"สมศักดิ์" เปิดเกณฑ์อภัยโทษ ยัน"คดีจำนำข้าว"ทำตามขั้นตอนกฎหมาย
"สมศักดิ์"แจงที่ประชุมวุฒิสภา ยันอภัยโทษคดีจำนำข้าวทำตามขั้นตอนกฎหมาย มั่นใจความบริสุทธิ์ พร้อมให้ตรวจสอบ
ในการประชุมวุฒิสภา ที่มีนายศุภชัย สมเจริญ รองประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม โดยมีวาระกระทู้ถามด้วยวาจา กรณีการลดโทษให้ผู้ต้องขังคดีจำนำข้าว โดยนายวัยชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา ตั้งกระทู้ถาม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม
นายวันชัย กล่าวว่า ตนขอถามกรณีผู้ต้องขังออกจากเรือนจำเร็วเกินไปและการลดโทษกรณีผู้ต้องขังคดีจำนำข้าวที่สร้างความเสียหายให้ประเทศหลายแสนล้าน มีคนตายจากคดีนี้เป็นสิบๆคน ศาลตัดสินจำคุกแรงมาก แต่กรมราชทัณฑ์ภายใต้การกำกับดูแลของ รมว.ยุติธรรม มีมาตรการในการลดหย่อนผ่อนโทษและการจัดลำดับชั้นนักโทษเพื่อเข้าสู่กระบวนการดังกล่าว คนไทยคิดว่าคนที่ทุจริตต้องถูกลงโทษอย่างสาสม
แต่การลดโทษแบบนี้เป็นการกระทำการเหมือนตบหน้าคนไทยทั้งประเทศ การทำงานของ รมว. อาจจะไม่ได้ไปล้วงลูก แต่มีคำพูดมาโดยตลอดว่า คนมีเงินคนมีอิทธิพล คนมีอำนาจไม่ติดคุก ถึงติดคุกก็ติดสบาย คนจนมีแต่ติดจนถูกขังลืม กระบวนการภายใต้กำกับของ ท่านรมว. ได้ไปกำกับดูแลกระบวนการเหล่านี้มากน้อยเพียงใด กว่าที่จะเอาคนพวกนี้มาเข้าคุกได้ เจ้าหน้าที่ต้องทำงานหนักมาก แต่กรมราชทัณฑ์กลับไปลดกระหน่ำซัมเมอร์เซลล์ และมีคนพูดว่าคนพวกนี้เป็นพวกเดียวกับท่าน รมว. เคยเป็นนักการเมืองเป็นรัฐมนตรีด้วยกัน
ตนขอถามแบบตรงไปตรงมาว่า กระบวนการเลื่อนชั้นนักโทษเหล่านี้ ท่านรู้เรื่องบ้างหรือไม่ มีส่วนรู้เห็นมากน้อยเพียงใด มีการตรวจสอบหรือไม่ หลักเกณฑ์ในการเลื่อนระดับนักโทษ มีการวิ่งเต้นใช้เงินหรือไม่ คดีคอรัปชั่น คดียาเสพติด ศาลต้องลงโทษแรงและพิจารณาคดีเร็ว แต่สวนทางกับท่าน แรงกลับทำให้เบาออกจากคุกเร็ว ท่านจะมีการพิจารณาเลื่อนชั้นกับคดีเหล่านี้หรือไม่
นายสมศักดิ์ ชี้แจงว่า ท่านกล่าวหาและกระแนะกระแหนเหมือนว่าตนกระทำผิดเสียเอง ตนมารับตำแหน่งรมว.ยุติธรรม ได้บริหารความยุติธรรมในทุกชั้นทุกแนวทางหรือผู้คนที่มาร้องเรียน ตนปวารณาตัวว่าจะแก้ปัญหาทำให้เกิดความยุติธรรม ให้ประชาชนพึงพอใจ ทั้งๆที่ผู้คนอาจจะไม่ได้หวังว่าตนจะทำหน้าที่ รมต.ด้านสังคมได้อย่างไร
