อ่วม! "คลัสเตอร์ตะวันแดง" โคราช ติดเชื้อแล้ว 119 ราย
คลัสเตอร์ตะวันแดง โคราช ลามไม่หยุดติดเชื้อแล้ว 119 ราย แถมเกิดคลัสเตอร์ใหม่เพิ่ม ขณะที่โควิดระบาดโรงงานผลิตถุง แต่ไม่ให้ความร่วมมือ จ่อเอาผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมโรค
เมื่อวันที่ 19 ม.ค. 65 ที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งมีนายชูศักดิ์ ชุนเกาะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฯ มาเป็นประธาน ได้มีการรายงานผลดำเนินมาตรการป้องกันควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด 19 ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 190 ราย โดยเป็นการติดเชื้อกันเองในจังหวัด 181 ราย และติดเชื้อมาจากนอกจังหวัด 9 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 36,418 ราย ซึ่งรักษาหายแล้ว 34,195 ราย ยังรักษาอยู่ 1,931 ราย เป็นผู้ป่วยเคสสีแดง 23 ราย เคสสีเหลือง 638 ราย และเคสสีเขียว 1,270 ราย ยอดเสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 292 ราย ทั้งนี้ ได้ระดมฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19 ให้กัประชาชนกลุ่มเป้าหมายที่ควรได้รับวัคซีน จำนวน 2,633,207 ราย โดยฉีดวัคซีนเข็ม 1 ไปแล้ว 1,722,115 ราย คิดเป็น 65.40 % ,เข็ม 2 ฉีดได้ 1,619,579 ราย คิดเป็น 61.51 % ,เข็ม 3 ฉีดได้ 388,966 ราย คิดเป็น 14.77 % รวมฉีดวัคซีนไปแล้ว 3,730,660 โดส
ส่วน สถานการณ์การแพร่ระบาด พบว่า มี 7 คลัสเตอร์เก่าและใหม่ ที่พบการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว ทำให้มีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก ได้แก่
1.คลัสเตอร์บ้านหนองบัวตะเกียด ม.1 ต.หนอบัวตะเกียด อ.ด่านขุนทด จากการสอบสวนเชิงรุก พบเชื้อแพร่ระบาดออกไปถึง 6 วง เริ่มจากผู้ติดเชื้อรายแรกมาจากพื้นที่เสี่ยง จ.ชลบุรี กลับมาในช่วงปีใหม่ แล้วแพร่เชื้อให้กับคนในครอบครัว จากนั้น เชื้อแพร่ไปสู่เครือญาติและเพื่อนบ้าน จากการสังสรรค์ พบปะพูดคุย เล่นด้วยกัน ทำงานด้วยกัน จนมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจำนวนมาก ซึ่งเดิมเชื้อกระจายไป 6 วง มีผู้ติดเชื้อ 40 ราย ล่าสุด พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในวงที่ 3 เป็นญาติของเพื่อนบ้าน จำนวน 1 ราย และวงที่ 5 เป็นเด็กที่วิ่งเล่นด้วยกันอีก 2 ราย รวมคลัสเตอร์นี้ ติดเชื้อแล้ว 43 ราย ซึ่ง ศบก.อำเภอด่านขุนทดได้สั่งปิดหมู่บ้านหนองบัวตะเกียดแล้วตั้งแต่วันที่ 12-21 มกราคม 2565 คาดว่าจะควบคุมสถานการณ์การระบาดได้ภายในวันที่ 21 มกราคม 2565
