งานเข้า "ซ้อปลา" แชร์ล่ม? 60 คนแห่ทวงเงิน 15 ล้าน ตร.ฟ้องกลับอ้างรีด 5 ล้าน
คดีดัง.. งานเข้า "ซ้อปลา" คนดัง วงแชร์ล่ม! ผู้เสียหาย 60 คนแห่ทวงเงิน 15 ล้าน ตร.ฟ้องกลับแจ้งความเท็จรีดเงิน 5 ล้าน
ที่สงขลา “ซ้อปลา” งานเข้า!! คดีถูกรีดเงิน 5 ล้านยังไม่จบ พบคดีใหม่วงแชร์ล่ม ลูกแชร์แตกตื่นแห่บุกบ้านทวงเงิน นัดรวมพล สภ.เมืองสงขลา ร้องทุกข์กลัวไม่ได้เงินคืน ด้านทนายรับเรื่องช่วยเหลือลูกแชร์ พร้อมตั้งทีมทนายช่วยตำรวจที่ถูกกล่าวหา เดินหน้าฟ้อง “ซ้อปลา” แจ้งความเท็จรวมทั้งหมิ่นประมาท
วันนี้ 29 กันยายน 2564 ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองสงขลา กลุ่มประชาชนกว่า 60 ราย รวมตัวยื่นเอกสารร้องทุกข์ กรณีมีข่าวว่าบ้านแชร์ซ้อปลาล่ม กลุ่มบุคคลที่คาดว่าจะได้รับความเสียหายจำนวนหนึ่ง หวั่นว่าเงินที่ลงทุนไปจะสูญจึงเดินทางมายื่นร้องทุกข์ต่อทีมทนายใจดี เพื่อหวังให้ดำเนินการไกล่เกลี่ย ขอเงินต้นที่ลงทุนไปกลับคืน
ผู้เสียหายรายหนึ่ง เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้เคยเล่นแชร์ไว้แต่ยังไม่ถึงรอบรับเงิน และส่วนหนึ่งได้นำเงินไปออมเพิ่มอีกจำนวน 50,000 บาท จำนวน 30 วันแต่ก็ยังไม่ทันได้รับเงินและดอกเบี้ยตามรอบที่กำหนด ก็มีข่าวว่าบ้านแชร์จะล่มจึงกลัวว่าจะสูญเงินทั้งหมดจึงเดินทางมาร้องเรียนที่ สภ.เมืองสงขลาวันนี้ หวังแค่อยากได้เงินต้นที่ลงทุนไปคืน
ด้านผู้เสียหายอีกราย กล่าวว่า ได้ออมเงินไปกับ “ซ้อปลา” ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมและได้ดอกเบี้ยคืนมาทุก 30 วัน โดยได้ครั้งละ 10,000 บาท ออมเงินไป 250,000 บาท ครั้งล่าสุดที่ได้มาคือเมื่อวันที่ 27 ก.ย. ที่ผ่านมา และก็เงินต้นไม่ได้ถอนคืนก็ลงทุนต่อ แต่วันนี้ได้ข่าวจากโซเชียลมีเดียว่า บ้านแชร์ "ซ้อปลา" จะล่ม ก็เลยเดินทางมายื่นร้องทุกข์ต่อกลุ่มทนายความ เพราะกลัวว่าเงินที่ลงทุนไปจะสูญตอนนี้จึงอยากถอนเงินที่ลงทุนไปคืน
ในส่วนของกลุ่มทนายใจดี นำโดยว่าที่ร้อยตรีชัชวาล บำรุงวงศ์ เปิดเผยว่า เราได้รับการร้องเรียนผ่านสื่อและผู้เสียหายหลายท่านและเนื่องจากเป็นคดีที่เร่งด่วนและพบผู้เสียหายทั่วประเทศส่วนใหญ่จะผู้เสียหายในจังหวัดสงขลา หากแยกกันแจ้งความร้องทุกข์จะทำให้คดีล่าช้าจึงได้นัดผู้เสียหาย เพื่อร้องทุกข์และมอบเอกสารร้องทุกข์ให้แก่ผู้บังคับการตำรวจภูธรสงขลาเพื่อให้ดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบสวน
โดยวันนี้ มีผู้เสียหายประมาณ 100 ราย มูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 15 ล้านบาท ซึ่งเป็นการลงทุนผ่านการออมเงินให้ผลตอบแทนสูงและการเล่นแชร์
หลังจากทางทีมทนายใจดี จะมีการยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ง. และ ปอท. และสรรพากรเพื่อให้ตรวจสอบเส้นทางและที่มาของเงินต่อไปขณะที่คดีอาญาที่ นางสาวกมลวรรณ ได้มีการร้องให้ตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนที่บุกเข้าตรวจค้นบ้านนั้น
พ.ต.อ.ปพนวัฒน์ ขัตติยะวรานันท์ ในฐานะทนายผู้ทำคดีในนามกลุ่มทนายใจดี กล่าวว่า ตอนนี้เราอยู่ในระหว่างการรวบรวมหลักฐาน เพราะมันชัดเจนว่าเราไม่ได้ผิดและเราถูกกล่าวหาและถูกหมิ่นประมาท และจะดำเนินการเรื่องแจ้งความเท็จรวมทั้งหมิ่นประมาทเพื่อการโฆษณาและเชื่อว่าจะสามารถหาข้อยุติได้ในเร็วๆนี้ และจะเข้าแจ้งความภายในวันที่ 30 ก.ย.นี้ เพราะเรามีหลักฐานทั้งหมายค้นและบันทึกการตรวจค้นบันทึกการคืนทรัพย์สิน ทั้งภาพถ่ายทั้งหมดเรามีหลักฐานพร้อมทั้งหมด
นอกจากนี้พ.ต.อ.ปพนวัฒน์ ยังกล่าวอีกว่า ทางทีมตำรวจก็มีทั้งหลักฐานและพยานบุคคลที่ยืนยันได้ว่าร่วมเป็นสักขีพยานในการคืนเงินจริง ครบตามจำนวนแล้วจริง โดยหลังจากรวบรวบเอกสารร้องทุกข์เรียบร้อยกลุ่มทนายใจดีและตัวแทนผู้เสียหายก็ได้ยื่นเอกสารถึงผู้บังคับการตำรวจภูธรภาค 9 เพื่อให้ดำเนินการตามกระบวนการต่อไป