"ช้อปดีมีคืน 2565" คุ้มมั้ย เหมาะกับใคร และจะได้เงินคืนเท่าไหร่บ้าง
"ช้อปดีมีคืน 2565" มาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ โดยให้สิทธิ "ลดภาษี" ได้สูงสุด 30,000 บาท หาคำตอบคุ้มมั้ย เหมาะกับใคร และจะได้เงินคืนเท่าไหร่บ้าง
"ช้อปดีมีคืน 2565" มาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ สำหรับการสินค้าหรือบริการในประเทศไทยโดยให้สิทธิ "ลดภาษี" ได้สูงสุด 30,000 บาท ซึ่งหลายคนสงสัยว่าตกลงแล้วคุ้มมั้ย และเราจะได้เงินคืนเท่าไหร่บ้างนั้น วันนี้ทีมข่าวกรุงเทพธุรกิจออนไลน์จะพาไปหาคำตอบเรื่องนี้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "คนละครึ่งเฟส 4" VS "ช้อปดีมีคืน 2565" เลือกอันไหนดี ?
- เปิดเงื่อนไข "ช้อปดีมีคืน" ซื้อสินค้า บริการแบบไหนลดภาษีได้ อะไรไม่ได้บ้าง
- ค้าปลีกอัดฉีดแคมเปญ"ช้อปดีมีคืน"กระตุ้นใช้จ่ายไตรมาสแรก
สำหรับโครงการ "ช้อปดีมีคืน 2565" จะสามารถใช้ได้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2565 ถึงวันที่ 15 ก.พ.2565 ผู้ที่จะเข้าร่วมโครงการ "ช้อปดีมีคืน" ไม่ต้องลงทะเบียนอะไร เพียงแค่ซื้อสินค้าหรือบริการตามเงื่อนไขที่กำหนด แล้วขอใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปจากร้านค้า ก็สามารถใช้ประกอบการยื่นแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 2565 เพื่อหักลดหย่อนภาษีได้เหมือนกับค่าลดหย่อนอื่นๆทั่วไป
คุณสมบัติผู้ที่สามารถร่วมโครงการ "ช้อปดีมีคืน 2565"
- อายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน
- ประชาชนสามารถเลือกลงทะเบียนได้ 1 โครงการเท่านั้น
- ไม่เป็นผู้ได้รับสิทธิโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
- ไม่เป็นผู้ได้รับสิทธิโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ (ผ่านบัตรประชาชน)
สินค้าและบริการที่เข้าร่วมเงื่อนไข "ช้อปดีมีคืน 2565"
สินค้าและบริการที่เข้าร่วมเงื่อนไข ก็จะมีตั้งแต่ ซื้อสินค้าหรือการรับบริการในราชอาณาจักรให้กับผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม รวมถึงค่าซื้อหนังสือ และค่าบริการหนังสือที่อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตและค่าสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ซึ่งเป็นสินค้าที่ได้ลงทะเบียนกับกรมการพัฒนาชุมชนแล้ว
สินค้าที่ไม่เข้าเงื่อนไข
ค่าสุรา เบียร์ ไวน์ ยาสูบ น้ำมันและก๊าซสำหรับเติมยานพาหนะ , ค่ารถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเรือ , ค่าหนังสือพิมพ์และนิตยสารและค่าบริการ หนังสือพิมพ์ และนิตยสารที่อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต , ค่าบริการจัดนำเที่ยวที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ , ค่าที่พักในโรงแรมที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม , ค่าสาธารณูปโภค ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า , ค่าเบี้ยประกันวินาศภัย บริการสัญญาณโทรศัพท์ และบริการสัญญาณอินเทอร์เน็ต
ช้อปดีมีคืน 2565 ได้เงินคืนเท่าไหร่บ้าง : การลดหย่อนภาษีเท่าไหร่นั้น ขึ้นอยู่กับฐานภาษีของแต่ละคน โดยคำนวณจากเงินได้สุทธิที่เหลืออยู่ ซึ่งแต่ละขั้นจะสามารถลดหย่อนได้ดังต่อไปนี้
- 0-150,000 บาท ได้รับการยกเว้นภาษี ไม่ได้สิทธิ์คืนภาษีจากโครงการ "ช้อปดีมีคืน"
- 150,001-300,000 บาท อัตราภาษี 5% ช้อปเต็มจำนวน 30,000 บาท มีสิทธิ์คืนภาษีสูงสุด 1,500 บาท
- 300,001-500,000 บาท อัตราภาษี 10% ช้อปเต็มจำนวน 30,000 บาท มีสิทธิ์ได้คืนภาษีสูงสุด 3,000 บาท
- 500,001-750,000 บาท อัตราภาษี 15% ช้อปเต็มจำนวน 30,000 บาท มีสิทธิ์ได้คืนภาษีสูงสุด 4,500 บาท
- 750,001-1,000,000 บาท อัตราภาษี 20% ช้อปเต็มจำนวน 30,000 บาท มีสิทธิ์ได้คืนภาษีสูงสุด 6,000 บาท
- 1,000,001-2,000,000 บาท อัตราภาษี 25% ช้อปเต็มจำนวน 30,000 บาท มีสิทธิ์ได้คืนภาษีสูงสุด 7,500 บาท
- 2,000,001-5,000,000 บาท อัตราภาษี 30% ช้อปเต็มจำนวน 30,000 บาท มีสิทธิ์ได้คืนภาษีสูงสุด 9,000 บาท
- 5,000,001 บาทขึ้นไป อัตราภาษี 35% ช้อปเต็มจำนวน 30,000 บาท มีสิทธิ์ได้คืนภาษีสูงสุด 10,500 บาท
ช้อปดีมีคืน 2565 คุ้มมั้ย?
โครงการ ช้อปดีมีคืน ซึ่งคอนเซ็ปต์ของโครงการ คือ การให้สิทธิลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เพราะฉะนั้นจึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีเงินได้สุทธิสูงและต้องเสียภาษีในอัตราสูง เพราะสามารถลดหย่อนภาษีในอัตราที่มากกว่า ทำให้ประหยัดภาษีได้มากขึ้น ดังนั้น คนที่ใช้จ่ายสูงอยู่แล้ว จึงเหมาะกับมาตรการนี้ และความคุ้มค่านั้นจึงขึ้นอยู่กับคุณสมบัติและการใช้จ่ายของแต่ละคน