2.คลัสเตอร์ งานศพ หมู่ 8 และหมู่ 13 ต.ห้วยแถลง อ.ห้วยแถลง เริ่มจากญาติที่มาจากต่างจังหวัด ทั้งจาก จงสุรินทร์ กรุงเทพฯ ระยอง ชลบุรี ฉะเชิงเทรา และ จ.จันทบุรี มาร่วมงานศพ ในวันที่ 7-8 มกราคม 2565 เมื่อญาติจาก จ.สุรินทร์ กลับไป ตรวจพบว่าติดโควิด 19 จึงแจ้งให้ญาติที่ อ.ห้วยแถลงทราบ จึงพากันไปตรวจ ATK พบผลบวก 2 ราย จากนั้น ทีมสอบสวนโรคตรวจเชิงรุกในพื้นที่เสี่ยง ระหว่างวันที่ 13-18 มกราคม 2565 พบผลบวกหลายราย ล่าสุด ยืนยันติดเชื้อแล้ว 34 ราย และมีผลบวก ATK อีก 19 ราย รอตรวจยืนยันผล RT-PCR ซึ่ง ศบก.อ.ห้วยแถลง ได้สั่งปิดทั้ง 2 หมู่บ้านแล้ว วันที่ 14-23 มกราคม 2565 และตั้งด่านทั้ง 4 จุดของหมู่บ้านตลอด 24 ชั่วโมง ห้ามเข้าออก ยกเว้นได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ
3.คลัสเตอร์ โรงเรียนครบุรีวิทยา ต.บ้านใหม่ อ.ครบุรี โดยผู้ป่วยรายแรกเป็นนักเรียนชั้น ป.3/1 กับมารดา เริ่มมีอาการป่วยเมื่อวันที่ 14 มกราคมที่ผ่านมา ตรวจ ATK ผลเป็นบวก รีบแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและโรงเรียนให้ ทราบ ทางโรงเรียนก็สั่งปิดทันทีวันที่ 17 -29 มกราคม 2565 ให้นักเรียนชั้น ป.3/1 จำนวน 37 คน งดมาโรงเรียน ให้กักตัวที่บ้านและตรวจ ATK หาเชื้อ และเมื่อทีมสอบสวนโรค อ.ครบุรี ค้นหาเชิงรุก พบนักเรียนชั้น ป.3/1 ติดเชื้ออีก 9 ราย และผู้ปกครองติดเชื้ออีก 1 ราย ซึ่งเชื้อได้แพร่ไปวง 2 มีพ่อของนักเรียนติดเชื้ออีก 1 ราย มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 66 คน โดยเป็นนักเรียน 27 คน และนักเรียนที่นั่งรถตู้ด้วยกัน 12 คน กับผู้สัมผัสร่วมบ้านในชุมชนอีก 27 คน ได้ทำการกักตัวอยู่ในชุมชนแล้ว
4.คลัสเตอร์ ร้านตะวันแดง อ.เมืองนครราชสีมา เป็นคลัสเตอร์เดิมที่พบผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มต่อเนื่อง และระบาดจนเกิดเป็นคลัสเตอร์ใหม่เพิ่มขึ้นอีก โดยในกลุ่มผู้ติดเชื้อของบ้านพักผู้สูงอายุราชสีมา กลุ่มพนักงานร้านตะวันแดง กลุ่มลูกค้าที่ไปเที่ยว และกลุ่มคลัสเตอร์ ต.บ้านใหม่ ที่เชื่อมโยงกับคลัสเตอร์ตะวันแดง ล่าสุด ยังไม่พบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่ม แต่มีลูกค้าบางส่วนที่ไปเที่ยวระหว่างวันที่ 31 ธันวาคม 2564 – 8 มกราคม 2565 ที่ตรวจ ATK หาเชื้อเอง และกินยารักษาเอง และไปตรวจยืนยันผล พบว่าติดเชื้ออีก 5 ราย ซึ่งมี 2 รายในจำนวนนี้ ทำให้เกิดการแพร่ระบาดวงที่ 2 เกิดเป็นคลัสเตอร์ใหม่ ที่ ต.โคกสูง อ.เมืองนครราชสีมา โดยพบผู้ติดเชื้ออีก 17 ราย ทำให้มีผู้ติดเชื้อโควิด 19 ในคลัสเตอร์ร้านตะวันแดง แล้ว 119 ราย โดยเป็นกลุ่มที่ไปใช้บริการติดเชื้อ 71 ราย และผู้สัมผัสเสี่ยงสูงติดเชื้อ 48 ราย
