จ.ระนองร่วม “ทหาร-ตร.” จับเครือข่าย “ค้ายาบ้า” ล้านเม็ด ชายแดนไทย-เมียนมา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 18 พ.ย. 2564 กระทรวงมหาดไทย เผยแพร่ข้อมูลว่า เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 2564 ที่ผ่านมา ที่กองบังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 ค่ายรัตนรังสรรค์ อำเภอเมือง จังหวัดระนอง นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง พร้อมด้วย พลตรี ศานติ ศกุนตนาค รองแม่ทัพภาคที่ 4 และรองผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 4 พลตำรวจตรี ศรัญญู ชำนาญราช ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระนอง พันเอก ภูมิพัฒน์ บุญเรืองขาว ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 25 ผู้แทนสำนักงาน ปปส.ภาค 8 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แถลงผลการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดพื้นที่จังหวัดระนอง

นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีนโยบายในการแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยให้ทุกภาคส่วนได้ร่วมมือร่วมใจกันในการแก้ไขปัญหายาเสพติดซึ่งเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของชาติให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม และพลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้มอบนโยบายพร้อมกำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัด สั่งการ และบูรณาการหน่วยงานด้านความมั่นคง สกัดกั้นการแพร่ระบาดของยาเสพติด เพื่อลด Supply Side ของยาเสพติด โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน อย่างต่อเนื่อง และนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้เน้นย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดดำเนินการขับเคลื่อนนโยบายป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดให้เกิดผลเป็นรูปธรรมอย่างต่อเนื่อง เด็ดขาด ไม่มีละเว้น ซึ่งจังหวัดระนอง โดย นายสมเกียรติ ศรีษะเนตร ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดระนอง ได้กำชับและเน้นย้ำให้หน่วยงานด้านความมั่นคง บูรณาการในการตรวจ เฝ้าระวัง และสกัดกั้นการแพร่ระบาดของยาเสพติด ตามแนวชายแดนประเทศเมียนมา อย่างเข้มข้นต่อเนื่อง และดำเนินการตามกฎหมายกับผู้กระทำผิดอย่างเด็ดขาด

นายโชตินรินทร์ กล่าวอีกว่า สำหรับการดำเนินการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดระนอง ในครั้งนี้ เป็นการบูรณาการร่วมกับกำลังทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำมาสู่การขยายผลติดตามจับกุมเครือข่ายยาเสพติด พร้อมของกลางยาบ้า รวมทั้งสิ้นประมาณ 1,006,022 เม็ด โดยเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2564 เวลา 22.00 น. ชุดบูรณาการฯ ได้ดำเนินการตรวจสอบรถเก๋งมาสด้า สีขาว ทะเบียน ขข 8153 สุราษฎร์ธานี มุ่งหน้าจังหวัดระนอง มีนายนครินทร์ ขอค้า (ผู้ต้องหา) อายุ 45 ปี เป็นผู้ขับขี่ ซึ่งได้ขับรถหลบหนีจากจุดตรวจ มุ่งหน้าจังหวัดระนอง และได้สกัดรถคันดังกล่าว และจัดกำลังไล่ติดตาม ร่วมกับผู้นำท้องถิ่นในพื้นที่ และในเวลา 22.40 น. ได้รับแจ้งจากผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ว่าพบรถเป้าหมาย บริเวณซอยโรงเรียนบ้านหินวัว อำเภอกระบุรี จังหวัดระนอง กระทั่งสามามารถควบคุมตัว นายนครินทร์ ขอค้า พร้อมรถคันดังกล่าวไว้ได้ เเละตรวจสอบพบยาบ้า จำนวน 5 กระสอบ กระสอบละ 200,000 เม็ด รวมยาบ้าประมาณ 1 ล้านเม็ด วางซุกซ่อนไว้ในป่ากล้วย ห่างจากตัวรถประมาณ 5 เมตร โดย นายนครินทร์ ขอค้า (ผู้ต้องหา) ยอมรับสารภาพว่าตนได้นำลงจากรถ เเล้วไปซุกซ่อนไว้ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจค้นภายในรถพบยาบ้าอีกจำนวนหนึ่ง ซุกซ่อนไว้ในรถและกระเป๋าสะพาย นอกจากนี้ยังได้พบยาไอซ์ชนิดเกล็ดใส จำนวน 2 ถุง น้ำหนัก 3.7 กรัม และกัญชา 2.4 กรัม รวมยาบ้าทั้งหมดประมาณ 1,006,022 เม็ด จากนั้นจึงได้คุมตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลาง มาดำเนินการสอบสวนและขยายผลต่อไป 

รองผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวด้วยว่า การดำเนินการจับกุมในครั้งนี้ ถือเป็นการบูรณาการขับเคลื่อนนโยบายการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งจังหวัดระนองจะได้ดำเนินการในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบเบาะแสยาเสพติดในพื้นที่ สามารถแจ้งสายด่วน ป.ป.ส. โทร. 1386 สายด่วนศูนย์ดำรงธรรม โทร. 1567 หรือสายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โทร. 191 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้เร่งดำเนินการจับกุมผู้กระทำผิด เพื่อให้ยาเสพติดหมดไปจากประเทศไทย สร้างความสงบสุขให้กับพี่น้องประชาชนชาวระนองและพี่น้องประชาชนคนไทยอย่างยั่งยืน