"กก.จริยธรรม สภาฯ" รับสอบ "มงคลกิตติ์" ขู่ชก "สิระ"
กรรมการจริยธรรมสภาฯ มีมติรับสอบ "มงคลกิตติ์" โพสต์เฟซบุ๊คขู่ชก "สิระ" พร้อมให้อนุฯ ตรวจสอบข้อเท็จจริง 2ส.ส.พปชร. เสียบบัตรแทนกัน เพิ่มเติม ก่อนมีมติรับไว้ตรวจสอบต่อหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม คณะกรรมการจริยธรรมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ เป็นประธานคณะกรรมการฯ ได้พิจารณารายงานความเห็นของอนุกรรมการจริยธรรมสภาฯ เพื่อตรวจสอบ กลั่นกรอง แสวงหาข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานเบื้องต้นในเรื่องร้องเรียน ซึ่งมีผลการพิจารณา จำนวน 4 ประเด็น ซึ่งมติของกรรมการฯ มีมติรับเรื่องไว้พิจารณา จำนวน 1 เรื่อง คือ กรณีของนายมงคลกิตติ์ สุขสินธรานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และห้วหน้าพรรคไทยศรีวิไลยก์ กรณีโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว ประเด็นจะทำร้ายร่างกายนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ เพราะการกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรม แม้ภายหลังนายมงคลกิตติ์ จะลบโพสต์ดังกล่าวในเวลา แต่ข้อความดังกล่าวปรากฎเป็นข่าวต่อสาธารณชนและที่รับรู้ของประชาชนทั่วไป ทั้งนี้นายมงคลกิตต์ ต้องแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า กรรมการจริยธรรมมีมติไม่รับเรื่องไว้พิจารณา 3 เรื่อง คือ 1.กรณีให้ตรวจสอบจริยธรรม พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย ฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาฯ เพราะเลือกปฏิบัติไม่รับหนังสือร้องเรียนและใช้วาจาไม่สุภาพ เนื่องจากไม่มีมูลเพียงพอจะเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนมาตรการจริยธรรม
2. ร้องเรียน นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ที่ใช้สิทธิร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนที่สภ.บุรีรัมย์โดยไม่สุจริตและกลั่นแกล้ง เนื่องจากการใช้สิทธิกล่าหาผู้ร้องร่วมกันกระทำผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาเป็นสิทธิอันชอบธรรมที่ทำได้
และ 3. ร้องเรียนกรณี 5 ส.ส.เสียบบัตรแทนกันในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ได้แก่ นายฉลอง เทอดวีระพงศ์ ส.ส.พัทลุง พรรคภูมิใจไทย , น.ส.ภริม พูลเจริญ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชารัฐ , น.ส.ภาดา วรกานนท์ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ, นายทวิรัฐ รัตนเศรษฐ ส.ส.นครราชสีมา พรรคพลังประชารัฐ และ นายสมบูรณ์ ซารัมย์ ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าโดยกรณีของนายฉลอง กรรมการไม่รับไว้พิจารณา เพราะอยู่ระหว่าางดำเนินการของ ป.ป.ช. ส่วนกรณีของ น.ส.ภาดา และ นายสมบูรณ์ กรรมการไม่รับเรื่องไว้พิจารณา เช่นกัน เนื่องจากไม่มีข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่เพียงพอ แต่กรณีของน.ส.ภริม และนายทวิรัฐนั้น อนุกรรมการอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม