รายแรกของไทย! 'กานเวลา' ช็อคโกแลตสายพันธุ์ไทย ผงาดบนแคตตาล็อกญี่ปุ่น

นายธนา คุณารักษ์วงศ์ ผู้ก่อตั้งบริษัท กานเวลา ช๊อคโกแลต จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจคราฟต์ช็อคโกแลต เปิดเผยว่า หลังจากที่เปิดธุรกิจภายใต้ชื่อกานเวลา Kan Vela Craft Chocolate ในจังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่เดือนพฤศจิายน 2563 ในรูปแบบของ สวนปลูกโกโก้ครบวงจร, โรงงานผลิตช็อคโกแลต และคาเฟ่ที่เสริฟ์เมนูช็อคโกแลตบาร์ ,บงบง และเครื่องดื่มจากโก้โก

ปรากฎว่ามีผลตอบรับจากกลุ่มลูกค้าที่นิยมรับประทานช็อคโกแลต และเครื่องดื่มจากโก้โกอยู่ในระดับที่ดี และยังกลายเป็นสินค้าของฝากจากจังหวัดเชียงใหม่ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว ทำให้ธุรกิจเติบโตเกินความคาดหมายกว่า 300 เปอร์เซ็นต์

แม้ว่าธุรกิจจะเปิดบริการในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 แต่ด้วยพื้นฐานที่มีการจำหน่ายออนไลน์มาก่อนแล้ว ทำให้การขายช็อคโกแลตที่มีเอกลักษณ์เป็นของตนเองนั้น

ทั้งรูปแบบ และรสชาติหลากหลายมีความเป็นช็อคโกแลตสัญชาติไทย โดยปี 2563 ได้รับรางวัลเหรียญทองแดง 2 รางวัล จากเวทีอินเตอร์เนชั่นแนลช็อคโกแลตอวอร์ด 2020 และในปี 2564 ได้รับรางวัลเหรียญเงิน 4 รางวัล และเหรียญทองแดง 4 รางวัลจากเวทีอะคาเดมี่ออฟช็อคโกแลต มารันตีคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ทำให้สามารถที่จะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ยังได้ขยายกิจการจากเดิมที่มีเพียง 1 สาขา เพิ่มเป็น 2 สาขาในจังหวัดเชียงใหม่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• 'กานเวลา'ช็อคโกแลตสายพันธุ์ไทย
• ”ช็อกโกแลต” 3 แบรนด์ไทย อร่อยแค่ไหน ต้องชิม...
• ‘แต่งกลิ่น’ เรื่องบิ๊กดราม่าของตลาด ‘กาแฟพิเศษ’
• 10ข้อกินให้ถูกหลักโภชนาการช่วง'โควิด19'

นอกจากนี้ ทางบริษัทยังได้รับการคัดเลือกจาก บริษัท Felissimo ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหาร ขนม และสินค้าอุปโภคบนแพลตฟอร์มออนไลน์รายใหญ่ของญี่ปุ่น นำช็อคโกแลต บงบง 4 รสชาติของกานเวลา Kan Vela Craft Chocolate ไปจำหน่ายเป็น คอลเลคชั่นพิเศษ ซึ่งจะขายทุกปี ปีละครั้ง

โดยปีนี้ชื่อว่า “Happiness Chocolate 2022" ซึ่งได้ว่าบริษัทเป็นแบรนด์ผู้ผลิตช็อกโกแลตจากประเทศไทยรายแรก และเป็น 1 ใน 4 ผู้ผลิตช็อกโกแลตจากเอเชีย ที่ได้ไปจำหน่ายใน Collection “Happiness Chocolate 2022” บนแพลตฟอร์มของยักษ์ใหญ่ค้าปลีก 1 ใน 5 ของประเทศญี่ปุ่น

“ทางFelissimo จากประเทศญี่ปุ่นเลือกบงบงไปร่วมคอลเลคชั่นพิเศษ 4 รสชาติ ประกอบด้วย รสฝรั่งพริกเกลือ, สังขยาใบเตยมะพร้าวคั่ว, salt caramel และ hazelnut cAramel ล็อตแรก จำนวน 305 กล่อง ซึ่งถือได้ว่าใน 1 กล่องนั้น จะมีช็อคโกแลตรสชาติที่แสดง ความเป็นไทย และสากลร่วมอยู่ด้วยกัน

