ขนส่งฯ ปรับ 2,000 ฟัน 3 ข้อหา "แท็กซี่" ไม่กดมิเตอร์
ขนส่งฯ ฟัน 3 ข้อหา "แท็กซี่" ไม่กดมิเตอร์ คิดค่าบริการแบบเหมาจ่าย ปรับ 2,000-พักใช้ใบอนุญาตขับรถเป็นเวลา 1 เดือน
กรณีที่มีข่าวในโลกโซเซียล ผู้ใช้บริการรถแท็กซี่ รายหนึ่ง เรียกรถจากสถานีขนส่งหมอชิต เพื่อที่จะเดินทางกลับที่พัก ย่านรังสิต แต่ปรากฎว่า คนขับรถแท็กซี่ไม่กดมิเตอร์ แต่เรียกค่าโดยสารเเบบเหมาจ่ายในราคา 760 บาท โดยอ้างว่าเป็นราคาปกติที่รวมค่าขึ้นทางด่วนและรถติดแล้ว เหตุเกิดเมื่อช่วงเวลาประมาณ 18.25 น. ของวันที่ 19 ต.ค. 64 แท็กซี่คันดังกล่าวเป็นแท็กซี่สีเขียว เหลือง
ล่าสุด พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะโฆษก บช.น. เปิดเผยว่า บช.น.ได้ร่วมกับ กรมการขนส่งทางบก เร่งตรวจสอบทราบว่า นายอนุชา (สงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี เป็นเจ้าของรถแท็กซี่คันดังกล่าวแล้ว และได้เรียกตัว นายอนุชา เข้ามาพบเมื่อวานนี้ (21 ต.ค.) เวลา 19.00 น. เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง
จากการสอบสวน นายอนุชา โดยให้การยอมรับว่า เป็นคนขับรถแท็กซี่ที่ปรากฏตามสื่อโซเชียล และเรียกเก็บค่าโดยสาร 760 บาท โดยไม่กดมิเตอร์จริง กรมการขนส่งทางบกจึงลงโทษดังนี้
1.เปรียบเทียบปรับตามพรบ.รถยนต์ พ.ศ.2522 มาตรา 66/5 ฐานเรียกเก็บค่าโดยสารเกินอัตราที่กำหนดในกฏกระทรวง เป็นเงิน 2,000 บาท
2.พักใช้ใบอนุญาตขับรถเป็นเวลา 1 เดือน
3.ให้เข้ารับการอบรมเสริมความรู้และปลูกจิตสำนึกการให้บริการที่ดีแก่ผู้โดยสาร
4.คืนเงินส่วนที่เกินให้กับผู้โดยสาร
ทั้งนี้ บช.น.ขอเรียนให้ทราบว่า หากพบเจอกรณีดังกล่าว ให้เก็บพยานหลักฐานไว้เพื่อแจ้งความเอาผิดกับคนขับรถแท็กซี่ในภายหลัง รวมถึงฝากเน้นย้ำถึงคนขับรถโดยสารสาธารณะทุกประเภท อย่าเอาเปรียบประชาชนผู้ใช้บริการ เนื่องจากจะเป็นการซ้ำเติมในสถานการณ์โควิด-19 ระบาด ฝ่าฝืนจะถูกปรับและพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ด้วย
หากพบรถโดยสารสาธารณะไม่ปลอดภัย แจ้ง 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง