ป.ป.ช.ฟัน"น้องติ๊ก"ซุกทรัพย์ โอกาส "พี่ตู่" พลิกเกม ?

จู่ๆ "คณะกรรมการ ป.ป.ช." มีมติเอกฉันท์ 9 เสียง ชี้มูลความผิด "บิ๊กติ๊ก" พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) น้องชายสุดเลิฟของ "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม แบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย

จากกรณีจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ และเอกสารประกอบ หรือปกปิดข้อเท็จจริงอันควรแจ้งให้ทราบ เมื่อครั้งที่ "พล.อ.ปรีชา" ดำรงตำแหน่งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)

ตามข้อกล่าวหา คณะกรรมการ ป.ป.ช. เห็นว่า พล.อ.ปรีชายื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ ในส่วนของการปกปิดมิได้แจ้งถือครองบ้านใน จ.พิษณุโลก รวมถึงปกปิดบัญชีเงินฝากของ "ผ่องพรรณ จันทร์โอชา" ภริยา

จะว่าไปแล้ว คดีปกปิดบัญชีทรัพย์สินโทษทางกฎหมายไม่ได้หนักหนาสาหัสอะไร กรณีตัวอย่างปลายปีที่แล้ว "นาที รัชกิจประการ" อดีต ส.ส.ภูมิใจไทย ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตัดสินจำคุก 1 เดือน แต่รอลงอาญา 1 ปี กรณีปกปิดบัญชีทรัพย์หรือแจ้งทรัพย์สินอันเป็นเท็จ

ส่วนโทษที่จะถูกตัดสิทธิทางการเมือง ฟันธงได้เลยว่า สำหรับนักการเมืองเฉพาะกิจอย่าง พล.อ.ปรีชา ไม่แคร์แน่นอน เพราะหากพ้นจากเก้าอี้ ส.ว. แล้ว แทบจะปิดประตูเข้าสู่เส้นทางการเมือง ลงสนามเลือกตั้ง ส.ส. หรือ ส.ว.

นักสังเกตการณ์มองว่า จังหวะ ป.ป.ช.ในการเชือด พล.อ.ปรีชา แม้จะดูเหมือนว่า กระแสนี้จะส่งผลลบกระทบกับ พล.อ.ประยุทธ์ และอาจถูกฝ่ายตรงข้ามนำไปขยายผลโจมตีเรื่องคนใกล้ตัว แต่หากมองในเหลี่ยมการเมืองแล้ว อาจไม่เป็นเช่นนั้น

ในทางกลับกัน เรื่องนี้อาจนำไปสู่การ ”พลิกเกม” ให้เป็นผลดีต่อ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ไม่ยาก โดยเฉพาะพ้นข้อครหาช่วยเหลือญาติพี่น้องไปได้ อย่างน้อยก็ไม่ได้ปกป้องน้องชายจนตัวเองหมดเครดิต

ทั้งยังเป็นโอกาสดี ที่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ฟอกตัวเองจากข้อกล่าวเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้อง ที่ถูกโจมตีทั้งในสภา นอกสภา เพราะยังมีคดี "นักการเมือง" ในมือ ป.ป.ช. อีกหลายรายที่จะต้องชี้มูล

ขณะเดียวกันก็ยังเคลียร์ความโปร่งใสขององค์กรอิสระอย่าง ป.ป.ช.ที่ถูกครหาว่าเป็นมือไม้ของ 1 ใน 3 ป.ได้อีกทาง

นับจากนี้ “บิ๊กตู่”จะขับเคี่ยวพรรคร่วมรัฐบาลให้เร่งผลงานตั้งแต่ปีนี้ให้เห็นเป็นรูปธรรม ซึ่งเท่ากับการส่งสัญญาณนับถอยหลังเลือกตั้ง อีก 1 ปีกว่า

ที่น่าสนใจคือ เริ่มเห็นการปรับท่าที และขยับจังหวะการเมือง แบบ”ถอยเพื่อรุก” ของ”บิ๊กตู่”ได้ชัดเจนขึ้น อย่างที่เห็นกันแล้วว่า มีคำ “ขอโทษ” กรณีปัญหาวัคซีนโควิดอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งอาจไม่ต่างกับสถานการณ์น้องชาย ที่ “บิ๊กตู่” มีโอกาสโกยคะแนนเห็นใจท่วมท้น