อินไซด์กมธ. 'ทวี' พ้อ ปมชั้น14 ด้อยค่ากระทรวงยุติธรรม ย้ำ'ทักษิณ' ไร้อภิสิทธิ์

บรรยากาศการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เป็นประธาน ที่ประชุมได้มีการพิจารณากรณีการส่งตัวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พักรักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ  โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจง

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เข้าชี้แจงต่อ กมธ.ฯ ว่า ตนเขามาเป็นรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 13 ก.ย.67 กรณีของนายทักษิณ ได้ตัดสินใจเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ก่อนที่ตนจะเป็นรัฐมนตรี และยังไม่ได้มีการฟอร์มว่าใครจะเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งการเลือกนายกฯเกิดขึ้นในที่ 22 ส.ค. ตนก็ไม่รู้ว่าจะเป็นรัฐมนตรีหรือไม่  เหตุที่ตนต้องมาชี้แจง เหมือนกมธ.ฯชุดนี้ ไปด้อยค่ากรมราชทัณฑ์ ไม่ให้เขาได้มีโอกาสชี้แจง 

"ยืนยันว่ากรมราชทัณฑ์ปฏิบัติตามกฎหมาย  ซึ่งมีการแบ่งเกรดของโรงพยาบาลราชทัณฑ์ตามการใช้ศักยภาพ ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับอาการของผู้ป่วยที่ต้องรักษา มีการระบุชัดว่าโรงพยาบาลก็ถือว่าเป็นสถานที่คุมขัง หากประชาชน รับไม่ได้ก็ต้องไปแก้ที่กฎหมาย"

 

ช่วงหนึ่งพ.ต.อ.ทวี ได้แสดงเอกสารลับเรื่องการรักษาตัว ชี้แจงว่า ทางเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯได้จัดบุคคลดูแลไม่ใช่แค่ 2 คน แต่มีหลายคนมีการเข้าเวรตลอด ยืนยันว่าไม่ใช่ห้องพิเศษ เข้าใช้ห้องควบคุมพิเศษและต้องไม่ให้มีใครปองร้าย  เนื่องจากนายทักษิณ เคยถูกปองร้ายเคยโดนคาร์บอมบ์มาก่อน  

กรณีดังกล่าวก็ก็เป็นดุลยพินิจของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.)โรงพยาบาลตำรวจ และการเข้าเยี่ยมก็มีรายการ การเข้าเยี่ยมทั้งหมด การนำคำพูดไปยื่นต่อ กรรมการป้องกันและปรับปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ผู้ตรวจการแผ่นดิน ซึ่งมีการสอบอย่างละเอียด และกมธ.ฯ ไม่ใช่การสอบสวนในทางการเมือง เราต้องไปข้างหน้า อย่ามาด้วยค่ากัน ตนมีหลักฐานยืนยันตามระเบียบทั้งหมด

  รมว.ยุติธรรมยังย้ำว่าการกระทรวงยุติธรรมไม่มีสิทธิ์ใช้ดุลยพินิจ ต้องดำเนินการตามกฎหมายทุกอย่างตามพ.ร.บ.ราชทัณฑ์  ปี2566  

"การใช้ดุลยพินิจ กฎหมายเขียนไว้ชัดเจน ยืนยันว่า คนที่เข้าเรือนจำต้องถูกควบคุม ห้องที่นายทักษิณไปอยู่คือห้องควบคุมพิเศษ ในความหมายของตน ส่วนป้ายที่เขียนว่า ตึกนี้ชั้นนี้ เป็นพรีเมี่ยม ตนไม่ทราบ เพราะเป็นที่รักษาคนทั่วไป ญาติพี่น้องตำรวจใครก็เข้าไปรักษาได้ คนทุกคนมีศักดิ์ศรีเท่ากัน" 

