หลายโครงการ รวมวงเงินหลายร้อยล้านบาท จนถูกตั้งข้อครหาว่า อาจมีผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่?
คดีนี้ถูกร้องเรียนไต่สวนตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นมา แต่เรื่องยังคงอยู่ในชั้นตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นของสำนักงาน ป.ป.ช. อยู่ แม้มีความเคลื่อนไหวเป็นระยะสั้น ๆ เช่น เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. เดินทางไปตรวจสอบที่ตั้งของ หจก.ดังกล่าวแล้วก็ตาม แต่ยังไม่มีความคืบหน้าอย่างชัดเจนเท่าที่ควร?
กล่าวสำหรับนายปฐมพล จันทร์โอชา ปรากฏชื่อเป็นกรรมการบริษัท/หุ้นส่วน หจก. อย่างน้อย 4 แห่ง ได้แก่ หจก.คอนเทมโพรารี คอนสตรัคชั่น บริษัท บีวิช คาร์ เร้นทอล จำกัด บริษัท มาซูมิ จำกัด และล่าสุด บริษัท พีทีที พาวเวอร์ กรุ๊ปคอน จำกัด
แต่ธุรกิจหลักของนายปฐมพลอย่างน้อย 2 แห่งคือ หจก.คอนเทมโพรารี คอนสตรัคชั่น เป็นคู่สัญญากับกองทัพภาคที่ 3 รวมถึงหน่วยงานของรัฐอื่น ๆ ระหว่างปี 2557-2563 รวมวงเงินอย่างน้อย 611.43 ล้านบาท
อีกแห่งบริษัท บีวิช คาร์ เร้นทอล จำกัด เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐ ระหว่างปี 2562-2564 รวม 130.83 ล้านบาท
มาดูรายได้ล่าสุดของ 2 ธุรกิจนี้กันบ้าง?
ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เมื่อวันที่ 20 ก.ย. 2564 พบว่า หจก.คอนเทมโพรารี คอนสตรัคชั่น นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2563 มีสินทรัพย์รวม 95,700,746 บาท หนี้สินรวม 92,962,389 บาท รายได้รวม 62,387,423 บาท รายจ่ายรวม 76,183,778 บาท ดอกเบี้ยจ่าย 2,794,675 บาท ขาดทุนสุทธิ 16,591,031 บาท
นับเป็นการขาดทุนครั้งแรกในรอบ 5 ปีของ หจก.คอนเทมโพรารี คอนสตรัคชั่น
โดยเมื่อปี 2562 รายได้รวม 146,413,407 บาท รายจ่ายรวม 137,632,786 บาท กำไรสุทธิ 2,466,255 บาท
ปี 2561 รายได้รวม 74,335,521 บาท รายจ่ายรวม 69,930,864 บาท กำไรสุทธิ 3,457,514 บาท
ปี 2560 รายได้รวม 97,162,388 บาท รายจ่ายรวม 91,265,839 บาท กำไรสุทธิ 4,701,071 บาท
ปี 2559 รายได้รวม 45,342,927 บาท รายจ่ายรวม 42,882,788 บาท กำไรสุทธิ 1,968,111 บาท
หจก.แห่งนี้จดทะเบียนเมื่อวันที่ 4 พ.ค. 2555 ทุนปัจจุบัน 3 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 160/19 หมู่ที่ 5 ต.อรัญญิก อ.เมืองพิษณุโลก จ.พิษณุโลก วัตถุประสงค์ที่ส่งงบการเงินปีล่าสุด รับเหมาก่อสร้างทั่วไป
มีนายปฐมพล จันทร์โอชา ลงหุ้นด้วยเงินสด 1 ล้านบาท น.ส.พัชรินทร์ ธีรวงศ์ภาสกร ลงหุ้นด้วยเงินสด 1 ล้านบาท และนางวัลละภา จันทร์โอชา ลงหุ้นด้วยเงินสด 1 ล้านบาท
ขณะที่บริษัท บีวิช คาร์ เร้นทอล จำกัด นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2563 มีสินทรัพย์รวม 303,229,635 บาท หนี้สินรวม 206,538,199 บาท รายได้รวม 36,503,283 บาท รายจ่ายรวม 63,312,640 บาท ขาดทุนสุทธิ 9,675,363 บาท
ปี 2562 รายได้รวม 11,424,963 บาท รายจ่ายรวม 17,525,807 บาท ขาดทุนสุทธิ 6,100,844 บาท
ปี 2561 ไม่มีรายได้ มีรายจ่ายรวม 32,356 บาท ขาดทุนสุทธิ 32,356 บาท
บริษัทแห่งนี้จดทะเบียนเมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 2561 ทุนปัจจุบัน 120 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 50/42 ซอยสุขาภิบาล 5 ซอย 27 คลองถนน เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร วัตถุประสงค์ที่ส่งงบการเงินปีล่าสุด การใช้เช่ายานยนต์
ปรากฏชื่อ นายบรรจง ตั้งจิตรวัฒนากุล นายชญานิน ปัตตพงศ์ นายนิกร ทั่งทอง นายอิทธิ สุเมธโชติเมธา นายปฐมพล จันทร์โอชา นายศิวพงศ์ บุญสาลี เป็นกรรมการ
รวมรายได้ 2 ธุรกิจหลัก “รับเหมาก่อสร้าง-ให้เช่ายานยนต์” ของ “ปฐมพล จันทร์โอชา” ปี 2563 ทั้งสิ้น 98,890,706 บาท รายจ่ายรวม 139,496,418 บาท
ส่วนอีก 2 แห่ง ได้แก่ บริษัท มาซูมิ จำกัด ทำธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้าและอะไหล่ นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2563 รายได้รวม 30,911 บาท รายจ่ายรวม 7,000 บาท กำไรสุทธิ 23,911 บาท ส่วนบริษัท พีทีที พาวเวอร์ กรุ๊ปคอน จำกัด (จดทะเบียนจัดตั้ง 5 พ.ค. 2564) ทำธุรกิจประกอบกิจการรับเหมาก่อสร้างอาคาร อาคารพาณิชย์ อาคารที่พักอาศัย ยังมิได้นำส่งงบการเงินต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า