โรงเรียนกว่า 1,600 แห่งปัตตานี งดเรียน on site เหตุเชื้อยังระบาดหนัก

เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 64 บรรยากาศการเปิดการเรียนการสอนวันแรกของปีการศึกษาที่ 2 ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ในวันนี้ (วันที่ 1 พ.ย.64 ) พบว่าสถานศึกษา ต่าง ๆ ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ทั้ง 1,600 แห่ง ทุกสังกัด ไม่ว่าจะเป็น สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ทั้ง 3 เขต จำนวน 335 แห่ง สังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ปัตตานี จำนวน 1,062 แห่ง สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา จำนวน 8 แห่ง ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จ.ปัตตานี จำนวน 164 แห่ง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 16 แห่ง และอื่น ๆ ต่างต้องปิดโรงเรียน ไม่สามารถเปิดให้นักเรียนมาเรียนแบบ on site ที่โรงเรียนได้ เนื่องจากพบว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 ยังคงมีการแพร่ระบาดหนักในหลายพื้นที่ โดยล่าสุด ยังคงพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ เพิ่มขึ้นอีก 634 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 37,880 ราย ในขณะเดียงกัน พบผู้เสียชีวิตรายใหม่สูงสุดในรอบเดือนอยู่ที่ 7 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 376 ราย ซึ่งจากตัวเลขของผู้ติดเชื้อยังคงสูงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ ทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดปัตตานี ยังไม่อนุญาตให้ทางโรงเรียนเปิดให้นักเรียนเดินทางมาเรียนที่โรงเรียนได้ เพราะเกรงจะเกิดการแพร่ระบาดในหมู่เด็กนักเรียน และจะนำเชื้อไปสู่ครอบครัว ซึ่งจะทำให้การควบคุมการแพร่ระบาดเป็นไปได้ยาก ประกอบกับการฉีดวัคซีนให้กับเด็ก และ ครู ยังไม่ถึงร้อยละที่กำหนดไว้ ทำให้โรงเรียนต้องทำการเรียนการสอนแบบ on line, on hand, on demand และ on air เท่านั้น

สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในห่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยตัวเลขล่าสุดของวันที่ 31 ตุลาคม อยู่ที่ 37,880 ราย เมื่อนำไปหักกับยอดผู้ติดเชื้อสะสมของวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ที่ 22,245 ราย จะทำให้ทราบตัวเลขของผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั้งหมดเฉพาะในตุลาคม พบว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อมากกว่าทุกเดือนที่ผ่านมา อยู่ที่ 15,635 ราย ในขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตสะสมเฉพาะเดือนตุลาคม โดยตัวเลขล่าสุดของผู้เสียชีวิตสะสมของวันที่ 31 ตุลาคม อยู่ที่ 376 ราย เมื่อนำไปหักกับตัวเลขยอดผู้เสียชีวิตสะสมของวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ที่ 301 ราย ทำให้ทราบยอดผู้เสียชีวิตสะสมเฉพาะเดือน ตุลาคม อยู่ที่ 75 ราย

ในขณะที่การฉีดวัคซีนของประชาชนในพื้นที่จังหวัดปัตตานี หลังจากที่ทางจังหวัดได้ตั้งเป้าไว้ว่า สิ้นเดือนตุลาคมนี้ จะสามารถฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในพื้นที่ได้ร้อยละ 70 เปอร์เซ็นต์ แต่ปรากฏว่า สามารถฉีดวัคซีนได้เพียง 46 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น โดยคิดจากผู้ที่เข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มแรกเท่านั้น

นพ.อนุรักษ์ สารภาพ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้ยอดการฉีดวัคซีนไม่ถึงเป้าที่วางไว้ ก็เนื่องจากว่า ช่วงหลังที่ผ่านมา มีผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนในอัตราที่ลดลง ก็เนื่องมาจาก มีประชาชนกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ที่ไม่ต้องการฉีดวัคซีน ไม่ว่าจะเป็นวัคซีนชนิดไหนก็ตาม ซึ่งขณะนี้ได้ให้ผู้นำหมู่บ้าน ผู้นำชุมชน เร่งหารายชื่อผู้ที่ยังไม่ฉีดวัคซีน พร้อมทั้งตรวจสอบรายชื่อว่า ผู้ที่มีรายชื่อ เจ้าตัวอยู่ในพื้นที่หรือไม่ เพราะที่ผ่านมาพบว่า ผู้ที่มีรายชื่อในพื้นที่จังหวัดปัตตานี แต่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ เพราะไปทำงานที่จังหวัดอื่น หรือที่ประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งตัวเลขจากทะเบียนราษฎร์ มีอยู่ 720,000 คน แต่ต้องเพิ่มจำนวนกลุ่มต่างด้าว อีก 20,000 คน ทำให้ยอดประชากรอยู่ที่ 740,000 คน และยังพบว่า มีประชาชนที่เข้ามาทำงานในพื้นที่จังหวัดปัตตานี แต่ไม่มีชื่อในจังหวัดปัตตานี ก็ต้องนับรวมไปด้วย ทำให้ตัวเลขผู้ที่เข้ามารับการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้น ดังนั้นข้อสำคัญก็อยู่ที่ฐานข้อมูลของประชาชนด้วย ดังนั้นการฉีดวัคซีนที่ได้ 46 เปอร์เซ็นต์ ก็คิดมาจากประชากร 740,000 คน ซึ่งถ้ามองจากอัตราการเข้ามาฉีดวัคซีนในขณะนี้ คงต้องใช้เวลาอีกกว่า 1 เดือน ถึงจะได้เป้าหมายที่ 70 เปอร์เซ็นต์ ทั้งๆ ที่ปัตตานีมีวัคซีนเพียงพอต่อประชาชนตามเป้าหมาย ซึ่งจุดตรงนี้ ทำให้การเปิดเรียนในวันนี้ จึงไม่สามารถให้โรงเรียนใช้สถานที่ให้นักเรียนมาเรียนได้ เพราะการฉีดวัคซีนยังไม่ครบตามที่วางไว้ หากมีการเปิดโรงเรียน และเกิดการระบาดกับเด็กนักเรียน ถือเป็นเรื่องใหญ่ เพราะอาจจะไปแพร่เชื้อให้กับผู้ปกครอง ทำให้ถูกกักตัวทั้งหมด ทำงานไม่ได้ จะส่งผลกระทบหลายด้าน ซึ่งถ้าเรายังไม่พร้อม ก็ต้องเลื่อนไปก่อน ซึ่งคาดว่าจะเปิดได้อย่างช้าสุดก็วันที่ 1 ธ.ค.64 แต่ก็ต้องประเมินสถานการณ์อีกครั้ง