ปม "Moderna" รพ.ธรรมศาสตร์ โต้ กต.เป็นข้อๆ ชี้แจงเรื่องแบ่ง 1 ล้านโดสไปขายต่อ
"โรงพยาบาลธรรมศาสตร์" ได้เคลื่อนไหวอกครั้งเกี่ยวกับประเด็นการยุติการส่งมอบวัคซีน "โมเดอร์นา" (Moderna) ล็อตนี้ โดยได้ชี้แจงต่อกระทรวงการต่างประเทศ
จากกรณีที่ "โรงพยาบาลธรรมศาสตร์" ได้ยุติการส่งมอบวัคซีน "โมเดอร์นา" (Moderna) ที่รับบริจาคจากประเทศโปแลนด์ เนื่องจากไม่สามารถมีหนังสือจากทางการไทยรับรองว่ารัฐบาลไทยเห็นชอบให้ธรรมศาตร์รับบริจาค Moderna จำนวน 1,500,000 โดสจากหน่วยงานของรัฐในโปแลนด์ได้ ตามที่นำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- รพ.ธรรมศาสตร์ เผยเหตุเพราะอะไร ถึงยุติการส่งมอบ "วัคซีน Moderna" จากโปแลนด์
- "วัคซีน Moderna" คาดทยอยส่งให้ครบ 1.9 ล้านโดสก่อนสิ้นปี อัพเดทอีก 6.8 ล้านโดส
- วัคซีน Moderna ล็อตแรกถึงไทย เปิดรายชื่อ รพ.เอกชนที่ได้รับการจัดสรร
ล่าสุด เพจ "โรงพยาบาลธรรมศาสตร์" ได้เคลื่อนไหวอกครั้งเกี่ยวกับประเด็นการยุติการส่งมอบ วัคซีน "โมเดอร์นา" (Moderna) ล็อตนี้ โดยได้ชี้แจงต่อกระทรวงการต่างประเทศ ว่า วันนี้กระทรวงการต่างประเทศได้ ต่อความให้ยาวขึ้นอีก ด้วยการออกแถลงการณ์ว่า เหตุผลที่ไม่ออกหนังสือรับรองให้ธรรมศาสตร์นั้น มี 2 ประการ คือ
1.ไม่มีความยินยอมจากบริษัทผู้ผลิตวัคซีนในการที่พวกเราจะไปขอรับบริจาค Moderna มาใช้ในประเทศไทย ประการหนึ่ง
และอีกประการหนึ่ง กต. แถลงว่า ได้ทราบว่าในจำนวนวัคซีน 1.5 ล้านโดสที่จะได้รับบริจาคมานั้น ธรรมศาสตร์จะนำมาฉีดให้ประชาชนทั่วไปโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆเพียง 500,000 โดส ส่วนอีก 1 ล้านโดสจะให้เอกชนที่เป็นคู่สัญญากับ มธ.นำไปจำหน่ายโดยเรียกเก็บเงิน
กต.เกรงว่าจะเกิดความเสียหายแก่ประเทศ และขัดเจตนาของทางโปแลนด์และประเทศไทยจะเสียชื่อเสียง จึงไม่ยอมออกจดหมายรับรองการขอรับบริจาคให้แก่ มธ.
ข้อสังเกตเบื้องต้นของพวกเราก็คือ กต.ไม่เคยแจ้งเหตุผลข้อหลังนี้ให้พวกเราทราบมาก่อนเลย ทั้งด้วยวาจา ผ่านตัวแทนที่ได้รับมอบหมายให้ดีลกับ มธ. และไม่เคยสอบถามรายละเอียดใดๆเกี่ยวกับการค้าวัคซีนนี้ มายัง มธ.เลย แม้ในจดหมายที่เป็นทางการที่ ทาง กต.ตอบมายังอธิการบดี มธ. ก็ไม่เคยแจ้งพวกเรา ซึ่งเป็นหน่วยงานภาครัฐด้วยกันว่า เกรงจะมีปัญหาเรื่องนี้ ( เพราะหากแจ้งเช่นนั้น มธ . คงจะได้เข้าปรึกษาหารือกับ กต. และหาแนวทางอื่นในการดำเนินการร่วมกันเพื่อประโยชน์ของประเทศได้ทันท่วงที) คำอธิบายเหตุผลเรื่องนี้ เพิ่งมาปรากฎขึ้นในวันที่ 2 พ.ย.นี้เอง
ต่อเหตุผลทั้ง 2 ข้อที่ กต.แจ้งว่าเป็นเหตุผลที่ทำให้ไม่สามารถรับรองการรับบริจาคให้แก่ธรรมศาสตร์
ข้อแรกนั้น เรายืนยันว่า ได้แจ้งแก่ผู้แทนที่ กต. มอบให้เป็นผู้ประสานงานว่า พวกเรากำลังดำเนินการเพื่อขอความเห็นชอบจากบริษัทผู้ผลิตวัคซีน ในการที่จะให้ความเห็นชอบที่โปแลนด์จะบริจาค Moderna ให้แก่ มธ. ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐในประเทศไทย ซึ่งได้ดำเนินการคู่ขนานไปกับการขอให้ทาง กต. ทำจดหมายแจ้งไปยังโปแลนด์อยู่แล้ว การให้ความยินยอมนี้ จะเกิดง่ายขึ้นด้วยซ้ำ หากมีจดหมายจาก กต.รับรองสถานะของธรรมศาสตร์อีกทางหนึ่งด้วย
ในประเด็นที่สอง เรื่องการแบ่งวัคซีนอีก 1 ล้านโดสให้เอกชนคู่สัญญานำไปจำหน่ายนั้น เราได้แจ้งแก่ผู้แทน กต.ตั้งแต่ต้นว่า การบริจาคครั้งนี้ เป็นการบริจาควัคซีนจากคลังสำรองในโปแลนด์ ผู้รับบริจาคจะต้องส่งคณะผู้เชี่ยวชาญไปตรวจสอบสภาพ สถานะ และล็อตการผลิต ตลอดจนจัดเตรียม dossier ในการจัดส่งและตรวจสอบ จัดการในเรื่อง logisticในการนำวัคซีนไปยังสนามบิน จัดการในเรื่องการขนส่ง การประกันภัยวัคซีน พิธีการศุลกากร และการบริหารจัดการคลังเก็บวัดซีนในประเทศ ตลอดทั้งการประกันภัยผลข้างเคียงจากการได้รับวัคซีนเอง
ซึ่งค่าใช้จ่ายในการดำเนินการเรื่องเหล่านี้คิดเป็นเงินจำนวนหลายร้อยล้านบาท และในกรณีการรับบริจาค Astra Zeneca จากหลายประเทศ หลายครั้ง รัฐบาลไทยก็เคยเป็นผู้รับผิดชอบโดยใช้เงินงบประมาณของรัฐจ่ายไปทั้งหมด
ในกรณีของธรรมศาสตร์ ซึ่งไม่มีงบประมาณแผ่นดินให้จ่ายได้ดังกรณีที่รัฐรับบริจาค เราจึงได้ขอให้ภาคเอกชนคู่สัญญาของเรา เป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดนี้ไป และตกลงว่าจะให้นำวัคซีน Moderna 1 ล้านโดส ออกไปกระจายฉีดให้ประชาชนทั่วไป โดยคิดค่าใช้จ่ายในการขนส่ง ประกันภัย และโลจิสติคที่เกี่ยวข้องได้ ตามราคาต้นทุนที่ได้จ่ายไปจริง (at cost ) โดยธรรมศาสตร์แจ้งผู้แทน กต. ว่า เราจะตั้งโต๊ะแถลงข่าว แจกแจงรายการต่างๆพร้อมทั้งแสดงหลักฐานว่า ค่าใช้จ่ายในการได้มาซึ่งวัคซีนบริจาคล็อตนี้ มีจำนวนเท่าใด และจะขอให้ผู้ฉีดวัคซีนในส่วนหนึ่งล้านโดสนั้น ช่วยรับผิดชอบร่วมกันด้วย
