พายุพัดถล่มพื้นที่สทิงพระ สงขลา บ้านเรือนพังกว่า 10 หลัง

พายุพัดถล่มพื้นที่สทิงพระ สงขลา บ้านเรือนพังกว่า 10 หลัง

เกิดเหตุพายุพัดถล่มในพื้นที่ ต.วัดจันทร์ อ.สทิงพระ จ.สงขลา ฟาร์มเลี้ยงโคขุนพังลงมาทั้งหลัง บ้านเรือนชาวบ้านหลังคาปลิวมากกว่า 10 หลัง เร่งสำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือชาวบ้าน

เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุพายุพัดกระหน่ำในพื้นที่หมู่1 บ้านหัวยาง ต.วัดจันทร์ อ.สทิงพระ จ.สงขลา ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อช่วงตี5 ใกล้รุ่งของวันนี้ทำให้มีบ้านเรือนและโรงเรือนเสียหายหลายหลัง

ที่หนักสุดคือที่ฟาร์มเลี้ยงโคขุน ของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มโคแสงจันทร์ โคทองฟาร์ม โรงเรือนฟาร์มเลี้ยงโคขุนซึ่งเป็นโครงสร้างเหล็กได้พังถล่มลงมาทั้งหลัง ซึ่งมีโคขุนอยู่ในฟาร์ม 30 ตัว แม่วัวอีก 80 ตัว แต่โชคดีที่วัวไม่ได้เป็นอะไร เสียหายเฉพาะโครงสร้างฟาร์มและหลังคาที่พังถล่มลงมาและเครื่องไม้เครื่องมือในฟาร์มเท่านั้น

นอกจากนี้ยังมีบ้านเรือนของชาวบ้านในพื้นที่บ้านหัวยาง ถูกลมพัดหลังคาเปิดอีกประมาณ10 หลังหรืออาจจะมากกว่านั้นเพราะยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ บางหลังพายุหลังคาหายไปทั้งหลัง บางหลังกระเบื้องปลิว แต่ยังไม่มีรายงานของผู้บาดเจ็บ

นายจงรัตน์ ทองสุวรรณ ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มโคแสงจันทร์ โคทองฟาร์ม เล่าถึงนาทีพายุเข้าว่าเกิดขึ้นตอน5ช่วงใกล้รุ่งวันนี้ตอนนั้นกำลังนั่งกินกาแฟอยู่ และสภาพอากาศเงียบผิดปกติไม่มีลม แต่สักพักได้เกิดพายุพัดกระหน่ำเข้ามาทันทีกินเวลาประมาณ5 นาที และเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวฟาร์มเลี้ยงโคขุนก็พังลงมาทั้งหลังค่าเสียหายประมาณ 1 ล้านบาท

ด้าน นายณัฏฐ์กิจ ทองเมือง ว่าที่นายก อบต.วัดจันทร์ เปิดเผยว่า ภาพรวมของพื้นที่ ต.วัดจันทร์ ที่ถูกพายุพัดถล่มในครั้งนี้ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่บ้านหัวยาง หมู่1 เป็นส่วนใหญ่ มีบ้านเสียหายหนักกว่า 10 หลัง รวมทั่งกลุ่มโคแสงจันทร์ที่เสียหายหนักที่สุด ซึ่งมูลค่าความเสียหายรวมทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 3 ล้านบาท ตอนนี้กำลังประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อลงพื้นที่สำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนโดยด่วนแล้ว

สำหรับสภาพอากาศในพื้นที่จ.สงขลา ขณะนี้มีฝนตกสะสมต่อเนื่องมาสองวันแล้วโดยเฉพาะวันนี้อากาศปิดฝนตกต่อเนื่องมาตั้งแต่เมื่อคืน

ด้านศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออกได้ออกประกาศเตือน ช่วงวันที่ 17-18 ธันวาคมนี้ ภาคใต้ฝั่งตะวันออกตอนล่างมีฝนหนักหลายพื้นที่โดยเฉพาะ จังหวัดสงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาสนครศรีธรรมราช และพัทลุงให้ระน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง

สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังค่อนข้างแรง โดยทะเลมีคลื่นสูงประมาณ2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองทะเลมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังขอให้ประชาชนติดตามข่าวพยากรณ์อากาศจากศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก