น้ำป่าหลากท่วมบ้าน 300 หลัง เมืองกำแพงเพชร เร่งอพยพออกจากพื้นที่อันตราย

เมื่อเวลา  20.00 น. วันที่ 26 กันยายน 2564 น้ำป่าจากเทือกเขาตะวันตก เอ่อล้นคลองสวนหมากไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ของตำบลนาบ่อคำ ได้แก่ หมู่ 3, 5 ,15,17, 24  อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ประมาณ 300 หลังคาเรือน โดยระดับน้ำมีความสูงประมาณ 1 เมตร มวลน้ำทั้งหมดจะไหลลงสู่แม่น้ำปิง

เจ้าหน้าที่กรมการปกครอง อบต.นาบ่อคำ กู้ภัยข่าวภาพ พร้อมด้วยผู้นำหมู่บ้าน เร่งช่วยเหลือประชาชนในหมู่บ้านท่ามกลางกระแสน้ำไหลเชี่ยว โดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุออกจากพื้นที่อันตราย ถูกน้ำป่าไหลเข้าท่วมบ้านเรือน ด้วยความยากลำบาก เมื่อช่วงค่ำคืนที่ผ่าน

นายฤทธิรงค์ เปรมศรี นายก อบต.นาบ่อคำ เปิดเผยว่า ก่อนหน้าที่จะเกิดน้ำป่าไหลหลาก ได้มีการประสานให้ผู้นำชุมชนประกาศแจ้งเตือนชาวบ้าน ให้มีการเตรียมความพร้อม รับสถานการณ์น้ำป่าไหลหลาก โดยการเก็บของขึ้นที่สูง ซึ่งมีชาวบ้านบางส่วนที่อาศัยอยู่ในบ้านชั้นเดียว จึงไม่สามารถอยู่อาศัยได้และในขณะนี้ไม่สามารถเดินทางเข้าออกจากหมู่บ้านได้

เนื่องจากกระแสน้ำแรงมาก ทางอบต.นาบ่อคำ จึงได้มีการประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่สมาคมหน่วยกู้ภัยข่าวภาพกำแพงเพชร ให้มีการเข้าช่วยเหลือขนย้ายประชาชนออกจากพื้นที่ เนื่องจากเกรงว่าปริมาณน้ำจะสูงขึ้น จนอาจเกิดอันตรายได้ โดยได้มีการนำรถบรรทุกขนาดใหญ่ เข้าไปในพื้นที่ พร้อมกับขนย้ายประชาชนที่ต้องการอพยพออกมาจากบริเวณดังกล่าวโดยเฉพาะผู้สูงอายุ

นางพัด บงชมพู อายุ 73 ปี อยู่บ้านเลขที่ 57 หมู่ 3 บ้านแม่นารี ตำบลนาบ่อคำ อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร หนึ่งในผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ภายในหมู่บ้าน เปิดเผยว่า ตนเองได้มีการเตรียมเก็บข้าวของบางส่วนขึ้นที่สูงแล้ว แต่ไม่คิดว่าน้ำจะไหลเชี่ยวขนาดนี้ จนทำให้บ้านบริเวณชั้นล่างไม่สามารถอยู่อาศัยได้ และกำลังจะท่วมบริเวณชั้นสอง ดังนั้นจึงได้ขอให้ทางกู้ภัยนำตนออกมา เพื่อจะได้ไปอาศัยอยู่ที่บ้านของลูกสาวก่อน เพื่อความปลอดภัยรอจนกว่าระดับน้ำจะลดลงแล้วจึงจะกลับเข้ามาในพื้นที่อีกครั้งหนึ่ง สำหรับประชาชนที่อพยพออกมาจากที่อยู่อาศัย จะมีการเคลื่อนย้ายไปพักที่หอประชุมอบต.นาบ่อคำก่อนเป็นการชั่วคราว

ด้าน นายประสิทธิ์ อินทโชติ นายอำเภอเมืองกำแพงเพชร เปิดเผยว่า ทางจังหวัดกำแพงเพชร ได้มีการติดตามสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง และได้มีการส่งกำลังพลลงพื้นที่เพื่อทำการช่วยเหลือประชาชน ซึ่งในเบื้องต้นเป็นการช่วยเหลือประชาชนออกมาจากบริเวณที่เป็นอันตรายก่อน ส่วนในเรื่องของความเสียหาย จะได้มีการสำรวจความเสียหายหลังจากที่น้ำลดแล้ว ทั้งงบประมาณในส่วนของการซ่อมแซมบ้านเรือน และพืชผลทางการเกษตร และจะได้มีการจัดสรรงบประมาณในการชดเชยความเสียหายให้กับประชาชนต่อไป