จับตาไบเดนขึ้นเวทีอาเซียนซัมมิตย้ำสหรัฐอยากมีบทบาทในเอเชีย-แปซิฟิก
จับตาไบเดนขึ้นเวทีอาเซียนซัมมิต หวังคานอำนาจจีน หลัง“ทรัมป์”เมินประชุม 3 ปีติด ท่ามกลางความท้าทายในทุกมิติทั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 ความผันผวนทางภูมิรัฐศาสตร์และสถานการณ์ในภูมิภาค โดยเฉพาะสถานการณ์ในเมียนมา
สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำกรุงบันดาร์เสรีเบกาวัน บรูไนดารุสซาลาม เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ จะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ผ่านระบบการประชุมทางไกลในวันพรุ่งนี้ (26 ต.ค.)
การเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนของปธน.ไบเดนเป็นการส่งสัญญาณว่าสหรัฐยังคงต้องการมีบทบาทในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก หลังจากที่อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ปฏิเสธการเข้าร่วมการประชุมดังกล่าวถึง 3 ปีติดต่อกัน จนทำให้จีนสามารถแผ่อิทธิพลในภูมิภาคดังกล่าว
ทั้งนี้ การประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐ จะมีขึ้นในวันที่ 26 ตุลาคม เวลา 20.00 น.ตามเวลาไทย
อ่านข่าว : "นายกฯ"ร่วมประชุม "สุดยอดอาเซียน" แนะ เปิดภูมิภาค เดินทางอย่างปลอดภัย
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีกำหนดการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 38 และ 39 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง ผ่านระบบการประชุมทางไกล ระหว่างวันที่ 26-28 ตุลาคม 2564 ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล
การประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 38 และ 39 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง ถือเป็นบทสรุปของการดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนของบรูไนดารุสซาลาม ภายใต้แนวคิดหลัก “เราห่วงใย เราเตรียมพร้อม เรารุ่งเรือง” (We care, We prepare, We prosper) ซึ่งถือว่าเป็นปีที่มีความท้าทายในทุกมิติทั้งจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ความผันผวนทางภูมิรัฐศาสตร์ และสถานการณ์ในภูมิภาค โดยเฉพาะสถานการณ์ในเมียนมา
สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งบรูไนฯ จะทรงเป็นองค์ประธานการประชุมสุดยอดทั้งหมด โดยมีผู้นำหรือผู้แทนของประเทศสมาชิกอาเซียน เลขาธิการอาเซียน ตลอดจนผู้นำของคู่เจรจาเข้าร่วมการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ จีน สาธารณรัฐเกาหลี ญี่ปุ่น สหรัฐ ออสเตรเลีย อินเดีย รัสเซีย และนิวซีแลนด์
นอกจากนี้ ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลกและองค์การการค้าโลกได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก ครั้งที่ 16 ในช่วงเริ่มต้นการประชุมเพื่อบรรยายสรุปเกี่ยวกับการบรรเทาผลกระทบของโควิด-19 และการสร้างเสริมความร่วมมือเพื่อรับมือกับภาวะวิกฤตในอนาคต
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีจะเข้าร่วมการประชุมในกรอบอาเซียนทั้งหมดจำนวน 12 การประชุม ตามเวลาประเทศไทย ดังนี้
วันอังคารที่ 26 ตุลาคม 2564
08.00 น. การประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 38
10.00 น. การประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 39
12.30 น. การประชุมสุดยอดอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี ครั้งที่ 22
14.00 น. การประชุมสุดยอดอาเซียน-จีน ครั้งที่ 24
20.00 น. การประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐ ครั้งที่ 9
วันพุธที่ 27 ตุลาคม 2564
09.30 น. การประชุมสุดยอดอาเซียน-ญี่ปุ่น ครั้งที่ 24
11.30 น. การประชุมสุดยอดอาเซียน-ออสเตรเลีย ครั้งที่ 1
14.00 น. การประชุมสุดยอดอาเซียนบวกสาม ครั้งที่ 24
18.00 น. การประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก ครั้งที่ 16
วันพฤหัสบดีที่ 28 ตุลาคม 2564
10.15 น. การประชุมระดับผู้นำแผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจ สามฝ่ายอินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย (IMT-GT) ครั้งที่ 13
12.30 น. การประชุมสุดยอดอาเซียน-อินเดีย ครั้งที่ 18
14.00 น. การประชุมสุดยอดอาเซียน-รัสเซีย ครั้งที่ 4
15.30 น. พิธีปิดและส่งมอบตำแหน่งประธานอาเซียน
โดยนายกรัฐมนตรีจะหยิบยกประเด็นสำคัญที่จะผลักดัน อาทิ การรับมือกับการแพร่ระบาดและผลกระทบของโควิด-19 ซึ่งถือเป็นประเด็นหลักในการหารือของทุกกรอบการประชุม
ไทยสนับสนุนความร่วมมือในกรอบอาเซียนและระหว่างอาเซียนกับคู่เจรจาเพื่อรับมือการแพร่ระบาดและผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมของโควิด-19 อย่างรอบด้าน การฟื้นฟูและสร้างอนาคตที่ยั่งยืนควบคู่ไปกับการใช้โมเดลเศรษฐกิจ BCG เพื่อสร้างความสมดุลของสรรพสิ่งในการฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในยุค “Next Normal” และการรักษาสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค เพื่อรับมือกับสภาพภูมิรัฐศาสตร์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
ในปี 2565 กัมพูชาจะรับไม้ต่อในการเป็นประธานอาเซียน และในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีจะร่วมรับรองเอกสารผลลัพธ์ในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 38 และครั้งที่ 39 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้องทั้งสิ้น 25 ฉบับ