แห่ชมแสงแรกปี 2565 บนจุดชมวิวสุดอเมซิ่ง เสม็ดนางชี พังงา

แห่ชมแสงแรกปี 2565 บนจุดชมวิวสุดอเมซิ่ง เสม็ดนางชี พังงา

นักท่องเที่ยวแห่ชมแสงแรกของปี 2565 บนจุดชมวิวสุดอเมซิ่ง แบบพาโนรามา 180 องศา เสม็ดนางชี พังงา

เมื่อวันที่ 1 ม.ค. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จุดชมวิวเสม็ดนางชีบูทีค รีสอร์ต บ้านหินร่ม ม.2 ต.คลองเคียน อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา มีกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติที่ชื่นชอบและหลงใหลในธรรมชาติ ได้เดินทางขึ้นมาพักค้างคืนเพื่อรอสัมผัสกับแสงแรกของวันขึ้นปีใหม่ จนห้องพักเต็มทุกหลัง โดยจุดชมวิวเสม็ดนางชีเป็นจุดชมวิวที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องตลอด 5 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีวิวที่สุดอเมซิ่งของอ่าวพังงาแบบพาโนรามา 180 องศา มีป่าเกาะเป็นเขาหินปูนหลากหลายรูปแบบ เรียงรายกันอยู่อย่างสวยงามจนสุดลูกหูลูกตา และผู้ประกอบการได้สร้างห้องพักเก๋ๆสไตล์บูทีค พร้อมกับรังสรรค์เมนูซีฟู๊ดที่สุดแสนอร่อยและสด โดยใช้วัตถุดิบจากชาวประมงพื้นบ้านในพื้นที่ ปัจจุบันได้กลายเป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญที่ต้องห้ามพลาดของจังหวัดพังงา ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ซึ่งทางผู้ประกอบการมีมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัด

สำหรับคำว่า “เสม็ดนางชี” นั้น ชาวบ้านเรียกบ้าน “เหม็ดนางชี”อยู่ระหว่างบ้านหินร่มและบ้านคลองท่อมในตำบลคลองเคียน อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา ที่มาของชื่อนั้นมาจากเรื่องเล่าปรัมปรา ว่าในอดีตหมู่บ้านแห่งนี้ มีพระภิกษุชรา 1 รูป อาศัยอยู่ที่ เขาพระอาดเฒ่า พระภิกษุหนุ่ม1รูป อาศัยอยู่ที่เขาพระอาดหนุ่ม และมีแม่ชีอาศัยอยู่ที่ใกล้จุดชมวิว และจะเดินไปมาหาสู่กัน แล้วต้องเดินผ่านลำคลอง เมื่อแม่ชีเดินผ่านจะต้องเหม็ดผ้าขึ้น (พับผ้าขึ้น, ถลกชายผ้า) ให้พ้นจากระดับน้ำ ไม่เช่นนั้นชายผ้าก็จะเปียกหมด เลยเป็นที่มาของคำว่า เหม็ดนางชี และเพี้ยนมาเป็น เสม็ดนางชี ในปัจจุบัน ส่วนเขาพระอาดนั้นมาจากพระภิกษุที่เห็นแม่ชีถลกผ้าข้ามคลองแล้วมีอาการกำหนัด ซึ่งภาษาถิ่น จะเรียกว่า “อาด” จึงเป็นที่มาของเขาพระอาดด้วยเช่นกัน