เปิดเงื่อนไข สปสช.แจก "ถุงยางอนามัย-ยาคุม" เริ่ม 1 ก.พ.65
เปิดเงื่อนไข สปสช.แจก "ถุงยางอนามัย-ยาคุม" ตั้งแต่อายุ 15 ปีขึ้นไป เริ่ม 1 ก.พ.65 แอปพลิเคชั่น "เป๋าตัง" หรือที่หน่วยบริการที่เข้าร่วมโครงการ
นพ.จักรกริช โง้วศิริ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวถึงแนวทางการให้บริการยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดรับประทานและถุงยางอนามัย ปีงบประมาณ 2565 ว่า บริการดังกล่าวเป็นสิทธิประโยชน์ด้านการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ซึ่งในปีนี้ สปสช. ได้เพิ่มจุดให้บริการ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนเข้าถึงบริการมากขึ้น
ซึ่งจะทำให้การป้องกันการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และเพิ่มความปลอดภัยจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ด้วย (Safe sex)
สำหรับจุดให้บริการ คือ หน่วยบริการในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ประกอบด้วย คลินิกการพยาบาลฯ ร้านขายยา โรงพยาบาลเอกชน คลินิกเวชกรรม และหน่วยบริการปฐมภูมิ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
เงื่อนไขการขอรับยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดรับประทาน
- สำหรับหญิงไทยทุกสิทธิ อายุระหว่าง 15-59 ปี
- ผู้รับบริการสามารถรับบริการยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดรับประทาน หรือ ยาคุม ครั้งละไม่เกิน 3 แผง คนละไม่เกิน 13 แผง/ปี
วิธีรับบริการ คือ
- กรณีมีโทรศัพท์มือถือแบบสมาร์ทโฟน สามารถขอรับยาคุมกำเนิด ใน แอปพลิเคชั่น "เป๋าตัง" เมนูกระเป๋าสุขภาพ เลือกบริการสร้างเสริมสุขภาพ เลือกหน่วยบริการที่จะไปรับ จองสิทธิ และไปรับภายในวันที่จองสิทธิ
- กรณีไม่มีสมาร์ทโฟน ให้แสดงบัตรประชาชนเพื่อขอรับยาคุมกำเนิด ณ หน่วยบริการที่เข้าร่วมโครงการ
เงื่อนไขการขอรับถุงยางอนามัย
- ให้บริการแก่คนไทยทุกสิทธิอายุ 15 ปีขึ้นไป
- รับบริการได้ครั้งละ 10 ชิ้น/ สัปดาห์
- รอบการจ่าย 7 วัน รับได้ 1 ครั้ง ไม่จำกัดจำนวนถุงยาง/คน/ปี
วิธีรับบริการ คือ
- ใช้สมาร์ทโฟน Add Line สปสช. แล้วสแกน QR code ณ หน่วยบริการที่เข้าร่วมโครงการแจกถุงยางอนามัย (ดูรายชื่อได้ที่เว็บไซต์ สปสช.) เพื่อรับถุงยางอนามัยตามไซส์ มีให้เลือก 4 ไซส์ คือ 49 มม., 52 มม., 54 มม. และ 56 มม
ทั้งนี้ การให้บริการยาคุมกำเนิดชนิดรับประทาน จะเริ่มตั้งแต่เดือน ก.พ. 2565 นี้เป็นต้นไป ส่วนถุงยางอนามัยจะเริ่มให้บริการในช่วงเดือนเมษายน 2565