อัปเดต "โควิดวันนี้" 10 จ.ติดเชื้อสูงสุด กทม. 2,638 จับตา ชลบุรี สมุทรปราการ นนทบุรี
เกาะติดเช็คอัปเดตล่าสุด "โควิดวันนี้" 10 จังหวัดติดเชื้อสูงสุด กทม. ยอด 2,638 ราย จับตา ชลบุรี สมุทรปราการ นนทบุรี นครศรีธรรมราช นครราชสีมา ภูเก็ต สมุทรสาคร นครปฐม และสุรินทร์
อัปเดตต่อเนื่อง เกาะติดสถานการณ์ โควิดวันนี้ 22 ก.พ. 65 เกาะติดความคืบหน้า 10 จังหวัดติดเชื้อสูงสุด จากศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ตรวจสอบอัปเดต 10 จังหวัด อันดับพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สูงสุด
รายงานวันนี้ ผู้ติดเชื้อโควิดในประเทศรายใหม่ วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2565 ตรวจสอบ 10 จังหวัดอันดับ
22/02/2565 กรุงเทพมหานคร หรือ กทม. ยอดติดเชื้อโควิดสูงสุดอันดับ 1 ของประเทศ ตามด้วย ชลบุรี สมุทรปราการ นนทบุรี นครศรีธรรมราช นครราชสีมา ภูเก็ต สมุทรสาคร นครปฐม และสุรินทร์
ยอดฉีดวัคซีนโควิด จำนวนการได้รับวัคซีนสะสม (28 ก.พ. 2564 - 21 ก.พ. 2565)
รวม 121,915,999 โดส ใน 77 จังหวัด
ภาพรวมยอดฉีดวัคซีน วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2565
ยอดฉีดทั่วประเทศ 190,673 โดส
เข็มที่ 1 : 36,655 ราย
เข็มที่ 2 : 24,981 ราย
เข็มที่ 3 : 129,037 ราย
----------------------------
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม : 53,163,555 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม : 49,496,871 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 3 สะสม : 19,255,573 ราย
แหล่งข้อมูล : MOPH-IC
วันอังคารที่ 22 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 11.30 น.
สถานการณ์การติดเชื้อ COVID-19 ในประเทศ
ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565
ผู้ป่วยรายใหม่ 18,363 ราย
ผู้ป่วยยืนยันสะสม 526,126 ราย
หายป่วยแล้ว 389,302 ราย
เสียชีวิตสะสม 993 ราย
----------------------------
ข้อมูลสะสมตั้งแต่ปี 2563
ผู้ป่วยยืนยันสะสม 2,749,561 ราย
หายป่วยแล้ว 2,557,796 ราย
เสียชีวิตสะสม 22,691 ราย
ระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 - 21 กุมภาพันธ์ 2565
มีผู้รับวัคซีน สะสมทั้งหมด จำนวน 121,915,999 โดส
----------------------------
วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2565 มีผู้รับการฉีดวัคซีน
เข็มที่ 1 จำนวน 36,655 ราย
เข็มที่ 2 จำนวน 24,981 ราย
เข็มที่ 3 จำนวน 129,037 ราย
ที่มา ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด19
ศูนย์ข้อมูลCOVID19
สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทั่วโลก
วันอังคารที่ 22 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 10.00 น.
ยอดผู้ติดเชื้อรวม 426,389,058 ราย
อาการรุนแรง 81,243 ราย
รักษาหายแล้ว 353,317,816 ราย
เสียชีวิต 5,909,184 ราย
อันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด
1. สหรัฐอเมริกา จำนวน 80,145,282 ราย
2. อินเดีย จำนวน 42,850,066 ราย
3. บราซิล จำนวน 28,250,591 ราย
4. ฝรั่งเศส จำนวน 22,304,024 ราย
5. สหราชอาณาจักร จำนวน 18,654,572 ราย
ประเทศไทย อยู่ในอันดับที่ 32 จำนวน 2,749,561 ราย
ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด19
ศูนย์ข้อมูลCOVID19
เตือนภัย โควิด “ระดับ 4” ทั่วประเทศ
แนะนำ งดไปสถานที่เสี่ยง งดการรวมกลุ่มสังสรรค์ เน้น WFH ชะลอการเดินทางข้ามพื้นที่ถ้าไม่จำเป็น
นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่า สัปดาห์ที่ผ่านมาผู้ติดเชื้อโควิดในประเทศไทยมีแนวโน้มสูงขึ้น และคาดว่ายังมีแนวโน้มสูงต่อเนื่องในช่วง 1-2 สัปดาห์จากนี้ จึงต้องช่วยกันชะลอการติดเชื้อ ซึ่งที่ผ่านมาได้แจ้งเตือนภัยโควิดระดับ 4 มีคำแนะนำคือ งดไปสถานที่เสี่ยง งดการรวมกลุ่มสังสรรค์ เน้นทำงานที่บ้าน และชะลอการเดินทางข้ามพื้นที่ถ้าไม่จำเป็น แต่ขณะนี้ประชาชนอาจรู้สึกว่าโรคมีความรุนแรงน้อยลง ทำให้ใช้ชีวิตผ่อนคลายมากขึ้น จึงต้องขอย้ำทุกจังหวัดทั่วประเทศให้ปฏิบัติตามคำแนะนำ และมีมาตราการเคร่งครัด ซึ่งจะช่วยควบคุมป้องกันโรค ชะลอการระบาดได้ เพราะแม้ความรุนแรงของโอมิครอนจะต่ำกว่าเดลตาเกือบ 10 เท่า แต่หากมีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก โดยเฉพาะวัยรุ่น วัยทำงานที่มีการรวมกลุ่มสังสรรค์ ดื่มสุรา อาจติดเชื้อและนำไปแพร่ลงสู่ครอบครัว ผู้สูงอายุและมีโรคประจำตัวที่บ้าน ซึ่งมีโอกาสติดเชื้อรุนแรงและเสียชีวิตเพิ่มขึ้นได้
นอกจากนี้ ขอให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด ทั้งใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา เว้นระยะห่าง ไม่ไปไปสถานที่แออัด งดการรวมกลุ่มรับประทานอาหาร สังสรรค์ และเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นตามกำหนด จะช่วยป้องกันการป่วยรุนแรงและเสียชีวิตได้ ส่วนสถานประกอบการต่าง ๆ ให้เข้มมาตรการ COVID Free Setting
ที่มา : กระทรวงสาธารณสุข
ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด19
ศูนย์ข้อมูลCOVID19
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิดทั่วโลกที่มีการระบาดอย่างรวดเร็ว สำหรับในประเทศไทย พบว่าขณะนี้ตรวจพบการติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว เพื่อให้การดูแลผู้ติดเชื้อโควิดเป็นไปด้วยความเรียบร้อยมีประสิทธิภาพ สธ. มีหนังสือด่วนที่สุด ถึง นายแพทย์ สสจ. ผอ.โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป ดำเนินการ 4 ข้อ ดังนี้
1. เตรียมความพร้อมเตียง ระบบการดูแลรักษา และบุคลากรทางการแพทย์
2. ประชาสัมพันธ์เบอร์ติดต่อ รพ. เมื่อผู้ป่วยติดโควิด
3. เร่งรัดฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น
4. สื่อสารให้ประชาชนสามารถป้องกันตนเองและครอบครัว ตามมาตรการของ สธ.
ที่มา : กระทรวงสาธารณสุข