พ.ต.อ.ทวี ชี้แจงต่อว่า กรณีการให้คะแนนการส่งตัวนายทักษิณเข้ารักษานั้น เป็นไปตามความเห็นของเป็นแพทย์ ที่เห็นว่า กรณีนายทักษิณ เข้าหลักเกณฑ์ผู้สูงอายุทั้งหมดและเหลือโทษไม่มากการให้คะแนนจึงเป็น9 คะแนน อีกทั้งความเห็นของแพทย์ที่วินิจฉัยว่าเข้าหลักเกณฑ์ทั้งหมดมีโรคหลายโรค และไม่มีผู้อื่นเห็นแย้ง ย้ำว่าการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ ถือเป็นการจำคุกถือเป็นส่วนหนึ่งของเรือนจำ และมีผู้แทนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) 

จากนั้นนายรังสิมันต์ ได้ซักถามประเด็นที่มีการวิกาษ์วิจารณ์ว่า นายทักษิณดูเหมือนคนสุขภาพดี ช่วยเหลือตัวเองได้ ได้มีการตรวจสอบผู้ใต้บังคับบัญชาว่าประเด็นการการใช้อำนาจมิชอบหรือไม่ 

พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ได้มอบหมายรองปลัดกระทรวงยุติธรรมไปตรวจสอบและทางผู้ตรวจการแผ่นดิน ก็ได้ตรวจสอบกรณีนี้ซึ่งพบว่าไม่มีอะไรผิดกฎหมาย และยุติเรื่องไปแล้ว 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อถึงช่วงนี้ นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะกมธ.ฯ ทักท้วงว่า  คำถามบางคำถาม และการชี้แจงไม่ใช่หน้าที่ของพ.ต.อ.ทวี ส่วนกรณีชั้น 14 คุณอยากไปหรือใครอยากไป มันก็ไม่ใช่หน้าที่ของ พ.ต.อ.ทวี บางอย่างไม่ใช่ท่านจะสั่งการได้ เพราะจะมีกระบวนการในการเสนอมา หากยังมีความสงสัยอยู่  ก็ลองไปเป็นนักโทษดู 

พ.ต.อ.ทวี ชี้แจงต่อว่า เรื่องการรักษาตนได้มีโอกาสพูดคุยกับนายแพทย์ใหญ่ ได้รับแจ้งว่า มีการเอกสารให้ ป.ป.ช.เหลือเพียงแค่ตัวเวชทะเบียน เนื่องจากเป็นสิทธิ์ตาม พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติตามมาตรา 7

 "สิทธิ์ของผู้ป่วย ผู้ป่วยจะออกเงินเองก็ได้ เพราะโรงพยาบาลตำรวจจับมือกับ สปสช. ซึ่งกรณีของนายทักษิณ ค่ายาหลักสูง แต่ผู้ป่วยเป็นผู้ออกเอง และไม่มีกฎหมายเขียนห้ามไว้"
  

ด้านพ.ต.ท.ธีรวัตร์ ปัญญาณ์ธรรมกุล เลขานุการประจำคณะ กมธ.ฯ กล่าวตั้งข้อสังเกตว่า วิวห้องที่นายทักษิณ พักรักษาตัวเป็นวิว sport club เป็นห้องสูท ถ้าดูตามราคาที่ปรากฏทั่วไป คืนละประมาณ 8,500 บาท คูณ 120 วัน ก็ประมาณล้านกว่าบาท ในฐานะที่เป็นตำรวจและเคยใช้บริการจึงได้ส่วนลด แล้วนายทักษิณได้ส่วนลดด้วยหรือไม่ 

พ.ต.อ.ทวี ย้ำว่า คนทั่วสามารถใช้บริการห้องดังกล่าวได้ ส่วนการรักษาพยาบาลนายกทักษิณ ไม่ขอใช้สิทธิ์เป็นการจ่ายเงินเอง ย้ำว่าการที่นายทักษิณ อยู่ในห้องโรงพยาบาลตำรวจ ก็เหมือนอยู่ในเรือนจำอยู่ และการที่ต้องส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจเพราะศักยภาพของโรงพยาบาลราชทัณฑ์ไม่เพียงพอ