ก.แรงงาน ยันไม่พบการเลิกจ้างกรณี บ.ขนส่ง ลอยแพลูกจ้าง 400 คน

ก.แรงงาน ยันไม่พบการเลิกจ้างกรณี บ.ขนส่ง ลอยแพลูกจ้าง 400 คน

ก.แรงงาน ยันไม่พบการเลิกจ้างกรณี บริษัทขนส่งแห่งหนึ่ง ย่านสมุทรปราการ ลอยแพลูกจ้าง 400 คน และยังไม่พบว่ามีบริษัทขนส่งปิดกิจการ แนะหากเกิดกรณีดังกล่าวจริงขอให้นายจ้างดำเนินการเลิกจ้างตามกฎหมาย

เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.64 นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ โฆษกกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงกรณีที่เพจสังคมโรงงาน ให้ข่าวว่าบริษัทขนส่งแห่งหนึ่ง ในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ เตรียมปิดกิจการ ส่งผลให้ลูกจ้างกว่า 400 ชีวิตต้องตกงานกระทันหัน

 

ซึ่งเรื่องนี้ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มีความห่วงใยลูกจ้าง และให้ความสำคัญในการช่วยเหลือบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนพี่น้องผู้ใช้แรงงานให้ได้รับสิทธิประโยชน์ตามกฎมายคุ้มครองแรงงาน จึงได้สั่งการให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยนายนิยม สองแก้ว อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ได้มอบหมายให้สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสมุทรปราการตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้น พบว่าไม่พบบริษัทขนส่งปิดกิจการ หรือการเลิกจ้างลูกจ้างจำนวน 400 คน

แต่ทางกรมฯไม่ได้นิ่งนอนใจพร้อมคุ้มครองสิทธิลูกจ้างให้ได้รับสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายคุ้มครองแรงงานหากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น และขอให้บริษัทฯที่ต้องการจะเลิกจ้างลูกจ้างให้ปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมจ่ายค่าชดเชยและเงินตามกฎหมายคุ้มครองแรงงานให้กับลูกจ้าง ซึ่งหากนายจ้างไม่ปฏิบัติตาม ขอความร่วมมือให้ลูกจ้างที่ไม่ได้รับสิทธิตามกฎหมายเข้ามายื่นคำร้องต่อพนักงานตรวจแรงงาน สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานพื้นที่ หรือจังหวัดที่ลูกจ้างปฏิบัติงาน

โดยสิทธิที่ลูกจ้างพึงได้ตามกฎหมาย ประกอบด้วย

  • ค่าชดเชย
  • สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า
  • ค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีสะสม หรือตามสัดส่วน
  • ใบสำคัญการทำงาน
  • เงินสวัสดิการต่าง ๆ ตามที่กำหนดในระเบียบของนายจ้าง

และแนะนำพี่น้องผู้ใช้แรงงานหากถูกเลิกจ้าง หรือบริษัทฯปิดกิจการนั้น นอกจากสิทธิด้านคุ้มครองแรงงานแล้ว ยังสามารถใช้สิทธิประกันสังคมกรณีว่างงาน พร้อมทั้งหางานใหม่ได้ที่กรมการจัดหางาน 

โฆษกกระทรวงแรงงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้ฝากส่งกำลังใจให้กับพี่น้องแรงงานทุกท่านในช่วงสิ้นปีนี้ให้ผ่านพ้นวิกฤตไปได้อย่างราบรื่น ซึ่งกระทรวงแรงงานให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของผู้ใช้แรงงานให้ได้รับการช่วยเหลือตามกฎหมายแรงงานโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยสอบถามได้ที่ สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดทุกจังหวัด และสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานคร ทั้ง 10 พื้นที่ หรือสายด่วน 1506 กด 3