เช็คด่วน! "ส่งเสริมการจ้างงาน SME" รับ 3,000 บาท หมดเขตลงทะเบียน 20 ธ.ค.นี้

เช็คด่วน! "ส่งเสริมการจ้างงาน SME" รับ 3,000 บาท หมดเขตลงทะเบียน 20 ธ.ค.นี้

เช็คด่วน! กระทรวงแรงงาน ชวนสถานประกอบการขนาดเล็ก-กลาง ลงทะเบียน "ส่งเสริมการจ้างงาน SME" รอบ 2 รัฐจะช่วยอุดหนุนค่าจ้าง 3,000 บาทต่อลูกจ้างสัญชาติไทย 1 คนต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน หมดเขตลงทะเบียน 20 ธ.ค.นี้

ภายหลังจาก ครม. มีนโยบายจัดตั้งโครงการส่งเสริมและรักษาระดับการจ้างงานในธุรกิจ SMEs หรือ "ส่งเสริมการจ้างงาน SME" โดยรัฐจะแบ่งเบาภาระนายจ้างด้วยการช่วยจ่ายค่าจ้างให้ลูกจ้างรายละ 3,000 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน เพื่อช่วยป้องกันปัญหาการเลิกจ้าง (ลูกจ้างตกงาน)

ซึ่ง รัฐบาลได้ขยายเวลาการลงทะเบียน "โครงการส่งเสริมและรักษาระดับการจ้างงานในธุรกิจ SMEs" รอบที่ 2 หรือ "ส่งเสริมการจ้างงาน SME" ระหว่างวันที่ 23 พ.ย. ถึงวันที่ 20 ธ.ค.2564 โดยนายจ้างที่ลงทะเบียนรอบใหม่นี้ จะได้รับเงินอุดหนุนตามจำนวนลูกจ้างสัญชาติไทย คนละ 3,000 บาท สูงสุด 200 คนเป็นเวลา 2 เดือน (ธ.ค.2564 – ม.ค.2565)

กรมการจัดหางาน ได้จ่ายเงินอุดหนุนงวดแรก ในวันที่ 30 พ.ย. 64 และวันที่ 2 ธ.ค. 64 ที่ผ่านมา แก่นายจ้าง สถานประกอบการ จำนวน 197,899 ราย ที่มีลูกจ้างสัญชาติไทย 2,803,472 คน เป็นยอดเงินอุดหนุนทั้งสิ้น 8,410,416,000 บาท

ล่าสุดวันนี้ (15 ธ.ค.64) นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้ใกล้สิ้นสุดระยะเวลาแล้ว หากสถานประกอบการใดประสงค์รับเงินอุดหนุนตามโครงการฯจากรัฐ ขอให้เร่งลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ “ส่งเสริมการจ้างงานเอสเอ็มอี.doe.go.th” ภายในกำหนด

เช็คด่วน! \"ส่งเสริมการจ้างงาน SME\" รับ 3,000 บาท หมดเขตลงทะเบียน 20 ธ.ค.นี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

หรือหากไม่สามารถดำเนินการด้วยตนเองได้ ให้นำเอกสารที่เกี่ยวข้องติดต่อ สำนักงานจัดหางานจังหวัด ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานประกอบการ เพื่อมีสิทธิรับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลในเดือนธันวาคม 64 และเดือนมกราคม 65 ในอัตรา 3,000 บาท ต่อลูกจ้างสัญชาติไทย 1 คน 

  • เงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการ

1. รัฐจ่ายเงินอุดหนุนให้แก่นายจ้าง ตามจำนวนลูกจ้างสัญชาติไทยไม่เกิน 200 คน ที่อยู่ในฐานทะเบียนข้อมูลประกันสังคม มาตรา 33 มีสถานะ Active ณ วันที่ 16 พฤศจิกายน 2564

2. จ่ายเงินอุดหนุนในอัตรา 3,000 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน (พฤศจิกายน 2564 - มกราคม 2565)

3. จ่ายเงินอุดหนุนตามจำนวนการจ้างจริงของทุกเดือน โดยตรวจสอบจากฐานทะเบียนข้อมูลประกันสังคม มาตรา 33 มีสถานะ Active ทุกวันที่ 16 ของเดือน

4. ระหว่างเข้าร่วมโครงการเดือนที่ 2 และ 3 (ธันวาคม 2564 และ มกราคม 2565) นายจ้างจะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไข ดังนี้

