เปิดชนวนเดือด! "นิพิฏฐ์-ปชป." ส.ส.โวยเตะสกัดลงเขต ปูดเกมฮั้วพปชร.-ภท.

เปิดชนวนเดือด! "นิพิฏฐ์-ปชป." ส.ส.โวยเตะสกัดลงเขต ปูดเกมฮั้วพปชร.-ภท.

เปิดชนวนเดือด! "นิพิฏฐ์-ปชป." ส.ส.โวยกลุ่มอำนาจเตะสกัดลงส.ส.เขต -บีบขึ้นปาร์ตี้ลิสต์ คลื่นใต้น้ำขวางเกมฮั้วพปชร.-ภท.

หลังจากที่ก่อนหน้านี้นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลพื้นที่ภาคใต้ โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า

“การกลิ้งกลอก ตลบตะแลง หักหลังคนอื่น มันไม่เป็นมงคลกับชีวิต อย่าทำเลยครับน้องทั้งสอง” และ “ผมอยู่ในพรรคประชาธิปัตย์มา 27 ปี เป็น ส.ส. 8 สมัย เป็นรองหัวหน้าพรรคภาคใต้ 3 สมัย ยาวนานที่สุดในประวัติของพรรค เป็นรัฐมนตรี 1 ครั้ง ถูกฟ้องเพราะออกมาปกป้องพรรค 12 คดี ผมไม่อาจพูดได้ว่า รักพรรคมากกว่าใคร แต่พูดได้ว่า ผมรักพรรคไม่น้อยกว่าใคร จะทำอะไรก็ให้เกียรติกันหน่อย หรือวันนี้ไม่รู้จักคำว่า "ให้เกียรติ" กันแล้ว ถ้าอย่างนั้น อยากจะทำอะไรก็ทำไปเถอะครับ”

และต่อมาได้โพสต์ ข้อความสั้นๆ อีกว่า “เราเสีย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ.. เสียกรณ์ จาติกวณิช ไปแล้ว.. มันคุ้มหรือครับ กับการที่จะเสียต่อไปอีก..ถ้าคุ้มก็ทำไป”

ล่าสุดแหล่งข่าวระดับสูงในพรรคประชาธิปัตย์ วิเคราะห์ว่า การที่นายนิพิฏฐ์  ออกมากระตุกเตือนในเฟซบุ๊ก เป็นเพราะพรรคประชาธิปัตย์ กำลังเดินหลงทาง หลังขาดผู้นำอย่างนายอภิสิทธิ์ จึงทำให้การคัดเลือกผู้สมัคร ส.ส. เป็นเพียงแค่กลุ่มก้อน ของกลุ่มที่ถืออำนาจอยู่เท่านั้น ซึ่งบางคนถูกกีดกันไม่ให้รับรู้เรื่องเลย 

รวมถึงอาจมี ส.ส.บางเขต ต้องถูกโยกให้ไปลงสมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อแทน เพื่อเปิดทางให้กลุ่มก้อนตัวเอง มาลงสมัครรับเลือกตั้งแทน ทั้งที่พรรคประชาธิปัตย์ เป็นพรรคเก่าแก่ ผ่านสนามเลือกตั้งมาอย่างโชกโชน ควรจะมีระบบคัดเลือกผู้สมัคร ที่เป็นธรรม ซึ่งจะทำให้ไม่เกิดคลื่นใต้น้ำแบบนี้

แหล่งข่าวระดับสูงในพรรคประชาธิปัตย์ ยังมองว่า การออกมากระตุกเตือนของนายนิพิฏฐ์ ยังเป็นการเตือนว่า พรรคประชาธิปัตย์ หากยังเดินแบบนี้ จะตกขบวนของพรรคร่วมรัฐบาล เพราะพรรคพลังประชารัฐ ได้มีการส่งซิก กับพรรคภูมิใจไทย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ที่จะไม่ส่งผู้สมัคร ส.ส. ชนกัน เพื่อไม่ให้คะแนนตัดกันเอง จึงทำให้มีโอกาสชนะฝ่ายค้านง่ายกว่า เนื่องจากฝ่ายค้าน ยังมีคะแนนตัดกันเองอยู่ แต่พรรคร่วมรัฐบาล จะไม่ส่งตัดกันเอง เพื่อให้ได้จำนวน ส.ส.ไม่น้อยกว่าเดิม โดยมีหลักการว่า เขตใดเป็นของพรรคไหน ก็ให้พรรคเดิมส่งชิง ส่วนพรรคร่วมอื่น ต้องหลีกทางให้

 

แหล่งข่าวระดับสูงในพรรคประชาธิปัตย์ ยังชี้ให้เห็นว่า สูตรนี้ พรรคร่วมรัฐบาล ได้ใช้ในการเลือกตั้ง นายก อบจ.ที่ผ่านมา จนทำให้กวาดเก้าอี้ นายก อบจ.มาจำนวนไม่น้อย และทำให้พรรคก้าวไกล ไม่ได้นายก อบจ.เลยแม้แต่จังหวัดเดียว แต่สูตรนี้ พรรคประชาธิปัตย์ ก็ยังไม่ค่อยเล่นด้วย ดังที่เห็นการส่งผู้สมัคร ส.ส.ซ่อมในบางเขต ที่ส่งชนกัน จนทำให้รอยร้าวระหว่างพรรคพลังประชารัฐ กับ พรรคประชาธิปัตย์ บาดลึกมาถึงทุกวันนี้

นอกจากนี้ สูตรนี้ พรรคร่วมฝ่ายค้าน ก็พยายามใช้ แต่ไม่สามารถใช้ได้ เนื่องจากไม่สามารถคุยกับพรรคก้าวไกล ได้ จึงทำให้พรรคเพื่อไทย เสียเก้าอี้ นายก อบจ.ไปหลายจังหวัด อย่าง บางจังหวัด เมื่อไปเจาะดู ก็จะเห็นสูตรนี้ชัดว่า ฝ่ายค้านส่งผู้สมัคร เกือบครบ แต่ฝ่ายรัฐบาล ส่งผู้สมัคร แค่พรรคเดียว ทำให้ไม่มีคะแนนตัดกันเอง จึงชนะไปได้ แต่เมื่อเอาคะแนนมาคำนวน ของพรรคเพื่อไทย รวมกับ พรรคก้าวไกล ก็จะชนะพรรคฝ่ายรัฐบาล

ดังนั้น เมื่อรัฐบาล ได้เปรียบ ก็เตรียมจะใช้สูตรนี้ ในการเลือกตั้งใหญ่ ที่เป็นข้อตกลงพ่วงมาจากเลือกตั้งท้องถิ่นด้วย ที่บางพรรคยอมหลีก นายก อบจ.ให้ เพื่อจะลง ส.ส. หรือ ลงระดับอื่นแทน ดังนั้น จึงเป็นห่วงว่า พรรคประชาธิปัตย์ อาจจะตกขบวนรัฐบาล หากยังเดินเกมแบบนี้