"เมย์แบงก์" คัด 5 หุ้นเด่นกำไรโต-ปันผลสูง ทยอยสะสมลงทุนไตรมาส 1/65
"บล.เมย์แบงก์ฯ" ส่องแนวโน้มการลงทุนโค้งแรกปี 65 คาดตลาดแกว่งขึ้นในกรอบ 1,600-1,700 จุด แรงหนุนเศรษฐกิจ-ฉัดวัคซีน พร้อมคัด 5 หุ้นเด่น แนวโน้มกกำไรขยายตัว-ปันผลสูง แนะทยอยสะสม
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) เปิดเผยแนวโน้มการลงทุนไตรมาส 1 ปี 2565 ว่า คาดตลาดแกว่งขึ้น โดยประเมินกรอบแกว่ง 1,600-1,700 จุด แรงขับเคลื่อนจากฟันเฟืองทางเศรษฐกิจกลับมาเดินหน้า
ทั้งภาคการบริโภคในประเทศที่ได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐฯ และการส่งออกที่เติบโตดีต่อเนื่องจากเศรษฐกิจคู่ค้าที่ขยายตัว การฉีดวัคซีนที่ทั่วถึงขึ้น หนุนความเชื่อมั่นต่อการลงทุนปรับตัวสูงขึ้น
ในขณะที่การท่องเที่ยวจะค่อยๆ ฟื้นตัว และมีความเสี่ยงขาขึ้น (Upside Risk) หากนักท่องเที่ยวจีนมาเที่ยวไทยมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ดุลบัญชีเดินสะพัดกลับมาเกินดุล กระตุ้นบาทแข็ง เอื้อต่อกระแสเงินทุนไหลเข้า
ส่วนปัจจัยเสี่ยงแนะระวังแรงขายกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ครบกำหนด ทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น สภาพคล่องที่ลดลง รวมถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน
"ปี 2565 เราประเมินกำไรต่อหุ้น (EPS) ของ SET ที่ 94.20 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 13% จากปีก่อน อิงอัตราส่วนราคาต่อกำไร (PE Ratio) ที่ 18.60 เท่า เทียบเคียงกับระดับค่าเฉลี่ย PE ย้อนหลัง 5 ปีของ SET +0.5 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation: SD) จะได้เป้าหมายดัชนีสิ้นปี 2565 ที่ระดับ 1,750 จุด"
โดยกลยุทธ์การลงทุน แนะทยอยสะสมหุ้นที่แนวโน้มกำไรขยายตัวดี ขานรับเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศที่ฟื้นตัวขึ้น ท่ามกลางวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น ผสานหุ้นปันผลสูงที่เป็นเป้าหมายนักลงทุนสถาบันช่วงต้นปี ได้แก่
บมจ.เอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง (ASK) บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) บมจ.สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง (SPRC) และ บมจ.ไวส์ โลจิสติกส์ (WICE) เป็นหุ้นเด่น (Top Pick) ไตรมาส 1 ปี 2565