ผู้ลี้ภัยสงครามทนหนาวไม่ไหว-เริ่มมีอาการป่วย

เมื่อวันที่ 12 ม.ค. 65 ชาวเมียนมาที่บ้านผาลู จังหวัดเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ประมาณ 500 คนได้ลี้ภัยมาอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเมย ด้านประเทศเมียนมา ซึ่งติดกับชายแดนไทย-เมียนมา โดยมีการนำรถยนต์ ทรัพย์สิน ต่างๆออกมาเพื่อเตรียมความพร้อมที่จะเข้ามาเขตไทย ที่บ้านแม่โกนเกน ต.มหาวัน ขณะที่ทางฝั่งเมียนมายังคงมีการสู้รบระหว่างทหารเมียนมากับทหารสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง บริเวณบ้านผาลูน้อย ตรงข้ามบ้านมหาวัน ต.มหาวัน อ.แม่สอด

การสู้รบที่เกิดขึ้นทั้ง2 ฝ่ายได้ใช้อาวุธปืนค.และอาวุธประจำกายยิงใส่กัน โดยทหารเมียนมาพยายามที่จะยึดพื้นที่กะเหรี่ยงให้ได้ทั้งหมด แต่ในช่วง 2 วันที่ผ่านมาทหารเมียนมาไม่ได้โจมตีทางอากาศ เพียงแต่ใช้ทหารราบ และอาวุธหนักยิงใส่ฝ่ายกะเหรี่ยงเท่านั้น

สำหรับผู้ลี้ภัยที่อยู่ในความควบคุมของทางการไทย มีจำนวน กว่า 1,900 คน ที่บริเวณเมยโค้ง บ้านมหาวัน ต.มหาวัน อ.แม่สอด จ.ตาก ซึ่งบางกลุ่มเริ่มทนกับสภาพอากาศหนาวไม่ไหว และมีอาการป่วยหลายคน แม้ว่าจะมีคนไทยใจบุญเอาอาหารไปส่งก็ตาม แต่มากด้วยขั้นตอนการเข้มงวดของฝ่ายทหาร ที่เข้มงวดเกินไป รวมทั้งสื่อถูกกีดกันไม่ให้เข้าไปในพื้นที่ ที่มีผู้ลี้ภัยอยู่ และพื้นที่ชายแดนยังเป็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในการละเมิดสิทธิสื่อมวลชน