กรมควบคุมโรค ย้ำใครฉีดเข็ม 2 ก่อน 1 พ.ย.รีบไป "ฉีดวัคซีนเข็ม 3" ต้านโอมิครอน

กรมควบคุมโรค เน้นย้ำความสำคัญสร้างภูมิคุ้มกันชวนให้ประชาชนที่ "ฉีดวัคซีนโควิด" เข็ม 2 ก่อนวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 รีบไปรับบูสเตอร์โดส "ฉีดวัคซีนเข็ม 3" เพื่อรองรับการระบาดของโรคโควิด-19 สายพันธุ์ "โอมิครอน"

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

- "ลงทะเบียนฉีดวัคซีนเข็ม 3" ฟรี 15,000 คนจนกว่าจะเต็มจำนวน อยู่ไหนก็ฉีดได้

- Walk in "ฉีดวัคซีนเข็ม 3" เข็ม 1 แอสตร้า-ไฟเซอร์รวม 7,000 คน เริ่มวันนี้เช็คเลย

- "ลงทะเบียนฉีดวัคซีนเข็ม 3" แอสตร้า ไฟเซอร์ รพ.รามาธิบดี จนกว่าจะครบจำนวน

- เช็คเลย รพ.ราชวิถี ขยายเวลา Walk in ฉีดวัคซีนไฟเซอร์เข็ม 1 2 3 รวมกว่า 23 วัน

- อัพเดท 18 จุด Walk in "ฉีดวัคซีนเข็ม 3" เข็ม 1 2 ไฟเซอร์-แอสตร้า จ.ชลบุรี เช็คเลย

- รับ "ปีเสือ 2565" ลงทะเบียนฉีดวัคซีนเข็ม 3 แอสตร้า-ไฟเซอร์ สถาบันบำราศนราดูร

โดย นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์โควิด-19 ว่า สถานการณ์ทั่วโลกได้รับรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่เกิน 1 ล้านคนสายพันธุ์ที่ระบาดใหญ่ คือ เดลตา (Delta) และ โอมิครอน (Omicron) ซึ่งประเทศไทยได้ระงับการตรวจหาเชื้อแบบ Test&Go จึงช่วยชะลอผู้ติดเชื้อเดินทางเข้ามาในประเทศไทย สอดคล้องกับแนวโน้มของโรคที่ลดน้อยลงเพราะการฉีดวัคซีนให้กับคนในประเทศ 

ชวนให้ประชาชนที่ "ฉีดวัคซีนโควิด" เข็ม 2 ก่อนวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 รีบไป "ฉีดวัคซีนเข็ม 3"

การรับมือโควิด-19 เข้าปีที่ 3 สิ่งที่คาดหวังในปีนี้คือการปรับระบบให้กลายเป็นโรคประจำถิ่นโดยมีปัจจัยหลัก 3 อย่างคือ 

1.เชื้ออ่อนลง ไม่ทำให้คนที่ติดเชื้อถึงขั้นเสียชีวิต แต่แพร่กระจายได้มากขึ้น ซึ่งตรงกับสายพันธุ์โอมิครอน  

2.ประชากรมีภูมิคุ้มกันมากขึ้น เกิดได้จากการฉีดวัคซีน ซึ่งปีนี้จะเป็นการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเข็ม 3 หรือเข็ม 4 

3.การจัดการสิ่งแวดล้อม ลดความเสี่ยง การรักษาดีขึ้น ทำให้ระบบสาธารณสุขรองรับได้และมียามากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ขอเน้นย้ำผู้ที่ฉีดวัคซีนเข็ม 2 ก่อนวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ให้ไปรับการฉีดวัคซีนบูสเตอร์หรือเข็ม 3 ได้ที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน ส่วนบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ด่านหน้า ประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่ฉีดเข็ม 3 แล้วเกิน 3 เดือนให้เข้ารับเข็ม 4 ได้เพื่อรองรับการระบาดของสายพันธุ์โอมิครอนต่อไป

ทั้งนี้ จากเทศกาลวันหยุดยาวที่มีการเฉลิมฉลองทั้งคริสต์มาสและปีใหม่ ทำให้เมืองท่องเที่ยวมีรายงานผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น โดยข้อมูล ณ วันที่ 4 ม.ค. 65 จังหวัด

• ชลบุรีมีผู้ติดเชื้อ 499 ราย  
• อุบลราชธานี 328 ราย  
• ภูเก็ต 149 ราย  
• สมุทรปราการ 120 ราย
• เชียงใหม่ 117 ราย  

สาเหตุสำคัญเกิดจากการรวมตัวกันทำกิจกรรม โดยไม่สวมหน้ากากอนามัย อยู่ในห้องที่ปิดอับ ไม่มีการระบายอากาศที่ดี เช่น ร้านอาหารกึ่งผับบาร์ จึงมีการเน้นย้ำให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดทุกจังหวัดเข้มงวดสถานที่ที่มีความเสี่ยง หากไม่ปฏิบัติตามที่กำหนดให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างจริงจัง