ผ่าอาณาจักรหมื่นล้าน “เจ้าสัวเปรมชัย” 98 บริษัท ก่อนโดนคุกจริง “คดีเสือดำ”

เป็นบุคคลผู้มีชื่อเสียงระดับ “เจ้าสัว” รายล่าสุดที่ถูกศาลฎีกาพิพากษา “จำคุก” สำหรับ “เปรมชัย กรรณสูต” เจ้าของอาณาจักร “อิตาเลียนไทย” ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างยักษ์ใหญ่ระดับ “ท็อปไฟว์” ของไทย

เป็นผลสืบเนื่องจากกรณีเมื่อช่วงปี 2561 นายเปรมชัย กรรณสูต กับพวกรวม 4 คน ถูกกล่าวหาว่า เข้าไปล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก โดยมีการยึดของกลางเป็นซากเสือดำ ไก่ฟ้าหลังเทา เก้ง พร้อมอาวุธปืนและเครื่องกระสุนจำนวนมาก หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า “คดีเสือดำ”

คำพิพากษาของศาลฎีกา ระบุว่า ฎีกาของจำเลยทั้งหมดฟังไม่ขึ้น และไม่มีเหตุให้รอการลงโทษ จึงสั่งจำคุกนายเปรมชัย 2 ปี 14 เดือน นายยงค์ โดดเครือ (คนขับรถ) 2 ปี 9 เดือน และนายธานี ทุมมาส (นายพราน) 2 ปี 13 เดือน โดยไม่รอลงอาญาทั้งหมด และให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหาย 2 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยตามที่กำหนด

พลันที่ศาลฎีกามีคำพิพากษาดังกล่าว ราคาหุ้นของบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ที่มีนายเปรมชัย เป็นกรรมการผู้จัดการและกรรมการ รวมถึงผู้ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 1 ที่ 11.90% ก็ดิ่งฮวบลงทันที 

อ่านข่าว: หุ้นITD ปรับตัวลง 0.93% รับข่าวศาลฎีกาจำคุก เปรมชัย 2 ปี 14 เดือน ไม่รอลงอาญา

กรุงเทพธุรกิจ ผ่า “อาณาจักรธุรกิจ” ของ “เจ้าสัวเปรมชัย” พบรายละเอียด ดังนี้

ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 2564 พบว่า นายเปรมชัย กรรณสูต ปรากฏชื่อเป็นกรรมการบริษัทอย่างน้อย 98 แห่ง โดยรวมถึงบริษัทมหาชนที่จดทะเบียนใน ตลท. ด้วย 2 แห่ง ทำธุรกิจหลากหลายมาก ทั้งรับเหมาก่อสร้าง ธุรกิจสนามกอล์ฟ บ้านพักตากอากาศ อสังหาริมทรัพย์ กีฬา และอื่น ๆ รวมทุนจดทะเบียนหลายหมื่นล้านบาท

สำหรับข้อมูล 2 บริษัทใน ตลท.ที่มีชื่อ “เจ้าสัวเปรมชัย” เป็นกรรมการได้แก่

1.บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) จดทะเบียนเข้าสู่ ตลท. เมื่อวันที่ 9 ส.ค. 2537 ทุนจดทะเบียนปัจจุบัน 6,337,920,861 บาท หรือราว 6.3 พันล้านบาท ดำเนินธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง 

ปรากฏชื่อ นายไผท ชาครบัณฑิต ประธานกรรมการ นายเปรมชัย กรรณสูต กรรมการผู้จัดการ และกรรมการ นางนิจพร จรณะจิตต์ กรรมการ นายปีติ กรรณสูต กรรมการ นายธรณิศ กรรณสูต กรรมการ นายวิรัช ก้องมณีรัตน์ กรรมการ นายภิญโญ มีชำนะ กรรมการอิสระ และประธานกรรมการตรวจสอบ นายวิลเลี่ยม ลี เซนท์กราฟ กรรมการอิสระ และกรรมการตรวจสอบ นายไส้ หว่า ไซม่อน ซุน กรรมการอิสระ และกรรมการตรวจสอบ

รายชื่อผู้ถือหุ้นเป็นคนตระกูล “กรรณสูต” และ “จรณะจิตต์” ถือรายใหญ่ มีนายเปรมชัย กรรณสูต ถือใหญ่สุดลำดับ 1 อยู่ที่ 11.90% นางนิจพร จรณะจิตต์ ถือรองลงมาที่ 6.64% นอกจากนี้ยังบริษัท ซี.พี.เค.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (ของคนตระกูลกรรณสูต) ถืออยู่ 0.66% ด้วย

นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อไตรมาส 3/2564 มีรายได้รวม 42,665.16 ล้านบาท แต่ขาดทุนสุทธิ 853.50 ล้านบาท ส่วนปี 2563 (สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2563) แจ้งมีรายได้รวม 54,915 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 1,104.45 ล้านบาท

2.บริษัท จรุงไทยไวร์แอนด์เคเบิ้ล จำกัด (มหาชน) จดทะเบียนเข้าสู่ ตลท. เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 2518 ทุนจดทะเบียนปัจจุบัน 1,989,531,420 บาท หรือราว 1.9 พันล้านบาท ทำธุรกิจวัสดุอุตสาหกรรมและเครื่องจักร 

ปรากฏชื่อ นายชัย โสภณพนิช ประธานกรรมการ นายเปรมชัย กรรณสูต รองประธานกรรมการ นายทาวเฮิน ซุน กรรมการผู้อำนวยการ และกรรมการ นางสุนันทา แพงศุข กรรมการ นางนิจพร จรณะจิตต์ กรรมการ นายเกษม กุหลาบแก้ว กรรมการ นาย ยวน จุ้น ถัง กรรมการ นายไมเคิล เชา ฉุน ลี กรรมการ นายไส้ หว่า ไซม่อน ซุน กรรมการอิสระ และกรรมการตรวจสอบ นายพรวุฒิ สารสิน กรรมการอิสระ และประธานกรรมการตรวจสอบ นายสตีเฟ่น ซ่วย กู่ กรรมการอิสระ และกรรมการตรวจสอบ นายสุรชัย ศิริวัลลภ กรรมการอิสระ

รายชื่อผู้ถือหุ้นรายใหญ่ มี SINGVALE PTE LTD เอกชนสัญชาติสิงคโปร์ ถือหุ้นใหญ่สุด 21.86% และบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ถือรองลงมา 12.90% และมีบริษัท สยามผลิตภัณฑ์คอนกรีตและอิฐ จำกัด (ของคนสกุล “กรรณสูต”) ถือหุ้นด้วย 0.80% นอกจากนี้ยังมีบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ในเครือ “โสภณพนิช” ถือด้วย 7.29% มีนายชัย โสภณพนิช ถือ 1.16% เป็นต้น

นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อไตรมาส 3/2564 มีรายได้รวม 4,463.62 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 13.10 ล้านบาท ส่วนปี 2563 (สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2563) มีรายได้รวม 4,707.06 ล้านบาท กำไรสุทธิ 298.72 ล้านบาท

เช่นเดียวกับบริษัท อิตาเลียนไทยฯ พลันที่ศาลฎีกามีคำพิพากษาจำคุก “เจ้าสัวเปรมชัย” คดี “เสือดำ” ดังกล่าว ทำให้หุ้นของบริษัท จรุงไทยไวร์แอนด์เคเบิ้ล จำกัด (มหาชน) ดิ่งฮวบลงด้วย

 

ส่วนบรรดาบริษัทอีก 98 แห่งที่ “เจ้าสัวเปรมชัย” เป็นกรรมการนั้น ปัจจุบันยังดำเนินกิจการเกินกว่าครึ่งหนึ่ง และมีอย่างน้อย 19 แห่งที่มีรายได้รวมแต่ละบริษัทในปี 2563 เกินกว่า 100 ล้านบาท ได้แก่

1.บริษัท ไทยนิปปอน สตีล เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น คอร์ปอเรชั่น จำกัด รับเหมาก่อสร้างทุกชนิด และรับจ้างทำของ รายได้รวม 4,959,146,055 บาท กำไรสุทธิ 102,073,028 บาท

2.บริษัท ไทยมารุเคน จำกัด รับเหมาก่อสร้างงานฐานรากขายวัสดุก่อสร้างที่ทำด้วยเหล็กโครงเหล็ก รายได้รวม 1,109,081,017 บาท กำไรสุทธิ 96,160,947 บาท

3.บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา ไนน์ สแควร์ จำกัด การเช่าและการดำเนินการเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นของตนเองหรือเช่ากิจกรรมทางการเงินอื่นๆซึ่งมิได้จัดประเภทไว้ในที่อื่น รายได้รวม 1,267,982,791 บาท กำไรสุทธิ 602,546,995 บาท

