“เพื่อไทย”เปิดตัว“จาตุรนต์”กลับพรรค-อ้างกติกาไม่เอื้อทำพรรคเอง

ที่พรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ร่วมแถลงข่าวให้การต้อนรับ นายจาตุรนต์ ฉายแสง นายวุฒิพงษ์ ฉายแสง นางฐิติมา ฉายแสง นายเศกสิทธิ์ ไวยนิยมพงศ์ พร้อมคณะเดินทางเข้ามาสมาชิกพรรคเพื่อไทย

นายจาตุรนต์ ฉายแสง สมาชิกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ได้รับเชิญให้กลับมาพรรคเพื่อไทย เพื่อร่วมทำงาน ต้องขอขอบคุณ รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ขอเรียนกับประชาชน พวกผมที่มา พยายามหาทางที่เป็นประโยชน์แก้ไขปัญหาบ้านเมือง สร้างบ้านเมืองให้เป็นประชาธิปไตย เจริญก้าวหน้า พบว่าสถานการณ์บ้านเมืองเกิดสภาพที่ประเทศมีปัญหามาก ทั้งจากความไม่เป็นประชาธิปไตย เรื่องเศรษฐกิจ ปัญหาการแพร่ระบาดโควิด 

รวมทั้งรัฐธรรมนูญที่ยังไม่ได้แก้ กติกาก็เป็นปัญหา รัฐบาลล้มเหลวในการแก้ปัญหา มีความจำเป็น ประเทศต้องเกิดการเปลี่ยนแปลง เพื่อให้ได้รัฐบาลที่ได้ปัญหาที่ดีกว่า หวังว่าจะสร้างบ้านเมืองให้เป็นประชาธิปไตยให้เจริญก้าวหน้า สภาวะแบบนี้ ฝ่ายประชาธิปไตย ต้องผนึกกำลังให้เข้มแข็ง เพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ให้ได้ พบว่าพรรคเพื่อไทยกำลังจัดขบวน ผนึกกำลังจากผู้มีประสบการณ์ และคนรุ่นใหม่ ที่เข้ามาเพื่อที่จะทำพรรคให้เข้มแข็ง บรรลุจุดมุ่งหมาย แก้ปัญหาให้ประเทศ 
 

“เมื่อผู้ใหญ่ของพรรคเพื่อไทย หัวหน้า เลขาธิการพรรค ได้มาเชิญผมกับคณะให้กลับมาที่พรรคเพื่อไทย เห็นว่า การกลับมาเพื่อไทย เพื่อทำงานเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ผนึกฝ่ายประชาธิปไตยให้เข้มแข็ง เพื่อให้ได้รัฐบาลที่แก้ปัญหาให้ประชาชนได้ เป็นการปูทางให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย แก้รัฐธรรมนูญ กติกาในอนาคต ที่สำคัญเพื่อให้บ้านเมืองได้เจริญก้าวหน้า สร้างชีวิตใหม่ให้ประชาชน”

 นายจาตุรนต์ กล่าวต่อว่า เราเป็นคณะเล็กๆแม้มีประสบการณ์บ้าง แต่ไม่ได้วิเศษวิโสอะไร ก็หวังว่าเมื่อมาอยู่กับพรรคเพื่อไทยแล้ว หวังว่าจะทำประโยชน์ได้ไม่มากก็น้อย จะทำอย่างเต็มความสามารถ เอาประโยชน์ประชาชนเป็นที่ตั้ง เชื่อว่าจะร่วมกันในการแก้ปัญหาบ้านเมืองให้เป็นประชาธิปไตย ทำให้บ้านเมืองก้าวหน้าต่อไป

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า นายจาตุรนต์ รับคำเชิญมาทำงาน ไม่มีข้อต่อรอง ไม่มีเงื่อนไขใดๆทั้งสิ้น ส่วนตำแหน่งอยู่ที่พรรคที่จะวางไว้ตามที่มอบหมาย นายจาตุรนต์ มาร่วมงาน ทำให้ภาพลักษณ์การต่อสู้ของประชาธิปไตยเด่นชัดมากขึ้น เราสนับสนุน การต่อสู้ตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ทุกคนที่มาเพื่อจะบอกว่า จะขับเคลื่อนพรรคเพื่อไทยไปสู่เป้าหมาย จะเป็นการเติมเต็มสิ่งเหล่านี้ให้สมบูรณ์ 
 

นายจาตุรนต์กล่าวอีกว่า ก่อนหน้าแม้จะเคยสร้างและทำพรรคการเมือง แต่ว่าเมื่อกติกาเปลี่ยนไป พบว่า การดำเนินการในลักษณะทำพรรคการเมืองใหม่ น่าจะทำประโยชน์ให้บ้านเมืองได้อยู่ แต่น่าจะน้อยกว่ามาผนึกกับพรรคการเมืองที่เข้มแข็ง มีความพร้อม มีอุดมการณ์มั่นคง เมื่อคำนึงถึงรัฐบาลที่ล้มเหลว เห็นว่าการมาผนึกกำลังกับพรรคเพื่อไทย ผนึกกำลังฝ่ายประชาธิปไตย น่าจะเป็นเรื่องสำคัญต่อโดยรวม มีความหมาย ทำให้เกิดประโยชน์ต่อการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในทางที่ดีได้ เลยไม่ได้ดำเนินการต่อในนามพรรคการเมืองที่เตรียมการไว้ แล้วมาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย

โดยการเข้ามาทำงานในพรรคเพื่อไทยครั้งนี้ ไม่มีเงื่อนไข ข้อต่อรอง ทุกอย่างเป็นไปตามระบบพรรคการเมือง สำหรับสถานการณ์ระยะหลังมีภายใต้กติกาที่เขาเขียนเพื่อให้ฝ่ายสืบทอดอำนาจ ได้เปรียบในหลายด้าน แต่ในสถานการณ์ระยะหลังและต่อไปนี้ ก็มีความเป็นไปได้อย่างมาก ที่ประชาชนจะสนับสนุนพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย ที่มีความพร้อมจะแก้ปัญหาประเทศ แต่ก็ขึ้นอยู่ที่อยู่ที่พรรคการเมือง นักการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย 

“ต้องยอมรับว่าไม่ง่าย แต่คงต้องหารือต่อไป เป้าหมายให้ประชาส่วนใหญ่มาสนับสนุนประชาธิปไตย น่าจะเกิดขึ้นได้ ถ้าทุ่มเทอย่างจริงจัง ส่วนจะได้เป็นรัฐบาลหรือไม่ คงต้องไปดูกันอีกว่า กติกาที่เขาเขียนเอาเปรียบอย่างนี้จะเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับประชาชนอยู่ดี”