ยังไม่ย้าย ผอ.ฉาว ล่าสุดตั้งกก.สอบใช้ครูน้อยเยี่ยงทาส ซักชั้นใน เก็บขี้หมา
ยังไม่ย้าย "ผอ.ฉาว" ด้าน ผอ.สพม.เขต 30 ชัยภูมิ สั่งตั้งกรรมการสอบใช้ครูน้อยเยี่ยงทาส ไม่เว้นแม้ซักชุดชั้นใน ให้เลี้ยงลูก เก็บขี้หมา แถมยังเอารถตู้ราชการของโรงเรียนไปใช้ส่วนตัว ขณะที่ครูน้อยนับสิบรายออกมาแฉยับ
วันที่ 17 ก.พ. 2565 ผอ.สพม.เขต 30 ชัยภูมิ สั่งตั้งกรรมการสอบ "ผอ.ฉาว" ใช้ครูน้อยเยี่ยงทาส ไม่เว้นแม้สั่งซักชุดชั้นใน ให้เลี้ยงลูก เก็บขี้หมา - เอารถตู้ราชการของโรงเรียนไปใช้ส่วนตัว ขณะที่ครูน้อยนับสิบรายออกมาแฉข้อมูลฟันยับ
จากกรณีที่เพจเฟซบุ๊ก "วันนั้นเมื่อฉันสอน" ได้โพสต์ข้อความเปิดเผยเรื่องราวของคุณครูท่านหนึ่งออกมาเรียกร้องหาความถูกต้อง หลังถูก ผอ.ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.ชัยภูมิ "ผอ.ฉาว" ใช้งานเกินช่วงเวลาทำงาน หนำซ้ำยังให้ช่วยเลี้ยงลูก ดูแลครอบครัว ไม่เว้นแม้กระทั่งใช้ครูในโรงเรียนดังทำงานบ้าน ซักชุดชั้นใน เก็บขี้หมา แถมยังเอารถตู้ราชการของโรงเรียนไปใช้ส่วนตัว ก่อนครูน้อยในโรงเรียนนับสิบรายทำหนังร้องเรียนพร้อมแฉหลักฐานข้อมูลร้องเรียนไปยัง ผอ.สพม.30 ฟันวินัย จนกำลังกลายเป็นเรื่องร้อนไปทั่วโลกโซเชียลในขณะนี้
โดยกลุ่มครูน้อยหลายสิบรายที่ได้รับผลกระต่างออกมาให้ข้อมูลว่า พวกตนต่างมีความรู้สึกอัดอั้น ที่ "ผอ.ฉาว" ผอ.โรงเรียนโรงเรียนดังแห่งนี้ ที่พึ่งย้ายมาอยู่ได้ไม่นานถึงปี ได้มาสร้างความเดือดร้อนให้คณะครูในโรงเรียนไม่หยุด เช่น
1. ให้ข้าราชการครูไปรับใช้เหมือนเป็นคนรับใช้ ซื้อ-ข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวทั้งและนอกเวลาราชการ ให้คอยดูแลลูก ดูแลสุนัข ทำงานบ้านซักเสื้อผ้า ชุดชั้นในทั้งของตัวเอง แฟนชาวต่างชาติ และคนในครอบครัว
2. เป็น ผอ.นักล่ารางวัลโชว์ผลงานของตนเอง บีบบังคับให้ข้าราชการครูทำผลงานช่วยตนเองจนดึกดื่น ให้ครูบางคนทิ้งงานสอนมาทำงานพวกนี้เป็นประจำ ครูบางคนมีลูกมีครอบครัวต้องกลับไปดูแลแต่บีบบังคับ กดขี่ข่มเหง โดยใช้อำนาจของ ผอ.ตนเองให้ครูอยู่ช่วยงานตนเองจนเสร็จดึกดื่น
3. เป็น ผอ.ที่ชอบใช้คำหยาบคายด่าทอข้าราชการครูด้วยด้วยคำหยาบคาย และมักจะมีพฤติกรรมโมโหร้ายใส่ข้าราชการครูที่อยู่ใกล้ชิดอยู่เสมอ
4. ผอ.รายนี้จะใช้รถตู้โรงเรียนซึ่งเป็นรถยนต์ส่วนกลางไปรับ-ส่งลูกไปโรงเรียนทุกอาทิตย์ จากต่างอำเภอข้ามมาในตัวอำเภอเมืองชัยภูมิ ใช้ไปทำธุระส่วนตัว เสริมสวยทั้งในจังหวัดและต่างจังหวัดเป็นประจำ โดยมีการเบิกบิลน้ำมันจากงบฯของโรงเรียน
5. ผอ.เดินทางไปท่องเที่ยวหาแฟนหนุ่มชาวต่างชาติที่ต่างประเทศเป็นเวลา 1 เดือน โดยไม่ขออนุญาตจากต้นสังกัด และยังบังคับให้ข้าราชการครูไปนอนเฝ้าลูก เฝ้าสุนัข ทั้งยังต้องทำงานบ้าน ซักผ้า ไม่เว้นแม้แต่ใช้ซักชุดขั้นในให้ลูก เก็บกวดล้างขี้หมา อยู่ที่บ้านเช่าของตนเองตลอดทั้งวัน 24 ชั่วโมง โดยครูน้อยต่างไม่เต็มใจ
ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 ก.พ. 65 นายชัยวัฒน์ ตั้งพงษ์ ผอ.สพม.ชัยภูมิ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ก่อนหน้าที่ได้คณะจากโรงเรียนดังแห่งดังกล่าวนับสิบรายได้เข้าพบและยื่นหนังสื่อร้องเรียน ผอ.ฉาวรายดังกล่าวเมื่อ มาตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมาแล้ว ซึ่งเป็นโรงเรียนในเขตอำเภอแห่งหนึ่งของ จ.ชัยภูมิ และเมื่อวันที่ 15 ก.พ. 65 ที่ผ่านมา ได้แต่งตั้งคณะกรรมการลงไปสอบสวนข้อเท็จจริงเบื้องต้น แต่เนื่องจากมีผู้ร้องเรียนจำนวนมากวันนี้จึงได้ให้คณะกรรมการลงไปสอบสวนเพิ่มอีกครั้ง ซึ่งได้ให้ รอง ผอ.สพม.ชัยภูมิ เป็นหัวหน้าชุดคณะกรรรมสอบสวนข้อเท็จจริง และให้สรุปเรื่องราวที่เกิดขึ้นภายในไม่เกิน 7 วัน จากนี้ไป และหากพบมีความผิดด้านใดที่เกี่ยวข้องทั้งทางวินัยและอาญาก็จะต้องมีมาตรการลงโทษตามอำนาจหน้าที่ต่อไป
เมื่อผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่าช่วงนี้เป็นช่วงโรคโควิด-19 ระบาดทางโรงเรียนจึงสั่งปิดชั่วคราว จึงทำให้บรรยากาศภายในโรงเรียนดังแห่งดังกล่าวเป็นไปอย่างเงียบเหงา มีเพียงครูอาจารย์นับสิบราย และนักเรียนส่วนหนึ่งได้มารอให้ข้อมูลกับคณะกรรมการที่ทาง สพม.เขต 30 ชัยภูมิ ที่กำลังจะเดินทางมาสอบสวนในพื้นที่
โดยนักเรียนชั้น ม.4 รายหนึ่ง กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ตนไม่เคยเจอหน้า ผอ.รายดังกล่าวเลย รู้สึกไม่ชอบ ผอ.รายดังกล่าวที่ไม่สนในนักเรียนหรือแม้แต่จะมายืนดูนักเรียนที่หน้าโรงเรียน ซึ่งต่างจาก ผอ.คนเก่าที่ย้ายไป
ด้านชาวบ้านซึ่งมีร้านค้าอยู่ข้างโรงเรียน กล่าวว่า ตนไม่เคยเห็น ผอ.คนใหม่ ออกมาพบปะชาวบ้านเหมือน ผอ.คนเก่า ที่จะเอาใจใส่นักเรียนดีมาก โดยเฉพาะช่วงโรงเรียนเลิกมักจะออกมาดูแลนักเรียน เพราะระยะหลังมักจะมีเหตุนักเรียนตีกันอยู่เป็นประจำ
ยังไม่ย้าย ผอ.ฉาว ใช้ครูน้อยเยี่ยงทาสออกจากพื้นที่
โดยทางคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ต้องใช้เวลาในการสอบสวนฯเพิ่มขึ้น เนื่องจากล่าสุดทางคณะครูในโรงเรียนที่มีกว่า 50 คน มีการแจ้งความประสงค์ที่ได้เข้ามาเข้าชื่อเพื่อให้มีการสอบสวนเพิ่มเติมแล้วในขณะนี้กว่า 30 คน และมีการดำเนินการสอบสวนไปแล้วได้ประมาณ 27 คน และทราบว่ายังจะมีมาแจ้งให้สอบสวนเพิ่มเติมเข้ามาอีกด้วย
ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้นก็พร้อมให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งฝ่ายผู้ร้องและผู้ถูกร้อง ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 2 วัน ในส่วนของการสอบสวนคณะกลุ่มครูทั้งหมดแล้ว ก็จะได้ให้ทางด้าน ผอ.รร.ที่ถูกร้องเองได้ชี้แจงข้อเท็จจริงอีกด้านเพิ่มเติมได้ เพื่อความเป็นทุกฝ่าย ต่อกรณีที่เกิดขึ้นทั้งหมดได้ต่อไป
รวมทั้งในส่วนที่จะให้มีการย้ายออกจากพื้นที่ไว้ก่อน ในขณะนี้ทางคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ก็ยังไม่พบปัญหา รวมทั้งในช่วงนี้ทั้ง ครู นักเรียน และ ผอ.รร.ดังกล่าว ก็ไม่ได้มีการมาพบกัน เพราะโรงเรียนปิด ต้องใช้วิธีเรียนผ่านออนไลน์ และยังไม่เกิดปัญหาการกระทบกระทั่งกันได้ หรือไม่มีการใช้อำนาจเข้าไปข่มขู่อะไรต่างๆในขณะนี้ ซึ่งก็ต้องให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ที่ยังไม่มีความจำเป็นต้องย้าย ผอ.รร.ออกจากพื้นที่ แต่หากพบว่ามีการเข้ามายุ่งเหยิงมีการใช้อำนาจหน้าที่ ผอ.เข้ามาข่มขู่อะไรต่างๆจนเกิดความไม่เป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่ายขึ้น ก็จะมีมาตรการที่อาจจะต้องสั่งให้มีการย้ายออกจากพื้นที่ตามได้
ข่าวโดย สมศักดิ์ ชุ่มหมื่นไวย์ /วิรัตน์ ดวงแก้ว จ.ชัยภูมิ