"กรุงเทพ แซนด์บ็อกซ์" เกิดแน่นอน เร่งหารือภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ 22 ก.ย.นี้
ศบค.ระบุ "กรุงเทพ แซนด์บ็อกซ์" เปิดแน่ เตรียมหารือร่วมกับทีมภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ 22 ก.ย.นี้ ย้ำไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องฉีดวัคซีนเข็ม2 ครบ 70-80% มีแผนรองรับ มีแผนเตรียมการผ่านสธ.ก่อน ส่วนจังหวัดอื่นๆ แจงใครพร้อมเปิด ใครไม่พร้อมรอก่อน
วันนี้ (20 ก.ย.2564)พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กล่าวถึงการเปิดพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวในเดือนต.ค.นี้ ว่า การจะเปิดจังหวัด เปิดพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวได้นั้น แต่ละพื้นที่ แต่ละจังหวัดจะมีต้องการจัดทำแผนการพัฒนาพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว และต้องมีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ให้ครอบคลุมเกิน 70-80% รวมถึงต้องมีแผนรองรับหากมีการระบาดเกิดขึ้น ทั้งนี้การเสนอแผนต้องผ่านการพิจารณาและตรวจสอบจากกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) หรือคณะกรรมการควบคุมโรคในแต่ละจังหวัดก่อน
ทั้งนี้ จากสถานการณ์ทิศทางของผู้ติดเชื้อในแต่ละพื้นที่ จะเห็นได้ว่า กทม.และปริมณฑลมีอัตราการติดเชื้อลดลง ซึ่งวันนี้ (20 ก.ย.2564 )มีผู้ติดเชื้อประมาณ 40% ขณะที่บางภาคของประเทสไทย อย่าง ภาคอีสาน จ.บึงกาฬ ไม่พบผู้ติดเชื้อ และหลายๆ จังหวัดมีผู้ติดเชื้อลดน้อยลงอย่างต่อเนื่อง หรือภาคเหนือที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อลดลง ดังนั้นหลายๆ พื้นที่อาจจะมีการจัดทำแผนการพัฒนาเป็นพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว
- "กรุงเทพ แซนด์บ็อกซ์" ยังไม่กำหนดวันเปิด
พญ.อภิสมัย กล่าวต่อว่าในส่วนกทม.นั้น ขณะนี้ยังไม่ได้มีการดำเนินการอย่างชัดเจนว่าจะมีการเปิดพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวในช่วงไหน แต่จะมีการพัฒนาพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว เหมือนภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ อย่างแน่นอน โดยต้องพิจารณาจากจำนวนผู้ติดเชื้อ และจำนวนผู้ฉีดวัคซีนในจังหวัด เป็นหลัก
เบื้องต้น ขณะนี้จำนวนผู้ติดเชื้อลดลงรายวันลดลง ส่วนของการฉีดวัคซีน พบว่า เข็มที่ 1 มีผู้ได้รับวัคซีนแล้ว จำนวน 7,863,347 ราย หรือ 102.13% และเข็มที่ 2 จำนวน 3,277,404 ราย หรือ 42.57% และเข็มที่ 3 จำนวน 197,982 ราย รวมถึงมีผู้ที่เข้าไปอยู่รักษา Home Isolation และศูนย์พักคอย ในพื้นที่กรุงเทพมหานครลดลงอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้ มีผู้ที่รักษาตัว Home Isolation 6,644 ราย หากกราฟมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง จะทำให้การเปิดบ้านเปิดเมือง กรุงเทพ แซนด์บ็อกซ์ มีโอกาสเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน
"กรุงเทพ แซนด์บ็อกซ์ ยังไม่กำหนดวัน และประชาชนกทม.ต้องได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 เกิน 70% และจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันต้องลดลงอย่างต่อเนื่อง รวมถึงจะมีพิจารณาควบคู่สภาพเตียงรองรับ หากมีการติดเชื้อสูงขึ้น ต้องมีศักยภาพรองรับได้ เพราะก่อนเปิดบ้านเปิดเมือง ต้องดูแลประชาชนในปลอดภัย"พญ.อภิสมัย กล่าว
- เตรียมหารือเปิด "กรุงเทพ แซนด์บ็อกซ์" 22 ก.ย.นี้
อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีการหารือ การเปิดบ้านเปิดเมือง "กรุงเทพ แซนด์บ็อกซ์" อย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมการต่างๆ แต่ต้องยอมรับการเปิด กรุงเทพ แซนด์บ็อกซ์ ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะสิ่งสำคัญต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน และศักยภาพในการรองรับหากมีการติดเชื้อพุ่งสูงขึ้น ดังนั้น การขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่างๆ มีความสำคัญแต่ก็ต้องให้คนในประเทศปลอดภัยร่วมด้วย
