สภาพอากาศหนาวจัด ชาวบ้านก่อไฟผิง แห่ขุดปูอาบแดด

สภาพอากาศหนาวจัด ชาวบ้านก่อไฟผิง แห่ขุดปูอาบแดด

กาฬสินธุ์ สภาพอากาศหนาวจัด ชาวบ้านก่อไฟผิง แห่ขุดปูอาบแดด อบอุ่นร่างกายกลางทุ่งนา

กาฬสินธุ์ อุณหภูมิลดฮวบ โดยเฉพาะเวลากลางคืนถึงช่วงเช้า สภาพอากาศหนาวจัด เขตใกล้กับเทือกเขาภูพานเฉลี่ย 11-14 องศาเซลเซียส ชาวบ้านต้องออกมาก่อไฟผิงคลายหนาวเย็น ขณะที่พื้นที่ราบอุณหภูมิลดต่ำ 14 องศาเซลเซียส ชาวบ้านแห่ขุดปูกลางทุ่งนา เพื่ออาบแสงแดดสร้างความอบอุ่นให้กับร่างกาย และนำไปประกอบอาหาร โดยยังมีความเชื่อว่ารสชาติปูนาในฤดูหนาว ช่วงข้าวใหม่ปูมันตามธรรมชาติ มันปูจะช่วยสร้างความอบอุ่นให้กับร่างกายคลายหนาวได้

เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการติดตามสภาพอากาศในช่วงเริ่มต้นฤดูหนาวในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ พบว่าทุกพื้นที่อุณหภูมิลดลงหลายองศา ซึ่งตามประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยา ช่วงนี้อุณหภูมิลดฮวบ 4-6 องศาเซลเซียส ซึ่งได้เริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ของประชาชน

สภาพอากาศหนาวจัด ชาวบ้านก่อไฟผิง แห่ขุดปูอาบแดด

โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทห่างไกล และมีพื้นที่ติดเทือกเขาภูพาน ช่วงเวลากลางคืนถึงช่วงเช้า อุณหภูมิเฉลี่ย 11-14 องศาเซลเซียส ทำให้ชาวบ้าน โดยเฉพาะเด็ก และผู้สูงอายุ ใน อ.เขาวง และอ.นาคู จ.กาฬสินธุ์ ที่มีบ้านเรือนอยู่ใกล้เทือกเขาต้องออกมาก่อไฟผิง เพื่อคลายความหนาวเย็น ขณะที่พื้นที่ราบหลายอำเภอ ชาวบ้านได้รวมตัวกันออกไปขุดปูนา เพื่ออาบแสงแดดสร้างความอบอุ่นให้ร่างกาย และยังได้ปูนาไปประกอบอาหารในครัวเรือน ประหยัดรายจ่ายด้านค่าครองชีพในช่วงนี้เป็นอย่างดี

โดยที่บริเวณทุ่งนา บ้านแดง หมู่ 3 ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ชาวบ้านจำนวน 10 คน นำโดยนางบุญแสง บุบผาโท อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32 หมู่ 5 บ้านหนองสามขา ต.หนองบัว อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ ได้นำอุปกรณ์ คือเสียม ถัง และถุงพลาสติก สำหรับใส่ปูและผักกระแยง ที่ขุดและเก็บได้ในทุ่งนา เพื่อนำไปประกอบอาหาร

นางบุญแสง กล่าวว่า วันนี้อากาศหนาวเย็น ตนจึงได้ชวนลูกหลาน เดินทางจาก ต.หนองบัว อ.หนองกุงศรี มาหาขุดปูนาในพื้นที่ ต.บัวบาน ซึ่งเป็นเขตใช้น้ำชลประทานลำปาว จึงมีปูนาซึ่งเป็นอาหารตามธรรมชาติชุกชุม โดยขออนุญาตจากเจ้าของที่นา ซึ่งก็ไม่ได้ห้าม เนื่องจากมีความเอื้ออาทรกันและกันตามประสาชาวอีสาน โดยการขุดปูนา นอกจากจะเป็นการอาบแสงแดดอุ่นร่างกายคลายหนาวแล้ว ยังได้อาหาร เช่น ปูนาซึ่งมีรสชาติมัน และเก็บผักกระแยง ซึ่งมีกลิ่นหอม ไปประกอบอาหาร ซึ่งเป็นอาหารเลิศรสประจำฤดูอีกด้วย

สภาพอากาศหนาวจัด ชาวบ้านก่อไฟผิง แห่ขุดปูอาบแดด

นางบุญแสง กล่าวอีกว่า สำหรับปูนาเป็นอาหารประจำฤดู จะให้รสชาติมัน หอม อร่อยมากในดูหนาว หรือช่วงข้าวใหม่ปูมัน ซึ่งเป็นไปตามธรรมชาติของสัตว์ตามท้องนา ที่จะมีการสะสมไขมันในฤดูหนาว โดยปูนาสามารถนำไปปรุงอาหารได้หลายเมนู เช่น ป่น แกง อ่อม ลาบ ชุบแป้งทอด และดอง ซึ่งเป็นการถนอมอาหารกินได้ตลอดปี รวมทั้งยังเป็นที่ต้องการของนักเปิบอาหารพื้นบ้านแปลกๆ ประเภทตำป่า หรือตำรวมต่างๆอีกด้วย ปูนาจึงเป็นที่ต้องการของตลาด โดยมีการซื้อขายกันที่กิโลกรัมละ 50 บาท สำหรับตนก็จะนำไปเป็นอาหารทานในครัวเรือน เป็นการลดรายจ่ายค่าครองชีพ หรือหากมีชาวบ้านขอซื้อก็จะแบ่งขาย เป็นรายได้เสริมในฤดูหนาวนี้

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากปูนาในฤดูหนาว จะมีความมันเป็นพิเศษ เพราะมีการสะสมไขมันตามธรรมชาติ ชาวบ้านเรียกว่ามันปู โดยบางคนยังมีความเชื่อว่า รับประทานปูนาในช่วงนี้ ยังช่วยสร้างความอบอุ่นให้กับร่างกายอีกด้วย