5.คลัสเตอร์ เครือญาติบ้านหนองกระชาย หมู่ 11 ต.โคกสูง อ.เมืองนครราชสีมา เป็นคลัสเตอร์ที่เชื่อมโยงกับ คลัสเตอร์ร้านตะวันแดง โดยผู้ป่วยรายที่ 1และ 2 เป็นสามีภรรยากันไปร่วมงานวันเกิดที่ร้านตะวันแดง วันที่ 5 มกราคม 2565 กลับมาเริ่มมีอาการป่วย ไปตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด 19 จากนั้นเชื้อได้แพร่ไปวง 2 โดยครอบครัวของผู้ป่วย 2 รายนี้ แต่อยู่บ้านคนละหลังและมีประวัติไปมาหาสู่กัน ได้จัดงานแต่งงานในวันที่ 15 มกราคม 2565 มีแขกมาร่วมงาน 200 คน ซึ่งต่อมา ครอบครัวที่จัดงานแต่งงาน ตรวจพบว่า ติดเชื้ออีก 5 ราย ทีมสอบสวนโรคจึงเร่งตรวจเชิงรุกพบว่าติดเชื้อระบาดเป็นวง 3 ในกลุ่มเครือญาติที่มาร่วมงาน พบติดเชื้ออีก 12 ราย รวมคลัสเตอร์นี้ติดเชื้อ 19 ราย
6.คลัสเตอร์งานวันเกิด หมู่ 4 ต.หนองจะบก อ.เมืองนครราชสีมา เป็นวันเกิดของผู้ป่วยรายแรก เด็กชายอายุ 11 ปี ซึ่งครอบครัวจัดงานวันเกิดให้ในวันที่ 11 มกราคม 2565 และชวนเด็กๆ ที่เป็นเครือญาติมาร่วมฉลองวันเกิด จากนั้น วันที่ 14 มกราคม 2565 ผู้ป่วยรายแรกเริ่มมีอาการ ตรวจ ATK ผลเป็นบวก จึงตรวจยืนยันผลพบติดเชื้อโควิด 19 จากนั้น มีการตรวจเชิงรุกคนในครอบครัวและเด็กๆ กับญาติที่มาร่วมงาน พบติดเชื้อรวม 10 คน โดยเป็นเด็ก 8 ราย และผู้ปกครองอีก 2 ราย ซึ่งเชื้อได้แพร่ไปวง 2 ทำให้ญาติที่อาศัยร่วมบ้านและที่ไปมาหาสู่กัน ติดเชื้อไปด้วย 7 ราย และเชื้อไปวง 3 มีญาติอีก 1 รายที่ อ.ปักธงชัย ติดเชื้อด้วย โดยมี 4 รายที่ผล ATK เป็นบวก ยังรอยืนยันผล RT-PCR อยู่ รวมคลัสเตอร์นี้ยืนยันติดเชื้อแล้ว 18 ราย
7.คลัสเตอร์ โรงงานสยามแฟล็กซ์แพ็ค จำกัด ต.หนองบัวศาลา อ.เมืองนครราชสีมา เริ่มแรกตรวจพบพนักงานตรวจ ATK ผลเป็นบวก 4 ราย ในแผนกเย็บถุงจัมโบ้ตัดแพ็ค โดยเป็นแรงงานชาวไทย 2 คนอยู่ใน อ.โนนสูง และแรงงานชาวพม่า 2 ราย ส่งตรวจ RT-PCR วันที่ 12 มกราคม 2565 ยืนยันติดโควิด 19 จากนั้น พบว่า ภรรยาของแรงงานพม่าที่ติดเชื้อ ได้ติดโควิด 19 ด้วยอีก 1 ราย ต่อมา พบผู้ติดเชื้ออีกเป็นแรงงานไทย พักอยู่ที่ อ.เฉลิมพระเกียรติ 1 ราย , อ.โนนสูง 1 ราย และ อ.เมืองฯ 2 ราย จากนั้น พบว่ามีแรงงานชาวพม่าอีก 7 ราย รวมคลัสเตอร์นี้ติดเชื้อแล้ว 16 ราย จากพนักงานทั้งหมด 463 คน ซึ่งทีมสอบสวนโรคพบปัญหาในการดำเนินงาน ทั้งเรื่องการรายงานผลการตรวจ ATK พนักงานทั้งหมดที่ไม่เป็นปัจจุบัน ,การแจ้งข้อมูลล่าช้า , ปล่อยให้แรงงานกลุ่มเสี่ยงออกไปชุมชนโดยไม่สั่งกักตัว , ไม่ทำบับเบิ้ล แอนด์ ซีล ตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคองสาธารณสุข เป็นต้น ซึ่งทางจังหวัดฯ ได้จัดทีมลงไปตรวจสอบแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น พร้อมเตรียมเอาผิดหากไม่ให้ความร่วมมือปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ควบคุมโรค