อัพเดท "โควิดวันนี้" 10 จังหวัดติดเชื้อสูงสุด ชลบุรีที่ 1 กทม. 669 จับตาอุบล ปากน้ำ ภูเก็ต

อัพเดทต่อเนื่อง เกาะติดสถานการณ์ โควิดวันนี้ 8 ม.ค. 65 เกาะติดความคืบหน้า 10 จังหวัดติดเชื้อสูงสุด จากศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ตรวจสอบ อัพเดท 10 จังหวัด อันดับพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สูงสุด 

จํานวนผู้ติดเชื้อโควิดในประเทศรายใหม่ วันที่ 8 มกราคม 2565 ตรวจสอบ 10 จังหวัดอันดับ

1 ชลบุรี

2 กรุงเทพ หรือ กทม.

3 อุบลราชธานี

4 สมุทรปราการ

5 ภูเก็ต

6 นนทบุรี

7 ขอนแก่น

8 เชียงใหม่

9 บุรีรัมย์

10 นครศรีธรรมราช
 

 

08/01/2565  ชลบุรี ยอดติดเชื้อโควิดสูงสุดอันดับที่ 1 ส่วนกรุงเทพ หรือ กทม. อันดับ 2 ตามด้วย อุบลราชธานี ปากน้ำสมุทรปราการ ภูเก็ต นนทบุรี ขอนแก่น เชียงใหม่ บุรีรัมย์ และนครศรีธรรมราช

 

จำนวนการได้รับวัคซีนสะสม (28 ก.พ. - 7 ม.ค. 2565)

รวม 105,953,235 โดส ใน 77 จังหวัด

ภาพรวมยอดฉีดวัคซีน วันที่ 7 มกราคม 2565

ยอดฉีดทั่วประเทศ 533,948 โดส

เข็มที่ 1 : 53,519 ราย

เข็มที่ 2 : 177,995 ราย

เข็มที่ 3 : 302,434 ราย

----------------------------

จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม : 51,463,230 ราย

จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม : 46,704,515 ราย

จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 3 สะสม : 7,785,490 ราย

แหล่งข้อมูล : MOPH-IC

 

วันเสาร์ที่ 8 มกราคม 2565 เวลา 11.30 น.

สถานการณ์การติดเชื้อ COVID-19 ในประเทศ

ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2564

ผู้ป่วยรายใหม่ 8,263 ราย

ผู้ป่วยยืนยันสะสม 2,232,176 ราย

หายป่วยแล้ว 2,163,836 ราย

เสียชีวิตสะสม 21,719 ราย

----------------------------

ข้อมูลสะสมตั้งแต่ปี 2563

ผู้ป่วยยืนยันสะสม 2,261,039 ราย

หายป่วยแล้ว 2,191,262 ราย

เสียชีวิตสะสม 21,813 ราย

ระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ - 7 มกราคม 2565

มีผู้รับวัคซีน สะสมทั้งหมด จำนวน 105,953,235 โดส

----------------------------

วันที่ 7 มกราคม 2565 มีผู้รับการฉีดวัคซีน

เข็มที่ 1 จำนวน 53,519 ราย

เข็มที่ 2 จำนวน 177,995 ราย

เข็มที่ 3 จำนวน 302,434 ราย

ข้อมูลจาก ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด19 , ศูนย์ข้อมูลCOVID19

สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทั่วโลก

วันเสาร์ที่ 8 มกราคม 2565 เวลา 10.00 น.

ยอดผู้ติดเชื้อรวม 303,790,828 ราย

อาการรุนแรง 93,193 ราย

รักษาหายแล้ว 258,240,660 ราย

เสียชีวิต 5,497,061 ราย

อันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด

1. สหรัฐอเมริกา จำนวน 60,464,426 ราย

2. อินเดีย จำนวน 35,367,760 ราย

3. บราซิล จำนวน 22,450,222 ราย

4. สหราชอาณาจักร จำนวน 14,193,228 ราย

5. ฝรั่งเศส จำนวน 11,511,452 ราย

ประเทศไทย อยู่ในอันดับที่ 25 จำนวน 2,261,039 ราย

ที่มา ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด19 , ศูนย์ข้อมูลCOVID19

ศบค. มีมติขยายเวลา Work From Home ออกไปอีก 14 วัน สิ้นสุด 31 ม.ค. 65 ทั้งนี้ ต้องไม่กระทบต่อบริการประชาชน และการดำเนินงานขององค์กร

ที่มา : ศบค. , ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด19 , ศูนย์ข้อมูลCOVID19

กทม. เตรียมฉีดวัคซีน Pfizer เด็กอายุ 5-11 ปี ให้นักเรียนในสังกัด

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) สายพันธุ์ Omicron ในประเทศไทย ซึ่งขณะนี้พบว่าผู้ติดเชื้อมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้น ดังนั้น เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และความปลอดภัยของนักเรียน ข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา สำนักการศึกษา กทม. จึงปรับรูปแบบการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาในสังกัด จำนวน 109 โรงเรียน จากรูปแบบ ON-SITE เป็นรูปแบบการเรียนการสอนแบบ ONLINE ตั้งแต่วันที่ 7-16 ม.ค.65 หรือจนกว่าสถานการณ์มีแนวโน้มดีขึ้น โดยกำหนดแผนและแนวทางการจัดการเรียนการสอนให้เหมาะสมตามบริบทของแต่ละโรงเรียน รวมถึงประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่และคำนึงถึงความปลอดภัยของนักเรียน ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษากรุงเทพมหานครเป็นสำคัญ

นอกจากนี้ได้เตรียมความพร้อมในการฉีดวัคซีนPfizer ให้แก่นักเรียนในระดับชั้นประถมศึกษา กลุ่มเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไปที่ยังไม่ได้รับวัคซีน จำนวน 16,391 คน ในเดือนม.ค.65 และกลุ่มเด็กอายุ 5-11 ปี ในเดือนก.พ.65 โดยให้สำนักอนามัยดำเนินการตามแนวทางที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้อนุมัติขยายขอบเขตข้อบ่งใช้ของวัคซีน สำหรับกลุ่มเด็กอายุ 5-11 ปี จากเดิมที่ให้มีการฉีดได้ในกลุ่มเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไปเท่านั้น โดยการฉีดวัคซีน Pfizerแก่เด็กอายุ 5-11 ปี ฉีดเข้าทางกล้ามเนื้อและลดปริมาณวัคซีนลงเหลือ 10 ไมโครกรัม หรือคิดเป็น 1 ใน 3 ของจำนวนที่ฉีดในกลุ่มเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป โดยเว้นระยะห่าง 21 วัน จากเข็มที่ 1 เพื่อฉีดเข็มที่ 2 ซึ่งการฉีดวัคซีนให้กับเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี จะต้องเป็นไปตามความสมัครใจของเด็กและผู้ปกครองต้องให้การยินยอม

ที่มา : กรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์