ทราบว่าทางญี่ปุ่นจำหน่ายกล่องละ 3,400 เยน หรือประมาณกล่องละ 1,000 บาท นับว่าเป็นก้าวแรกตามที่เคยตั้งเป้าหมายไว้ ว่า นอกจากจะมีสวนโก้โก้ที่มีคุณภาพแล้ว อยากที่จะผลิตช็อคโกแลตไทยคุณภาพสูง และไปปักธงชาติไทยบนแผนที่ช็อกโกแลตโลกให้ได้ ”นายธนา กล่าว

ความท้าท้ายการทำธุรกิจคราฟต์ช็อกโกแลตของในภาวะที่เกิดวิกฤตโควิดนั้น ส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่า เรามีความเชื่อมั่นว่าองค์ความรู้จากการหาความรู้จากทั่วโลกด้วยตนเอง การสร้างพันธมิตรในการปลูกต้นโกโก้ และการลงมือปฎิบัติจริงตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ทำให้มีต้นทุนในการบริหารจัดการได้อย่างครบวงจร สามารถที่จำคำนวนต้นทุน และรับมือกับความผันผวนของวัตถดิบได้ อีกทั้งทำให้มีโอกาสที่จะพัฒนาวัตถุดิบให้ดีที่สุด ทั้งการพัฒนาสายพันธุ์ ความรู้ในการดูแลต้นโกโก้แต่ละช่วงอายุ การเก็บเกี่ยว การหมักและการตาก เพื่อทำเม็ดโกโก้แห้งคุณภาพมาตรฐานสูงเทียบเท่ากับต่างประเทศ

นอกจากนี้ ด้วยการสร้างแรงบันดาลใจจากตัวเอง ส่งต่อมาเป็นการสร้างวัฒนธรรมให้กับคนในองค์กรได้ร่วมกันสร้างสรรค์สิ่งที่ดีๆ ช่วยกันผลิตชิ้นงานที่ชูศิลปะเข้ามาเป็นจุดขายด้วยที่มีความต่าง และโดดเด่น รวมไปถึงให้ความสำคัญในการควบคุมคุณภาพของวัตถุดิบ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจ อาหารและเครื่องดื่ม ที่สำคัญเราคำนึงถึงความปลอดของบุคลากรเป็นหลัก โดยถือว่าเป็นองค์กรแรกๆในพื้นที่ที่สั่งวัคซีนทางเลือกมาให้พนักงานที่ต้องใช้งบประมาณกวา 200,000 แสนบาท ทำให้ธุรกิจของเรารอดพ้นจากทุกการระบาดของเชื้อโควิดในแต่ละรอบของจังหวัดเชียงใหม่ได้

อย่างไรก็ตาม ในปี 2565 ได้ตั้งเป้าหมายยอดขายไว้ที่ 10 ล้านบาท โดยจะเป็นปีที่จะเสริฟ์ช็อคโกแลตแนวใหม่ๆ ซึ่งจะเป็นการยกระดับการกินช็อคโกแลตให้มีความสนุกสนานมากขึ้น เช่น การทำช็อคโกแลตเสริฟ์เป็นเมนูกระเพราไข่ดาว

หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ได้มีการนำศิลปะการวาดลวดลายต่างๆ มาแสดงความโดดเด่นบนตัวช็อคโกแลตบงบงมาก่อน และจะเน้นผลิตช็อคโกแลตที่มีรสชาติของความเป็นไทยเพิ่มขึ้นอีกที่จะนำวัตถุดิบในประเทศไทยมาผลิตเป็นช็อคโกแลตที่มีทั้งรูปร่างหน้าตา และรสชาติที่ไม่ซ้ำกับใครในโลกของช็อคโกแลต โดยคอลเลคชั่นใหม่ ที่จะออกมาในช่วงเทศกาลวันแห่งความรัก และเทศกาลสงกรานต์ที่จะถึงนี้