"หมอธีระวัฒน์" ตอบชัด "ฉีดวัคซีนเข็ม 3" ตาเหลือง
"หมอธีระวัฒน์" ไขข้อข้องใจ "ฉีดวัคซีนเข็ม 3" ไฟเซอร์เจอภาวะตาเหลือง พบได้ในบางรายที่มีภาวะตับบกพร่องหรือตับอักเสบ รุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตหรือไม่ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกาย
จากกรณีที่มีการแชร์คลิปหนุ่ม "ฉีดวัคซีนเข็ม 3" ไฟเซอร์ และพบอาการตาเหลือง ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งอาการข้างเคียงที่พบได้น้อย ล่าสุด ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยถึงเรื่องดังกล่าว ระบุว่า อาการตาเหลืองภายหลังจากรับวัคซีนโควิด-19 นั้น ถือว่าเป็นอาการข้างเคียงอีกหนึ่งอาการที่ส่วนใหญ่ไม่ได้พบโดยทั่วไป แต่จะพบในกรณีที่ผู้รับวัคซีนมีภาวะการอักเสบของตับ หรือภาวะการอักเสบของไตอยู่แล้ว เนื่องจากการฉีดวัคซีนเข้าไปในร่างกายนั้น จะเป็นการกระตุ้นระบบการทำงานภายใน ส่งผลให้ผู้ที่มีภาวะเหล่านี้ซ่อนอยู่แสดงอาการออกมา แต่จะรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับว่าผู้ที่ได้รับวัคซีนมีอาการเดิมอยู่แล้วมากน้อยเพียงใด
อย่างไรก็ตามต้องย้ำว่า อาการตาเหลืองไม่ได้เกิดในทุกคนดังนั้นประชาชนไม่ต้องกังวล ส่วนการรักษาหมอจะทำการให้น้ำเกลือ และตรวจสอบค่าตับ หรือค่าไตอย่างต่อเนื่อง หากพบว่าค่าตับหรือค่าไตลดลง อาการตาเหลืองก็จะค่อย ๆ หายไป ซึ่งจะใช้เวลามากหรือน้อย ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละตัวบุคคล
ศ.นพ.ธีระวัฒน์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามการ "ฉีดวัคซีนเข็ม 3" หรือวัคซีนป้องกันโควิดทุกชนิดมีผลข้างเคียงตั้งแต่อาการเล็กน้อย ไปจนถึงขั้นเสียชีวิต โดยอาการส่วนใหญ่จะเป็นตั้งแต่ 3 วัน ไปจนถึง 1 เดือน หรือในบางรายก็เป็นต่อเนื่องไม่หายขาด สำหรับอาการที่เห็นได้ชัดเจนคือ ผู้ที่ได้รับวัคซีนมักจะมีอาการปวดหัว คล้ายอาการไมเกรน ในกรณีร้ายแรง หรือในกลุ่มที่อาการหนักมักจะเกิดอาการคล้ายอัมพฤกษ์ กล้ามเนื้ออ่อนแรงครึ่งซีก รวมไปถึงภาวะการอักเสบในสมอง เส้นประสาทอักเสบ ชาตามแขนขา ใบหน้า ลำตัว
โดยอาการต่าง ๆ สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในกรณีที่รับวัคซีนเชื้อตาย และวัคซีนชนิด mRNA เพราะการฉีดเข้ากล้ามเนื้อมักจะมีผลข้างเคียงค่อนข้างมาก ดังนั้นตนจึงแนะนำว่าการฉีดวัคซีนเข้าชั้นผิวหนังเป็นแนวทางการฉีดที่มีความปลอดภัยมากกว่าการฉีดเข้ากล้ามเนื้อมากถึง 10 เท่า อีกทั้งยังมีผลข้างเคียงต่ำด้วย