เปิดรายงานสูตร "ฉีดวัคซีนเข็ม 3" สูตรไหนได้ประสิทธิภาพสูงสุดสกัดโอมิครอน
รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ (หมอธีระ) เปิดรายงานจาก UK HSA ออกรายงาน Technical briefing ฉบับที่ 34 ลงวันที่ 14 มกราคม 2565 เกี่ยวกับสูตร "ฉีดวัคซีนเข็ม 3" ฉีดสูตรไหนได้ประสิทธิภาพสูงสกัดโอมิครอน
รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ (หมอธีระ) คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เผยรายงานสูตร "ฉีดวัคซีนโควิด-19" ที่มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันการติดเชื้อ เป็นรายงานจาก UK HSA ออกรายงาน Technical briefing ฉบับที่ 34 ลงวันที่ 14 มกราคม 2565
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน" บูสเตอร์ป้องกันโอมิครอน ลดเข้าโรงพยาบาลได้ 85%
- ส่องประสิทธิภาพ "ATK" ยี่ห้อไหนตรวจ "โอมิครอน" ได้ ติดแล้วทำอย่างไร
- เจาะ 6 สูตรฉีดกระตุ้นแอสตร้า "ไฟเซอร์เข็ม 3" ต้านเดลตา-โอมิครอนได้แค่ไหน
UK HSA ออกรายงาน Technical briefing ฉบับที่ 34 เมื่อวานนี้ 14 January 2022 มีสาระสำคัญหลายเรื่อง ประกอบด้วย
1. อาการของคนติดเชื้อ "โอมิครอน" (Omicron) ผู้ติดเชื้อโอมิครอนจะมีอาการที่แตกต่างจากสายพันธุ์เดลตา อาการที่มักได้รับการรายงานจากคนที่เป็นโอมิครอนมากกว่าคือ เจ็บคอ ไข้ ไอ ท้องเสีย และปวดกล้ามเนื้อปวดข้อ
2. การฉีดเข็มกระตุ้นด้วยวัคซีน mRNA อย่าง Pfizer และ Moderna นั้นมีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันการติดเชื้อแบบมีอาการจาก"โอมิครอน" (Omicron) ยิ่งหาก 2 เข็มแรกได้รับเป็น mRNA vaccines ประสิทธิภาพหลังได้รับเข็มกระตุ้นจะสูงกว่าการได้รับ 2 เข็มแรกเป็น AZ ทั้งนี้การฉีดเข็มกระตุ้นด้วย Moderna ดูจะได้ประสิทธิภาพดีกว่า หากสองเข็มแรกได้ AZ หรือ Pfizer
มองสถานการณ์
หลายประเทศเริ่มเห็นปัญหาการขาดแคลนบุคลากรในการทำงาน เนื่องจากติดเชื้อกันมาก จนบางประเทศออกนโยบายลดวันกักตัวเพื่อให้ระบบทำงานต่อไปได้ แลกกับความเสี่ยงในการติดเชื้อแพร่เชื้อเพิ่มขึ้น โดยมองว่าปัจจุบันติดกันมากเกินกว่าจะห้ามได้ หรือยังไงก็ไม่ร้ายไปกว่าที่เป็น และอัตราป่วยรุนแรงและอัตราตายต่ำกว่าเดลตา
2 เรื่องสำคัญที่จะกลายเป็นบิลตามมาเรียกเก็บภายหลังจากการประกาศนโยบายลักษณะข้างต้น คือ
1.ประชาชนกลุ่มเปราะบาง เช่น เด็กและเยาวชน รวมถึงกลุ่มที่ยังไม่ได้รับวัคซีน รับไม่ครบ และยังไม่ได้เข็มกระตุ้น ก็จะเป็นกลุ่มที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อมากขึ้น ป่วยได้ ตายได้
2.ทุกช่วงวัย และทุกกลุ่ม ที่ติดเชื้อ จะเสี่ยงต่อการมีอาการคงค้างระยะยาว หรือ Long COVID ได้ และจะส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตประจำวันทั้งในบ้าน ที่ทำงาน และอื่นๆ ผลกระทบข้อนี้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า Omicron จะมีภาวะ Long COVID มากกว่า เท่ากับ หรือน้อยกว่าสายพันธุ์อื่นๆ ที่ผ่านมา ซึ่งเคยพบได้ถึง 20-40% เรื่องนี้ก็จะย้อนกลับมาเป็น costs ที่เกิดขึ้นต่อตัวคนติดเชื้อ ครอบครัว และสังคม ทั้งในเรื่องการสูญเสียสมรรถนะทางร่างกาย จิตใจ และค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่่จะเกิดขึ้น
เรื่องนโยบายจึงเป็นเรื่องสำคัญ ที่ต้องคิดให้รอบคอบ ทั้งในเรื่องทิศทางและเงื่อนเวลาในการตัดสินใจทำ เพราะผลกระทบที่จะเกิดขึ้น เปรียบเหมือนตีตั๋วขึ้นรถไฟ ที่มีขาไป แต่ไม่มีขากลับ
CR เฟซบุ๊ก : หมอธีระ