ประเด็นที่สำคัญคือ เมื่อได้คำนวนค่าใช้จ่ายแล้ว เราได้เจรจาตกลงกับเอกชนคู่สัญญาว่า เมื่อหัก 5 แสนโดสที่จะมอบให้ธรรมศาสตร์และโรงพยาบาลเครือข่ายไปฉีดให้ผู้ที่มีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์โดยไม่เรียกเก็บค่าตอบแทนออกแล้ว วัคซีนอีก 1 ล้านโดสที่เหลือ ตกลงจะเรียกเก็บค่าใช้จ่ายในเรื่องการขนส่ง โลจิสติค และประกันภัย รวมเป็นจำนวนโดสละ 400 บาท
เพื่อชดเชยค่าใช้จ่ายที่จ่ายไปโดยไม่มีงบประมาณภาครัฐรองรับ ซึ่งก็ต่ำกว่าราคา 1,100 บาท ที่เป็นราคาต้นทุนวัคซีนที่หน่วยงานภาครัฐที่นำวัคซีนชนิดนี้เข้ามาในประเทศ เรียกเก็บจากสถานพยาบาลต่างๆอยู่เป็นอย่างมาก เราได้แจ้งหลักเกณฑ์และจำนวนค่าใช้จ่ายที่จะขอเรียกเก็บนี้ให้ผู้แทน กต. ทราบด้วยแล้วเช่นกัน
ข้อที่พวกเรารู้สึกประหลาดใจมาก คือเหตุผลข้อที่ 2 ของ กต. ที่เพิ่งแถลงขึ้นในวันนี้ เรื่องเกรงจะมีการนำวัคซีนไปจำหน่าย จะทำให้กระทบกระเทือนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เป็นเหตุผลและความกังวลที่ไม่เคยแจ้งหรือปรึกษากันก่อนเลย เพราะหากเรื่องนี้เป็นเงื่อนไขหลักในการออกหนังสือรับรองไปยังโปแลนด์
มธ. อาจจะหาทางขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานอื่นภาครัฐที่เกี่ยวข้อง หรือมีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับงบประมาณและการเงิน ให้ช่วยรับภาระในค่าใช้จ่ายส่วนนี้
ซึ่งมีจำนวนไม่มากเมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายในเรื่องวัคซีนที่ประเทศไทยได้จ่ายไปหลายหมื่นล้านบาทแล้วในปัจจุบัน เพื่อออกใช้แทนเอกชนไป เพื่อให้ได้วัคซีนที่ได้รับการยอมรับว่ามีคุณภาพล็อตนี้ นำเข้ามาฉีดให้กับประชาชนอย่างกว้างขวางแล้วก็ได้
นี่คือข้อเท็จจริงและรายละเอียดเพิ่มเติม ที่ธรรมศาสตร์อยากจะสื่อสารกับผู้คนทั้งหลายให้ได้ทราบ ต่อจากข้อมูลบางส่วนที่ กต. ได้แถลงแล้วในวันนี้
ท้ายที่สุด ข้อสรุปของเราก็คือ การดำเนินการเรื่องวัคซีนบริจาคจากโปแลนด์ได้ยุติลงแล้ว แต่ธรรมศาสตร์ก็จะยังคงเพียรพยายามที่จะช่วยจัดหาวัคซีนทางเลือก เข้ามาให้แก่ผู้คนทั้งหลายในประเทศนี้อยู่ต่อไป ตามกำลังความสามารถของเรา และด้วยความตั้งใจอย่างเต็มที่ ที่พวกเราอยากจะเป็นส่วนเล็กๆ ที่จะทำประโยชน์แก่ประชาชนผู้ทุกข์ยากเดือดร้อนอีกทางหนึ่ง นอกจากที่รัฐได้ดำเนินการอยู่โดยตรง
แต่สิ่งที่เรียนรู้จากเรื่องนี้ของพวกเราก็คือ ยากเหลือเกินที่องค์กรใดจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องวัคซีนได้ ถ้าไม่ได้ดำเนินการในนามของรัฐและใช้เงินงบประมาณแผ่นดิน จนทำให้ไม่อาจมีการเปรียบเทียบต้นทุน หรือราคาของการสั่งซื้อวัคซีนในแต่ละครั้งได้เลย
วันนี้เราได้เรียนรู้บ้างแล้ว และจะยกเลิกความพยายามในการติดต่อขอรับบริจาควัคซีนในอีกหลายกรณีที่ได้ติดต่อประสานงานไว้แล้ว ถ้าพวกเราจะพยายามทำเรื่องนี้ต่อไปให้สำเร็จ คงจะเป็นการติดต่อเพื่อซื้อวัคซีนเข้ามาโดยตรงเพียงช่องทางเดียวเท่านั้น