"ในวันพุธที่ 22 ก.ย.2564 นี้ทางทีมกทม. จะมีการประชุมหารือผ่านวิดีโอ คอนเฟอเรนซ์ ร่วมกับทีมภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ ซึ่งถือว่า เป็นต้นแบบที่นำร่องท่องเที่ยว ที่สามารถดึงรายได้เข้าสู่ภูเก็ต และประเทศได้ ทั้งนี้ ได้มีการรายงานว่าตั้งแต่เปิดภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.2564 -14 ก.ย.2564 มีนักท่องเที่ยวทั้งหมด 32,005 คน พบผู้ติดเชื้อ 91 ราย หรือ 0.28% ซึ่งทางภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ได้ดำเนินการตามมาตรการต่างๆ อย่างเคร่งครัด และมีการเปิดคลินิกอุ่นใจ ให้บริการแบบครบวงจร One Stop Sevice โทร.0-7625-4200 กว่า 20 คู่สาย ซึ่งจะมีทีมแพทย์ บุคลากรทางการแพทย์รับคัดกรอง หากพบผู้ติดเชื้อ ก็จะเข้าสู่กระบวนการรักษาตามอาการได้อย่างทันถ่วงที" พญ.อภิสมัย กล่าว
ในส่วนของกทม. จะมีการหารือและเรียนรู้ร่วมกัน ภายใต้ข้อกำหนดของกระทรวงสาธารณสุข ไม่ว่าจะเป็น แผนการนำเสนอพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว การเตรียมความพร้อม มีแผนการรองรับหากพบผู้ติดเชื้อ มีแพทย์ยุติโครงการต้องดำเนินการ ซึ่งทุกพื้นที่ไม่ว่าจะกทม. และพื้นที่จังหวัดอื่นๆ ต้องดำเนินการเหมือนกันหมด อย่าง เชียงใหม่ คาดว่าเดือนพ.ย.นี้ ประชาชนจะฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม เกิน 70% ซึ่งหากมีแผน มีการเตรียมพร้อม ไม่พบผู้ติดเชื้อ ก็สามารถดำเนินการเปิดบ้านเปิดเมืองได้เช่นกัน
ส่วน จ.ชลบุรี เบื้องต้นอาจจะพิจารณาเป็นอำเภอ เพราะในแต่ละพื้นที่มีการติดเชื้อแตกต่างกัน การพิจารณาเป็นพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว ถ้าพื้นที่ไหนทำได้ก็ทำทันที โดยอาจเลือกเป็นบางอำเภอ บางตำบลที่ไม่พบผู้ติดเชื้อ มีการฉีดวัคซีนครบก็สามารถทำได้
พญ.อภิสมัย กล่าวต่อไปว่า การเปิดพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวในเดือนต.ค.นี้ โดยหลักๆ เป้าหมายคือ ทั่วประเทศ ในทุกๆ จังหวัดจะมีอย่างน้อย 1 อำเภอที่สามารถดำเนินการได้ โดยอำเภอไหน ตำบลใดสามารถทำได้ก็ทำเป็นพื้นที่นำร่อง จะต้องฉีดวัคซีนให้ครอบคลุม 70-80% โดยทางคกก.โรคติดต่อจังหวัดร่วมกับภาครัฐ เอกชน สามารถพิจารณาได้ตามเหมาะสม ตามพื้นที่ ภายใต้มาตรการของสธ.ที่มีความเข้มงวด
- ย้ำใครพร้อมเปิดขอให้เปิด ใครไม่พร้อมรอก่อน
พญ.อภิสมัย กล่าวด้วยว่า ใครพร้อมสามารถทำได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นจังหวัด อำเภอ ตำบล รวมถึงในสถานประกอบการ ผู้ประกอบการที่ดำเนินการตามมาตรการสธ. มีการฉีดวัคซีนให้พนักงานครบ มีการซื้อชุดตรวจ ATK ตรวจคัดกรองให้แก่พนักงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสถานประกอบการสามารถซื้อชุดตรวจ ATK สามารถลดหย่อนภาษีได้ถึง 1.5 เท่า และมีการจัดแบ่งพื้นที่ หากผู้ประกอบการ และลูกค้าให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี หรือหากมีการติดขัดให้รายงานสาธารณสุขรับทราบจะได้นำไปปรับเป็นวิถีชีวิตใหม่ และทุกสถานประกอบการจะอยู่ได้
อย่างไรก็ตาม ทุกๆ ผู้ประกอบการ ไม่ว่าจะเป็น โรงภาพยนตร์ หรือสถานบันเทิง หรือร้านอาหาร หากมีความพร้อม สามารถปฎิบัติตามมาตรการของสธ.ได้ ขอให้ค่อยๆ เปิด ถ้าไม่พร้อมขอให้รอก่อน ไม่มีการหลงลืมสถานประกอบการใด แต่ขอให้ทุกท่านให้ความร่วมมืออย่างค่อยเป็นค่อยไป พร้อมทำได้ขอให้ทำ จะได้ผ่านวิกฤตนี้ไปได้ ทั้งนี้ ทุกๆมาตรการ และการช่วยเหลือในทุกสถานประกอบการ จะมีการนำเสนอศบค.ชุดใหญ่ในวันที่ 27 ก.ย.นี้ ต่อไป