ดีเดย์! นำเข้าแรงงานกัมพูชามาทำงานตาม MOU วันแรกคึกคัก
ไทยนำเข้าแรงงานกัมพูชามาทำงานตาม MOU วันแรกคึกคัก เริ่มพื้นที่ จ.สระแก้ว เกือบ 200 คน โดยแรงงานทุกคนต้องกักตัวในสถานที่กักกัน ก่อนนายจ้างในประเทศมารับตัวไปทำงานหลังครบกำหนด 7 วัน
เมื่อวันที่ 1 ก.พ.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ด่านผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว มอบหมายให้ นายณัฏฐชัย นำพูลสุขสันติ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เป็นประธาน ร่วมกับ นายสันติ นันตสุวรรณ รองอธิบดีกรมการจัดหางาน ผู้ตรวจราชการกรมการจัดหางาน ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารแรงงานฯและกงสุลใหญ่กัมพูชาประจำประเทศไทย ตรวจเยี่ยมการอนุญาตให้คนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา เข้ามาทำงานกับนายจ้างในประเทศตาม MOU ครั้งที่ 1 และให้คำแนะนำการปฏิบัติของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภายหลัง นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ดำเนินการตามข้อสั่งการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน ให้บริหารจัดการการทำงานของแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ ที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และความต้องการแรงงานของนายจ้างและสถานประกอบการภายในประเทศ โดยกระทรวงแรงงานได้เปิดให้นายจ้างยื่นคำร้องขอนำคนต่างด้าวเข้ามาทำงานในประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.64 ที่ผ่านมา ซึ่งมีนายจ้างที่มีความพร้อมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการจัดหาสถานที่กักตัวยื่นดำเนินการนำเข้าแรงงานตาม MOU กลุ่มแรกที่เดินทางเข้ามาในวันนี้ คือบริษัท พนัสโพลทรี่ กรุ๊ป จำกัด จ.ชลบุรี ที่ขออนุญาตนำเข้าแรงงานกัมพูชา จำนวน 185 คน จากจำนวนที่แจ้งไว้ทั้งหมด 226 คน แบ่งเป็นสถานประกอบการอยู่ในจังหวัดชลบุรี จำนวน 220 คน และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อีก 6 คน
ทั้งนี้ สำหรับการยื่นขออนุญาตทำงานแทนคนต่างด้าว จากบัญชีรายชื่อคนต่างด้าว หรือ Name List โดยนายจ้างที่ต้องการจ้างแรงงานสัญชาติกัมพูชาดังกล่าว มีสถานที่ทำงานและสถานประกอบการอยู่ในจังหวัดชลบุรี นำเข้าเป็นรายแรกคือ บริษัท พนัสโพลทรี่ กรุ๊ป จำกัด จ.ชลบุรี ซึ่งแรงงานทั้งหมด ภายหลังเดินทางผ่านด่านควบคุมโรคระหว่าประเทศ ด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว และกักตัวในสถานที่กักกันรูปแบบเฉพาะองค์กร (Organization Quarantine) ในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว ที่อาคารอินโดจีน Grand Residence ศูนย์ OQ บริษัท สุวรรณภูมิอินเตอร์เฮลท์เมด จำกัด แบ่งเป็น กลุ่มแรงงานที่ต้องกักตัว 7 วัน ตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคของกระทรวงสาธารณสุข เนื่องจากได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม จากประเทศต้นทาง และมีการซื้อกรมธรรม์ที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพและรักษาพยาบาล ซึ่งคุ้มครองการรักษาโรคโควิด-19 เมื่อครบกำหนดจะให้นายจ้างรับไปยังสถานประกอบการได้ทันที ส่วนแรงงานที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนหรือฉีดวัคซีนไม่ครบ 2 เข็ม จะต้องกักตัวตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข
ขณะเดียวกัน นายณัฏฐชัย นำพูลสุขสันติ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ซึ่งเดินทางลงพื้นที่มารับตัวแรงงานกลุ่มดังกล่าวด้วยตนเอง กล่าวว่า แรงงานทั้งหมดที่ขออนุญาตไว้มีจำนวน 226 คน แต่เดินทางเข้ามาวันนี้เพียง 184 คน เป็นชาย 96 คน หญิง 88 คน ซึ่งจะต้องส่งไปยังสถานที่กักตัวในรูปแบบเฉพาะองค์กร หรือศูนย์ OQ บริษัท สุวรรณภูมิอินเตอร์เฮลท์เมด จำกัด ตั้งอยู่ที่ 555/554 หมู่ที่ 7 ตำบลป่าไร่ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ซึ่งมีจำนวนห้องพัก 200 ห้อง สามารถรองรับผู้กักตัวสูงสุด 500 เตียง มีค่าใช้จ่ายในการกักตัว 7 วัน จำนวน 8,500 บาทต่อคน มีรถของสถานกักตัวรับตัวจากด่านมาที่พัก พร้อมบริการอาหาร 3 มื้อ ในส่วนคนต่างด้าวหากยังฉีดวัคซีนไม่ครบ กระทรวงแรงงานจะเป็นผู้จัดหาวัคซีน และฉีดให้ระหว่างการกักตัวด้วย ดังนั้น นายจ้างหรือสถานประกอบการที่ต้องการจ้างแรงงานต่างด้าวอย่างถูกกฎหมาย สามารถขออนุญาตผ่านกรมการจัดหางานเพื่อนำแรงงานต่างด้าวมาทำงานกับในประเทศได้ตาม MOU อย่างเป็นระบบ ซึ่งจะดำเนินการไปจนถึงวันที่ 13 ก.พ.ปีหน้า