แต่ตนมั่นใจในการทำหน้าที่ สิ่งที่ได้ดำเนินการไปนั้นเป็นเรื่องที่ถูกต้องตามแนวทางและครรลองต่างๆ ซึ่งมีการปฏิบัติมาตั้งแต่ พ.ศ.2459 จนถึงวันนี้ก็เป็นเวลา 105 ปี มี พ.ร.ฎ.อภัยโทษผู้ต้องขัง 52 ฉบับ และแนวทางดังกล่าวนั้น ก็แบ่งออกเป็นขั้นเป็นชั้นเป็นตอน เพื่อแยกแยะประเภทของโทษ ซึ่งได้ดำเนินการอย่างชัดเจนในรูปแบบของเอกสาร และมีการปรับปรุงมาเป็นลำดับ ซึ่งตนคิดว่า ที่ผ่านมาผู้ต้องขังเขาประทับใจในการทำงานของกรมราชทัณฑ์ในการพักโทษแต่ละครั้งแต่ละคราวตนเห็นแต่มีคนชื่นชมยินดี เพราะไม่ต้องมาเสียเงิน
โดยหลักเกณฑ์ในการลดโทษคือ คดีอาญาทั่วไป ชั้นเยี่ยมลดโทษ 1 ใน 2 ชั้นดีมากลดโทษ 1 ใน 3 ชั้นดีลดโทษ 1 ใน 4 และชั้น กลาง ลดโทษ 1 ใน5 คดีอาญาร้ายแรง เช่น ความผิดต่อเจ้าพนักงาน ตำแหน่งหน้าที่ ในส่วนนี้ชั้นเยี่ยมลดโทษ 1 ใน 3 ชั้นดีมาก ลดโทษ1 ใน 4 ชั้นดี ลดโทษ 1 ใน 5 และ ชั้นกลาง ลดโทษ 1 ใน 6 บุคคลที่ท่านพูดก็อยู่ในกลุ่มนี้
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า คดียาเสพติดรายย่อย ที่โทษจำคุกไม่เกิน 8 ปี ชั้นเยี่ยม ลดโทษ 1 ใน 5 ชั้นดีมาก ลดโทษ 1 ใน6 ชั้นดี ลดโทษ 1 ใน 7 และชั้นกลาง ลดโทษ 1 ใน 8คดียาเสพติดรายใหญ่ ที่โทษจำคุกเกิน 8 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิตชั้นเยี่ยม ลดโทษ 1 ใน 6 ชั้นดี มาก ลดโทษ 1 ใน 7 ชั้นดี ลดโทษ 1 ใน 8 และชั้นกลาง ลดโทษ 1 ใน 9 นักโทษเด็ดขาดหากท่านจะขอเปลี่ยนให้ลดโทษน้อยลง ตนไม่รู้ว่าสามารถทำได้หรือไม่อย่างไร เพราะการขอพระราชทานอำนาจเป็นการทั่วไป เป็นของ คณะรัฐมนตรี แต่หากเฉพาะบุคคลเป็นอำนาจของ รมว. ที่ผ่านตนได้ตรวจสอบมาโดยตลอดเพื่อความเรียบร้อย ตนรับผิดชอบในแนวทางตรงนี้
นายวันชัย กล่าวอีกว่า สังคมข้องใจว่าในเรือนจำ การดำเนินการนี้เป็นลักษณะภายในของเรือนจำ คนจึงสงสัยว่าคนมีเงินติดคุกสบาย ดังนั้นจะมีความโปร่งใสหรือไม่ และบุคคลภายนอกมีสิทธิเข้าไปตรวจสอบหรือไม่ เช่นการตั้งคณะกรรมการเข้าไปตรวจสอบโดยบุคคลนอก ตนจึงขอถามว่าจะมีการทบทวนเรื่องนี้หรือไม่
นายสมศักดิ์ ชี้แจงว่า "ผมยินดีเรื่องของการตรวจสอบ เพราะมั่นใจในความบริสุทธิ์ของผม และกระบวนการต่างๆ ผมมั่นใจว่าไม่มีและจะไม่เอาข้าราชการที่ทำความผิดแบบนั้น ยินดีให้ตรวจสอบ หากท่านหรือใครจะตั้งคณะไปตรวจสอบเมื่อใด ผมพร้อมต้อนรับ"