"เจ้าคุณแจ๊ค" คือใคร? เปิดประวัติ หลังถูกรวบคากุฏิพันคดี เงินทอนวัด

จากกรณีตำรวจบุกจับ "เจ้าคุณแจ๊ค" หรือ พระสิทธิวรนายก รองเจ้าคณะจังหวัดนครนายก พร้อมเรียกสอบ 11 เจ้าอาวาส ในปฏิบัติการ "ล้างบาปปราบอลัชชี ทุจริตเงินทอนวัด" โดยกระจายกำลังค้นเป้าหมาย 5 จุด ในพื้นที่ นครนายก นนทบุรี และ กทม. เมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 18 ก.พ. ที่ผ่านมา

 

 

ซึ่งจากการตรวจค้นกุฏิ "เจ้าคุณแจ๊ค" หรือ พระสิทธิวรนายก รองเจ้าคณะจังหวัดนครนายก พบถุงยางอนามัยอยู่ในชั้นเก็บของติดกับเตียงนอน รวมถึงพบเหล้าที่เก็บไว้ในกุฏิ และพบเบียร์แช่อยู่ภายในตู้เย็น ทั้งนี้เจ้าคุณแจ็คอ้างว่าถุงยางอนามัยที่พบนั้นเป็นของลูกศิษย์ที่นำมาฝากไว้

 

ประวัติ เจ้าคุณแจ๊ค

เจ้าคุณแจ๊ค หรือ พระสิทธิวรนายก (ประเชิญ ปสนนชวนจิตโต) เจ้าอาวาสวัดเขาทุเรียน ต.เขาพระ อ.เมือง จ.นครนายก โดยมีอีกตำแหน่งคือ รองเจ้าคณะจังหวัดนครนายก

 

เจ้าคุณแจ๊ค หรือ พระสิทธิวรนายก จบการศึกษา นักธรรมชั้นเอก สังกัด มหานิกาย

 

เจ้าคุณแจ๊ค หรือชื่อเดิม พระครูสิทธิคีรีรักษ์ เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2557 ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสํานักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์ ในโอกาสพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 5 ธันวาคม พุทธศักราช 2556 ได้ เป็นพระราชาคณะมีนามว่า "พระสิทธิวรนายก"

 

 

 

สมณศักดิ์ เจ้าคุณแจ๊ค

• พ.ศ. 2538 เป็น พระใบฎีกา
• พ.ศ. 2540 เป็น พระครูสังฆรักษ์
• พ.ศ. 2545 เป็น พระครูสัญญาบัตร เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ ชั้นโท ที่ พระครูสิทธิคีรีรักษ์
• พ.ศ. 2550 เป็น พระครูสัญญาบัตร เทียบผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวง ชั้นเอก ในราชทินนามเดิม
• พ.ศ. 2555 เป็น พระครูสัญญาบัตร รองเจ้าคณะจังหวัด ในราชทินนามเดิม
• 5 ธันวาคม พ.ศ. 2556 เป็น พระราชาคณะชั้นสามัญ ที่ พระสิทธิวรนายก

 

กระทั่งเมื่อวันที่ 18 ก.พ. 2565 ที่ผ่านมา "เจ้าคุณแจ๊ค" ถูกจับคดี "เงินทอนวัด" โดยคดีนี้มี เจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ ร่วมกับฝ่ายพระสงฆ์ และเจ้าอาวาสวัดต่าง ๆ ในพื้นที่ พัวพันคดีทุจริตเงินทอนวัด มูลค่าความเสียหายมากกว่า 110 ล้านบาท

 

 

สำหรับปฏิบัติการดังกล่าวสืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ที่ พนักงานสอบสวน บก.ปปป. ได้รับการร้องเรียนให้ดำเนินการตรวจสอบงบอุดหนุนวัดของสํานักงานพระพุทธศาสนา (สำนักพุทธฯ) ช่วงระหว่างปี 2550-2559 ของ จ.นครนายก หลังพบความผิดปกติหลายอย่างจนเชื่อได้ว่ามีการทุจริตเกิดขึ้น จึงลงพื้นที่สืบหาข้อเท็จจริง

 

จนกระทั่งพบว่า นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ อดีต ผอ.สํานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีทุจริตเงินทอนวัด (เคสเก่า) ที่อยู่ระหว่างหลบหนี พร้อมพวกเจ้าหน้าที่สํานักพุทธฯ ได้ร่วมกับ พระสิทธิวรนายก และเจ้าอาวาสวัดต่าง ๆ ในพื้นที่ ทุจริตเงินอุดหนุนจากสำนักพุทธฯ ที่อนุมัติให้วัดต่าง ๆ ในพื้นที่ จ.นครนายก 12 วัด ในวงเงินงบประมาณ 123 ล้านบาท

 

โดยหลังจาก "เจ้าอาวาสแต่ละวัด" ได้รับเงินอุดหนุนแล้ว ก็จะทำการถอนเงินสดออกมาทั้งหมด แล้วนําไปให้พระสิทธิวรนายก จากนั้นก็จะแบ่งเงินเพียงบางส่วนทอนให้วัดต่าง ๆ คืนไป โดยอ้างว่าจะต้องเอาเงินส่วนที่เหลือไปมอบให้สํานักพุทธเพื่อนําไปบริจาคให้กับวัดอื่น ๆ ที่ยังขาดแคลนงบประมาณ รวมเงินที่เจ้าอาวาสวัดเขาทุเรียนรวบรวมมาได้กว่า 110 ล้านบาท ก่อนจะนําเงินไปแบ่งกับนายนพรัตน์

 

อย่างไรก็ตาม จากการสืบสวนยังพบอีกว่า ทั้ง อดีต ผอ.สํานักงานพระพุทธศาสนา และเจ้าอาวาส หลังได้เงินมาแล้ว ได้นำเงินบางส่วนไปซื้อที่ดินทรัพย์สินต่าง ๆ จํานวนมาก โดยมีหลักฐานยืนยันชัดเจนแล้วว่าทั้งคู่ได้กว้านซื้อที่ดินจากชาวบ้านในพื้นที่ จ.นครนายก ที่มีความสนิทกัน จํานวน 3 แปลง (เนื้อที่รวมกว่า 10 ไร่) มูลค่ารวมประมาณ 18.6 ล้านบาท โดยให้บุคคลในครอบครัวเป็นผู้ถือกรรมสิทธิแทนในลักษณะอําพรางปกปิด ถือเป็นความผิดอาญาฐานร่วมกันฟอกเงิน จึงนำไปสู่การเปิดปฏิบัติการดังกล่าวในวันนี้ขึ้นมา เพื่อตามตรวจค้นจับกุมและตรวจยึดทรัพย์สินที่ดินเหล่านี้กลับคืนสู่พระพุทธศาสนา