4.1) นายจ้างต้องรักษาระดับการจ้างงาน ณ วันที่ 16 พฤศจิกายน 2564 ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 95 หากนายจ้างไม่สามารถรักษาระดับการจ้างงานไว้ได้ จะไม่ได้รับเงินอุดหนุนในเดือนนั้น ๆ

4.2) ในกรณีที่นายจ้างมีจำนวนการจ้างงานเพิ่มขึ้น โดยเปรียบเทียบจากข้อมูล ณ วันที่ 16 พฤศจิกายน 2564 นายจ้างจะได้รับเงินอุดหนุนตามจำนวนการจ้างงานจริง แต่ไม่เกินร้อยละ 5 ของจำนวนลูกจ้างสัญชาติไทยทั้งหมด ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของโครงการ ในอัตรา 3,000 บาทต่อคนต่อเดือน ระยะเวลา 2 เดือน (ธันวาคม 2564 ถึง มกราคม 2565)

 

4.3) นายจ้างจะต้องแจ้งชื่อและหมายเลขบัญชีธนาคารของนายจ้าง (กรณีนายจ้างเป็นนิติบุคคลต้องใช้บัญชีธนาคารซึ่งเป็นชื่อของนิติบุคคลนั้น/นายจ้างบุคคลธรรมดาใช้ชื่อบัญชีของนายจ้าง)

4.4) รัฐจ่ายเงินอุดหนุนให้กับนายจ้าง โดยโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากตามที่นายจ้างแจ้งทุกวันทำการสุดท้ายของเดือน ตรงนี้เฉพาะกรณีการรับเงินอุดหนุนผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย

แต่สำหรับธนาคารอื่นๆ นายจ้างจะได้รับเงินอุดหนุนหลังจากวันดังกล่าว โดยจะถูกหักค่าธรรมเนียมการโอนระหว่างธนาคารจากเงินอุดหนุน

4.5) นายจ้างที่ประสงค์เข้าร่วมโครงการ ต้องลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ "ส่งเสริมการจ้างงานเอสเอ็มอี.doe.go.th" ตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม ถึงวันที่ 20 พฤศจิกายน 2564 ก่อน

แล้วจึงสมัครใช้บริการระบบ e-Service ของสำนักงานประกันสังคม เพื่อยื่นแบบรายการแสดงข้อมูลการส่งเงินสมทบ สปส. 1-10 ในระบบ e-Sevice ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป จึงจะได้รับเงินอุดหนุนจากโครงการนี้ (การขอรับเงินอุดหนุนของนายจ้างจะต้องไม่เป็นเหตุให้นายจ้างชะลอการจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้าง)

4.6) นายจ้างจะต้องจ่ายค่าจ้าง ไม่ต่ำกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำของแต่ละจังหวัด ตามประกาศของคณะกรรมการค่าจ้าง

ด้านนายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 23 พ.ย. – 16 ธ.ค. 64 มีสถานประกอบการลงทะเบียนร่วมโครงการส่งเสริมและรักษาระดับการจ้างงานในธุรกิจ SMEs รอบที่ 2 จำนวน 14,829 แห่ง มีลูกจ้างสัญชาติไทย จำนวน 118,087 คน

นายจ้างต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง?

  • สำเนาสมุดบัญชีธนาคาร

ส่วนนายจ้าง/สถานประกอบการที่ไม่สามารถลงทะเบียนร่วมโครงการฯผ่านระบบด้วยตนเอง

  • นำเอกสารประกอบด้วย หนังสือมอบอำนาจติดอากรแสตมป์ 30 บาท
  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคาร (กรณีใช้บัญชีกระแสรายวัน ให้ใช้สมุดหน้าเช็คที่มีชื่อนายจ้างและเลขบัญชี)
  • สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล หรือสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน (นายจ้างบุคคลธรรมดา) โดยลงลายมือชื่อรับรองสำเนาถูกต้องทุกฉบับ
  • ติดต่อที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 – 10 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการให้

หลังจากสมัครร่วมโครงการแล้วจะต้องสมัครใช้งานระบบ e-Service ของสำนักงานประกันสังคม และนำส่งข้อมูลเงินสมทบผ่านระบบ e-Service ของสำนักงานประกันสังคมภายในวันที่ 15 ของเดือน เพื่อมีสิทธิรับเงินอุดหนุนในเดือนดังกล่าว 

ทั้งนี้ นายจ้าง สถานประกอบการสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร. 1506 กด 2 หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร. 1694 หรือติดต่อด้วยตนเองได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 – 10