เปิดใจอดีต "พระมหาไพรวัลย์" เล่าหมดเปลือกสาเหตุทำไมต้องสึก
รายการ "โหนกระแส" ทางช่อง 3 HD เปิดใจอดีต "พระมหาไพรวัลย์" หรือ "ไพรวัลย์ วรรณบุตร" หลังจากได้ทำการลาสิกขา พร้อมกับสาเหตุที่ว่า ทำไมต้องสึก
รายการ "โหนกระแส" ทางช่อง 3 HD เปิดใจอดีต "พระมหาไพรวัลย์" หรือ "ไพรวัลย์ วรรณบุตร" หลังจากได้ทำการลาสิกขาเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา หลังครองผ้าเหลืองมาอย่างยาวนานกว่า 18 ปี พร้อมกับสาเหตุที่ว่า ทำไมต้องสึก
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "พระมหาไพรวัลย์" ลาสิกขาแล้ว เผยอย่างแรกที่ทำในฐานะ ปชช.
- คำอำลา พระมหาสมปอง ถึง "พระมหาไพรวัลย์" ใจหาย นับถอยหลังใกล้ถึงวันลาสิกขา
โดยทางอดีต "พระมหาไพรวัลย์" พูดถึงสาเหตุที่ต้องสึก ระบุว่า มีหลายเงื่อนไขที่ทำให้ตัดสินใจต้องลาสิกขา อย่างไรก็ตามหลายๆอย่างตนไม่ได้สนใจ แต่มันมีเงื่อนไขข้อหนึ่งที่ทำให้ตัดสินใจ คือ แม่ ซึ่งวันนี้ (3 ธ.ค.2564) เป็นวันที่คุณแม่ของตนเข้าผ่าตัดใหญ่ เกี่ยวกับก้อนเนื้อมะเร็ง ซึ่งตนก็อยากจะออกมาเพื่อเป็นกำลังใจให้คุณแม่ และหลังจากผ่าตัดเสร็จก็จะได้ดูแลท่านต่อไป
ส่วนประเด็นที่ว่าการสึกออกมานั้น เตรียมที่จะเปิดศึกกับใครหรือไม่ ซึ่งอดีต "พระมหาไพรวัลย์" ก็ชี้แจงแคปชั่นคำว่า "เริ่ม" ที่โพสต์ในเฟซบุ๊กไม่ได้จะสื่อถึงการเปิดศึกกับใคร แต่เป็นการเริ่มต้นที่ใช้ชีวิตฆราวาส แต่ถ้าเรื่องไหนที่ตนมองว่าไม่เป็นธรรม ตนก็พร้อมจะออกมาเป็นปากเป็นเสียงแทนพระสงฆ์ได้
ตนมองว่าสังคมสงฆ์ทุกวันนี้ ตนรู้สึกว่าคับแคบยิ่งกว่าฆราวาส การออกมาจะทำให้เราสามารถพูดได้มากขึ้น มากขึ้นกว่าตอนที่เป็นพระที่ไม่สามารถทำอะไรที่เป็นตัวตนของเราได้อย่างเต็มที่ ยืนยันคิดถูกแล้วที่ตัดสินใจสึก
เมื่อถูกถามว่าในวงการสงฆ์หรือศาสนามีการเมืองหรือไม่ มหาไพรวัลย์ ก็ย้ำว่ามันมีอยู่แล้ว ตนมองว่าสังคมสงฆ์ทุกวันนี้ ตนรู้สึกว่าคับแคบยิ่งกว่าฆราวาส การออกมาจะทำให้เราสามารถพูดได้มากขึ้น มากขึ้นกว่าตอนที่เป็นพระที่ไม่สามารถทำอะไรที่เป็นตัวตนของเราได้อย่างเต็มที่ ยกตัวอย่างตอนที่ตนไลฟ์สดกับ พระมหาสมปอง จากนั้นก็มีจดหมายส่งมาร้องเรียน เรียกไปสอบ อยากให้เราเชื่องเหมือนเรามีจีวรไม่พอจะเอาปลอกคอมาใส่ให้เราอีกเพื่ออะไร ซึ่งตนรู้สึกว่ามันไม่ใช่ คณะสงฆ์ต้องอยู่กันโดยธรรม มีพระธรรมวินัย ถ้าอยู่ในวัดก็ให้เจ้าอาวาสให้มีอำนาจหน้าที่ดูแลปกครองพระลูกวัดมากกว่า คณะสงฆ์ต้องไม่ใช่แบบฆราวาสที่เน้นการใช้อำนาจมากกว่าความเป็นธรรม
ด้วยความเคารพ เรารู้สึกว่า พระผู้ใหญ่หลายท่าน ไม่ได้อยู่ในฐานะที่เราอยากก้มหัวให้ ไม่มีคุณธรรมมากพอที่เราอยากจะกราบไหว้ได้อย่างสนิทมือ ยืนยันว่าจะไม่กลับไปบวชเป็นพระอีกแล้ว ส่วนประเด็นที่ว่าตนมีเงิน 300 ล้านนั้น ยืนยันว่าตนไม่มีอย่างแน่นอน
ขอบคุณรายการโหนกระแส