เปิด 4 แนวทาง "ฉีดวัคซีน" ระยะห่างเข็ม 3 กรณีฉีดแอสตร้าฯ 2 เข็ม
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ พูดถึงประเด็น แนวทางการ "ฉีดวัคซีนโควิด" ตามมติการประชุมคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรคแถลงสถานการณ์โรคโควิด-19 ประจำวันที่ 5 พ.ย.2564 โดยได้พูดถึงประเด็น แนวทางการ "ฉีดวัคซีนโควิด" ตามมติการประชุมคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค
โดย คณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคยังมีมติให้คำแนะนำการ "ฉีดวัคซีน" ประกอบด้วย
1.ฉีดวัคซีนโควิดชั้นผิวหนังได้ กรณีวัคซีนมีจำกัด เนื่องจากประสิทธิผลใกล้เคียงกับการฉีดเข้ากล้ามเนื้อ พบผลข้างเคียงทางผิวหนังชัดกว่า แต่ผลข้างเคียงภาพรวม เช่น การเป็นไข้ลดน้อยลง เพราะใช้วัคซีนปริมาณน้อยกว่า
2.ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่และวัคซีนโควิด-19 ไปพร้อมๆ กันได้ เนื่องจากวัคซีนโควิดมีความปลอดภัยค่อนข้างสูง ฉีดเกือบ 80 ล้านโดส อาการรุนแรงจากวัคซีนมีไม่มาก
3.ผู้รับ วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 2 เข็ม ให้กระตุ้นเข็ม 3 ได้ทั้งไฟเซอร์และโมเดอร์นา ระยะห่างจากเข็มสอง 6 เดือนขึ้นไป โดยผู้ที่รับครบช่วง พฤษภาคม-มิถุนายน สามารถไปลงทะเบียนยังจุดฉีดใกล้บ้านได้ตามความสมัครใจ
4.กรณีแพ้วัคซีนให้เปลี่ยนชนิดวัคซีนได้ ตามเกณฑ์ที่กำหนดหรือตามดุลยพินิจของแพทย์ ซึ่งการฉีดจะเริ่มจากเชื้อตาย ไวรัลเวคเตอร์ และ mRNA ส่วนกรณีที่มีความจำเป็นต้องไปต่างประเทศ ให้พิจารณาฉีดตามข้อกำหนดของประเทศปลายทางเป็นรายกรณี
นพ.โอภาสกล่าวว่า การฉีดวัคซีนโมเดอร์นา คณะอนุกรรมการฯ มีคำแนะนำให้ฉีดตามเอกสารกำกับยาของบริษัท ทั้งการฉีดสูตรปกติและสูตรไขว้ให้ฉีดห่างกัน 4 สัปดาห์ สามารถฉีดได้ในอายุ 12 ปีขึ้นไป ใช้ฉีดกระตุ้นผู้ที่รับซิโนแวค 2 เข็มหรือซิโนฟาร์ม 2 เข็ม ตั้งแต่ 4 สัปดาห์ขึ้นไปได้
ซึ่งศูนย์ปฏิบัติการด้านการแพทย์และสาธารณสุขมีมติรับทราบและให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนำไปปฏิบัติให้สอดคล้องกับสถานการณ์จังหวัดตนเอง สำหรับผู้ที่ฉีดซิโนฟาร์มครบ 2 เข็มช่วงเดือนมิถุนายน สามารถติดต่อจุดฉีดวัคซีนหรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด เพื่อลงทะเบียนรับเข็มกระตุ้นได้ฟรีตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป
ส่วนผู้ที่ฉีดสูตรไขว้ซิโนแวค-แอสตร้าเซนเนก้าแนะนำให้รอประมาณ 5-6 เดือนจึงจะฉีดกระตุ้นได้