บรรยากาศซื้อขาย "กุหลาบ"-ของขวัญ "วาเลนไทน์ 2565" ภูเก็ตเงียบเหงา

เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการซื้อขาย "ดอกกุหลาบ" และของขวัญวันวาเลนไทน์ ของจังหวัดภูเก็ต ว่า "วาเลนไทน์ 2565" ค่อนข้างเงียบเหงากว่าทุกปีที่ผ่านมา เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจและสถานการณ์โควิด-19 ทำให้มีการระมัดระวังการใช้จ่าย ประกอบกับราคาของดอกกุหลาบสดที่ปรับตัวค่อนข้างสูง ไม่ว่าจะเป็นดอกกุหลาบในประเทศหรือต่างประเทศ จึงทำให้ทางร้านต้องลดปริมาณการสั่งซื้อดอกกุหลาบสด และในการขายก็จะเน้นทำตามคำสั่งซื้อ

โดยเฉพาะการเข้าช่อ ส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าประจำ ขณะที่การซื้อหน้าร้านมีบ้างแต่ไม่มากนัก จากการสำรวจในภาพรวม พบว่าร้านค้าที่เคยมีการนำดอกไม้มาวางขายเฉพาะในช่วงวาเลนไทน์ในย่านที่มีผู้คนพลุกพล่านหายไปค่อนข้างมาก ส่วนใหญ่จะเหลือเฉพาะร้านที่ขายดอกไม้ปกติอยู่แล้ว

จากการสอบถามนางสาวรติกร วงเวียนคำ เจ้าของร้านจูน บูเก้ ย่านสามกองบอกว่า บรรยากาศการซื้อขายในปีนี้ค่อนข้างเงียบเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีอยู่จะเป็นลูกค้าประจำ ซึ่งเป็นกลุ่มวัยรุ่น และยอดการสั่งดอกไม้มาขายก็ไม่ต่างจากปีที่แล้ว

ขณะที่ราคาของดอกไม้ในปีนี้จะมีการปรับตัวค่อนข้างสูง ในส่วนของทางร้านแม้จะมีการปรับขึ้นบ้างแต่ไม่มากนัก ซึ่งจะแตกต่างไปตามขนาดช่อดอกไม้ที่ลูกค้าต้องการ หากช่อเล็กเริ่มตั้งแต่ 100 , 300, 500, 800 และ 1,000 บาท ขึ้นอยู่กับปริมาณดอกไม้ที่ใช้ หรือความยากง่ายของช่อดอกไม้นั้น

ส่วนพฤติกรรมลูกค้าจะมีการสั่งซื้อทางออนไลน์และให้นำไปส่ง การมาซื้อหน้าร้านจะค่อนข้างน้อย รวมถึงในส่วนของนักเรียน หากเป็นช่วงโรงเรียนเปิดจะมีกลุ่มนี้ค่อนข้างมาก

ไม่ต่างจากร้านดอกไม้สดภูเก็ต ซึ่งถือเป็นร้านจำหน่ายดอกไม้ขนาดใหญ่ของภูเก็ต ตั้งอยู่ตรงข้ามโรงเรียนดาราสมุทร เปิดเผยว่า ปีนี้ค่อนข้างเงียบเหงาลุกค้าหายไปเกินกว่า 60 % ปกติก่อนถึงวันวาเลนไทน์ 1 วันจะมีลูกค้ามาซื้อหน้าร้านค่อนข้างเต็มมาก แต่ปีนี้เงียบมาก ส่วนใหญ่จะเป็นลุกค้าเก่า ซึ่งจะมีการสั่งซื้อกันเป็นประจำอยู่แล้วสาเหตุหลักก็มาจากเรื่องของเศรษฐกิจและสถานการณ์โควิด รวมถึงราคาดอกไม้ที่มีการปรับตัวสูงขึ้น

เช่นเดียวกับนางสาวเฉลิมศรี พิพัฒน์สมบัติ และนางสาวณัฐภา เพ็งบุญ เจ้าของร้านเรือนเจ้าสาว ซึ่งขายทั้งในส่วนของดอกไม้สดและของขวัญสำหรับวันวาเลนไทน์ อาทิ ตุ๊กตา ดอกไม้ประดิษฐ์ เป็นต้น กล่าวว่า ปีนี้ลุกค้าหายไปประมาณ 70 % แม้จะมีการปรับลดราคาสำหรับของขวัญต่างๆ ลงมาแล้วก็ตาม แต่ก็ขายได้น้อยมาก สาเหตุมาจากเรื่องของเศรษฐกิจและสถานการณ์โควิด-19