4.บริษัท เหมืองแร่ เอเซีย ไทย จำกัด การขายส่งเชื้อเพลิง รายได้รวม 158,599,646 บาท ขาดทุนสุทธิ 138,480,263 บาท

5.บริษัท เอเชี่ยน เรล จำกัด รับเหมาก่อสร้าง รายได้รวม 159,294,497 บาท กำไรสุทธิ 13,979,892 บาท

6.บริษัท เอเซี่ยนสติล โปรดักส์ จำกัด ผลิตและจำหน่ายท่อเหล็ก รายได้รวม 178,811,470 บาท กำไรสุทธิ 46,559,534 บาท

7.บริษัท อ่าวปอ แกรนด์ มารีน่า จำกัด บริการให้เช่าที่จอดเรือขายอาหารและเครื่องดื่ม รายได้รวม 173,737,529 บาท กำไรสุทธิ 20,321,645 บาท

8.บริษัท เครื่องจักรกลสยาม จำกัด รับจ้างหล่อชิ้นส่วนอุปกรณ์โลหะเหล็กหล่อรับจ้างกลึงชิ้นส่วนอุปกรณ์โลหะเหล็กหล่อ รายได้รวม 573,548,933 บาท กำไรสุทธิ 11,549,864 บาท

9.บริษัท ซังกิวไทย จำกัด งานวิศวกรรมด้านติดตั้งเครื่องจักรตัวแทนขนส่งสินค้า รายได้รวม 1,129,214,071 บาท กำไรสุทธิ 65,795,800 บาท

10.บริษัท นิชิโอะ เร้นท์ ออล (ประเทศไทย) จำกัด เช่าเครื่องจักรและอุปกรณ์ รายได้รวม 438,011,804 บาท กำไรสุทธิ 19,071,312 บาท

11.บริษัท บางกอกสตีลไวร์ จำกัด ผลิต และจำหน่าย ลวด PC WIRE,PC STRAND,Low Carbon Steel Wire รายได้รวม 1,171,439,515 บาท กำไรสุทธิ 37,220,275 บาท

12.บริษัท พระราม 9 สแควร์ จำกัด การให้เช่า และการดำเนินงานด้านอสังหาริมทรัพย์ รายได้รวม 1,049,279,066 บาท กำไรสุทธิ 614,744,503 บาท

13.บริษัท ภคภูมิ ดีเวลอปเม้นท์ จำกัด การซื้อและการขายอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นของตนเองเพื่อการพักอาศัย รายได้รวม 316,573,516 บาท กำไรสุทธิ 14,893,176 บาท

14.บริษัท ภูมิใจไทยซีเมนต์ จำกัด ขายผลิตภัณฑ์ปูนซีเมนต์และบริการขนส่ง รายได้รวม 1,351,531,057 บาท กำไรสุทธิ 2,376,652 บาท

15.บริษัท สยามผลิตภัณฑ์คอนกรีตและอิฐ จำกัด การผลิตผลิตภัณฑ์คอนกรีตเพื่อใช้ในงานก่อสร้างจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง รายได้รวม 138,447,515 บาท ขาดทุนสุทธิ 17,257,754 บาท

16.บริษัท สรีธร จำกัด การซื้อและการขายอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นของตนเอง เพื่อการพักอาศัยกิจกรรมบริการเพื่อการบริหารสำนักงานแบบเบ็ดเสร็จ รายได้รวม 173,915,406 บาท ขาดทุนสุทธิ 40,321,270 บาท

17.บริษัท อิตัลไทย มารีน จำกัด ต่อเรือและซ่อมเรือ รายได้รวม 154,395,947 บาท ขาดทุนสุทธิ 64,622,703 บาท

18.บริษัท อิตัลไทย เทรวี่ จำกัด เจาะเสาเข็ม, ทำฐานราก รายได้รวม 782,278,069 บาท กำไรสุทธิ 3,745,211 บาท

19.บริษัท อิตาเลียนไทย หงสา จำกัด รายได้จากการขุดขนดิน รายได้รวม 1,892,195,372บาท กำไรสุทธิ 57,865,283 บาท

ทั้งหมดคือ “มหาอาณาจักรธุรกิจ” ของ “เจ้าสัวเปรมชัย” ก่อนเจ้าตัวเผชิญวิบากกรรม ถูกคำพิพากษาศาลฎีกาสั่ง “จำคุกจริง” 2 ปี 6 เดือน ต้องเข้าไปอยู่ในเรือนจำตอนนี้