หอการค้าอเมริกัน ยังเชื่อมั่น ศักยภาพไทยฮับภูมิภาค
นายกฯหารือ หอการค้าอเมริกัน 400 นักธุรกิจสหรัฐฯ ชูความร่วมมือผลักดันธุรกิจลงทุนในไทย พร้อมชูความพร้อมผลักดันอีอีซี - บีซีจี ด้านประธานธุรกิจ AMCHAM พร้อมหนุนไทยเป็นศูนย์กลางการลงทุนธุรกิจสหรัฐฯในภูมิภาค
วานนี้ (18 พ.ย.) เวลา 10.00 น. ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายรกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้หารือผ่านระบบ วิดีโอคอนเฟอเรนซ์ กับหอการค้าอเมริกันในประเทศไทย (American Chamber of Commerce in Thailand: AMCHAM) พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและนักธุรกิจบริษัทสมาชิก เข้าเยี่ยมคารวะ และหารือกับนายกรัฐมนตรี
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวสรุปการประชุมชนว่าในการหารือกับ AMCHAM นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงวิสัยทัศน์ของรัฐบาล รวมทั้งแนวทางของคณะทำงานในทุกๆมิติ ซึ่งคณะนักธุรกิจ ก็มีความพึงพอใจและพร้อมที่จะสนับสนุนประเทศไทยในการดำเนินนโยบายด้านเศรษฐกิจและหวังว่าจะมีการลงทุนเพิ่มมากขึ้นในปีหน้าและระยะต่อไป ทั้งนี้เรื่องการประกอบการและดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม เช่นเดียวกับการลงทุนใหม่ ๆ ให้เป็นไปตามวาระของโลก ทั้งการแก้ปัญหาโลกร้อน และนโยบายเศรษฐกิจหมุนเวียน (BCG Model)
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวไปกับกลุ่มผู้เข้าร่วมประชุมฯ โดย AMCHAM ซึ่งทุกคนยอมรับและชื่นชมในแนวทางและวิสัยทัศน์ของประเทศไทยในการเดินหน้าประเทศ โดยกลุ่มนักธุรกิจของสหรัฐฯ มีธุรกิจขนาดใหญ่มีการลงทุนในประเทศไทยแล้วประมาณ50,000ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
โดยรับว่าจะขยายการลงทุนในไทย จึงขอให้เน้นในเรื่องของพลังงาน ดิจิทัล เทคโนโลยี เรื่องการลงทุน การวิจัยและพัฒนา เรื่องสุขภาพการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการวิจัยพัฒนาโดยการใช้ประโยชน์จากความหลากหลายทางชีวภาพของไทย ซึ่งปัจจุบันได้มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องทั้งในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) และพื้นที่อื่น ๆ มีนโยบายที่ได้กำหนดลงไปแล้ว
นาย Gregory Wong ประธาน AMCHAM กล่าวว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมการหารือครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกและนับเป็นครั้งประวัติศาสตร์ที่ได้พบปะกับหลายภาคส่วน ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่งมีตัวแทนสมาชิกที่ให้ความสนใจเข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้กว่า 400 คน โอกาสนี้ ประธาน AMCHAM เน้นย้ำว่า ภาคเอกชนสหรัฐฯ เชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศไทย และพร้อมที่จะทำงานร่วมกับรัฐบาลเพื่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของโลก พร้อมทั้งชื่นชมรัฐบาลไทยที่ได้รับคะแนนดีเยี่ยมจากภาคธุรกิจสหรัฐฯ ในเรื่องของการเปิดกว้างและการปรับตัว การประชุมในวันนี้แสดงให้เห็นว่า รัฐบาลเปิดรับและยินดีรับฟังข้อเสนอแนะจากภาคธุรกิจ
นอกจากนี้ ประธาน AMCHAM แสดงความประทับใจต่อแผนการดำเนินนโยบายของรัฐบาล และพร้อมให้ความร่วมมือกับรัฐบาลอย่างเต็มที่ในทุกประเด็น รวมถึงพร้อมสนับสนุนการเป็นเจ้าภาพ APEC ของไทย โดยขอให้ไทยมอง AMCHAM เป็นพันธมิตรที่เชื่อถือได้ ซึ่งพร้อมสนับสนุนการเป็นเจ้าภาพของไทยอย่างดีเยี่ยม
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน กล่าวว่า ขณะนี้มียอดขอรับการส่งเสริมการลงทุนดีขึ้น มากกว่าปีที่แล้ว2เท่า แสดงถึงความมั่นใจของภาคเอกชนที่เห็นถึงทิศทาง และความพร้อมของประเทศไทย ทั้งเรื่องของการสร้างอุตสาหกรรมใหม่ ๆ อุตสาหกรรมดิจิทัล และ การสนับสนุนลดก๊าชเรือนกระจก รวมทั้งรัฐบาลดำเนินการโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ทั้งด้านการคมนาคม ดิจิทัล ทั้งหมดจะเห็นผลในอีก3- 5ปีข้างหน้า ทำให้เกิดการเชื่อมต่อที่สมบูรณ์ และดึงดูดนักลงทุนตัดสินใจเข้ามาลงทุนมากขึ้น
อย่างไรก็ตามรัฐบาลยังได้แจ้งทางคณะนักธุรกิจด้วยว่า ปัจจุบันรัฐบาลได้มีการทบทวนและปรับปรุงกฎหมาย กฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ภาคเอกชน
รวมทั้งการพัฒนาการให้บริการของภาครัฐโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล และ และการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อเข้าถึงและขยายช่องทางการตลาดทั้งในและนอกประเทศ และในวาระการเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปคของไทยในปี 2565 รัฐบาลให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของภาคเอกชนรวมถึงภาคเอกชนสหรัฐฯ ซึ่งมีบทบาทสนับสนุนความต่อเนื่องในการผลักดันประเด็นที่ทั้งสองประเทศให้ความสำคัญร่วมกัน ในการส่งต่อวาระเจ้าภาพจากไทยไปสู่สหรัฐฯ ในปี 2566 ต่อไป