“ธรรมนัส”ยก 4 พรรค "ปชป.-พท.-ภท. -กก." คู่แข่งเลือกตั้ง ไม่ใช่แค่“ก้าวไกล”
“ธรรมนัส” ยก 4 พรรคการเมือง “ปชป.-เพื่อไทย-ภท.-ก้าวไกล” เป็นคู่แข่งในสนามเลือกตั้งทั้งหมด ปัดมองแค่ กก.เป็นศัตรูพรรคเดียว แค่เปรียบเทียบให้ฟังเท่านั้น ยันภายใน พปชร. 99% รักกัน
เมื่อวันที่ 16 ต.ค. 2564 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีการลงพื้นที่ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่มีมวลชนบางส่วนต่อต้าน ว่า ในฐานะที่ตนเป็นผู้แทนราษฎร ไม่ใช่ว่าตน เป็นผู้แทนราษฎรพรรคพลังประชารัฐแล้วจะไม่มีพรรคพวก คิดว่า การต่อต้านเป็นเรื่องการเมือง ที่มักจะมีกลุ่มต่อต้าน ตนมักจะพูดเสมอว่าหากเข้าสู่เวทีการเมือง ต้องยอมรับความคิดเห็นต่าง และนำสิ่งนั้นมาแก้ไขซึ่งถือเป็นสิ่งที่สำคัญ
ส่วนกรณีหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐลงพื้นที่ จ. ขอนแก่น นั้น ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร ก็ไม่ได้รู้สึกอะไร เพราะหากคิดว่าประชาชนส่วนหนึ่งต้องการอย่างนั้น เราก็ต้องนำมาศึกษา และได้สั่งการให้ไปศึกษาว่าเรื่องอะไร ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี เราอย่าไปมองว่าคนที่เห็นต่างจะเป็นศัตรู
อ่านข่าว : “ธรรมนัส”เผยแคนดิเดตผู้ว่าฯ กทม. “พลังประชารัฐ”มอบ ส.ส.กทม.-กก.บห.เคาะ
ส่วนจะต้องปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ถูกต้องนี่คือธรรมชาติของบ้านเมืองเรา เราจึงต้องนำความคิดเห็นของผู้เห็นต่าง ไม่ว่าจะเป็นเยาวชนหรือคนกลางวัย นำมาศึกษาและแก้ไข
ส่วนกรณีภาพที่ออกมาให้เห็น ในการลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีวานนี้ คือเจ้าหน้าที่พยายามกีดกันประชาชนบางส่วนที่ต้องการเข้าถึงนายกรัฐมนตรี ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่ทราบเพราะในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ตนไม่เห็น แต่ถ้าตนเดินทางไปกับหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เรามักจะพูดเสมอว่า อย่ากันเขา ให้เขาได้แสดง เพราะถ้ายิ่งกันเหมือนยิ่งไปห้าม
เมื่อถามถึงกรณีที่เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐเคยพูดในที่ประชุมสมาชิกพรรค เรื่องปัญหาภายในพรรคว่าหากไม่สามัคคีกันจะทำให้แพ้พรรคก้าวไกล ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ส.ส. พรรคพลังประชารัฐร้อยละ 99% เรารักกัน ตนยืนยัน ว่าเรารักกันซึ่งจะสังเกตได้เวลาเราทำอะไรจะทำเป็นทีม แท็กทีมกัน เรามีหัวหน้าพรรคที่เป็นคนใจถึงพึ่งได้ ต้องยึดหัวหน้าเป็นที่ตั้ง ทีมเวิร์คเราต้องไปด้วยกัน มีหลายคนที่ทำงานให้พรรคพลังประชารัฐ เป้าหมายคือเพื่อชาติบ้านเมืองและประชาชน เพราะฉะนั้นศัตรูการเลือกตั้งทางการเมือง ไม่ใช่พลังประชารัฐด้วยกัน แต่ต้องมองว่าเราจะไปสู้กับศัตรูข้างหน้ากันอย่างไร
เมื่อถามอีกว่าเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐเคยระบุใช่หรือไม่ ว่าพรรคก้าวไกลคือศัตรูทางการเลือกตั้งอันดับหนึ่ง ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตน ไม่ได้มองว่าพรรคใดเป็นศัตรูทางการเมือง เมื่อลงสู่สนามเลือกตั้งนั้นคือเราออกสนามรบ ทำอย่างไรที่จะไปชนะใจชาวบ้าน ให้มากาพรรคพลังประชารัฐ เราเพียงเปรียบเปรยเฉยๆ
"เราไม่ได้มองเป็นศัตรู เพราะเมื่อถึงสนามเลือกตั้ง นั่นคือสนามรบทางการเมือง เราจึงต้องมียุทธศาสตร์ และวิธีอย่างไรที่จะเอาชนะ เอาเสียงมาให้ได้" ธรรมนัสกล่าว
เมื่อถามย้ำว่า การที่ยกตัวอย่างพรรคก้าวไกลขึ้นมาแสดงว่าเขามีคะแนนนิยมที่ดีกว่าใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า พรรคการเมืองเวลาสู้กันในสนาม มีไม่กี่พรรค เพื่อไทย ก้าวไกล ประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย ที่จะสู้กันอย่างหนัก ตนไม่ได้มองว่าเป็นก้าวไกลพรรคเดียว