เชียงใหม่ เตรียมรับมือฮอตสปอตปีนี้ เผยพีคสุดเดือนมีนาคม
เชียงใหม่ เตรียมรับมือฮอตสปอตปีนี้ เผยพีคสุดเดือนมีนาคม ศูนย์บัญชาการป้องกันฯกำชับ 25 อำเภอรับมือไฟป่า-หมอกควัน จัดกำลังพลหมุนเวียนตลอด 24 ชม.
ศูนย์บัญชาการป้องกันฯ กำชับ 25 อำเภอในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เตรียมรับมือ "ไฟป่า" และ "หมอกควัน" จะยกระดับความรุนแรงสุดของรอบปีในเดือนมีนาคม 2565 จัดกำลังพลหมุนเวียนตลอด 24 ชั่วโมง
ขณะที่จุดความร้อนสะสมตั้งแต่เดือนมกราคม-ปัจจุบันยังไม่สูง อยู่ที่ 880 จุดเทียบค่าเฉลี่ยย้อนหลังลดลงร้อยละ 71.85
วันที่ 24 ก.พ.2565 ศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันจังหวัดเชียงใหม่ รายงานว่าตั้งแต่เดือนมกราคม-ปัจจุบัน ได้เกิดจุดความร้อนรวม 8 จุด ส่วนการเกิดจุดความร้อนสะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 จนถึง 23 กุมภาพันธ์ 2565 มีทั้งหมด 880 จุด ลดลงจากค่าเฉลี่ย 3 ปีย้อนหลังกว่าร้อยละ 71.85
ขณะที่หลาย ๆ อำเภอในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ได้เริ่มปฏิบัติการรณรงค์ประชาสัมพันธ์การป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่า และฝุ่นละออง PM 2.5
นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะประธานในการประชุมคณะกรรมการศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า และหมอกควันจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและอำเภอทั้ง 25 อำเภอ ผ่านทางระบบออนไลน์ เพื่อติดตามสถานการณ์รวมถึงหาแนวทางในการป้องกันและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น กล่าวว่า ในเดือนมีนาคม 2565 คาดว่าจะเกิดจุดความร้อนมากที่สุดในรอบปีนี้ จึงขอเน้นย้ำให้หน่วยงานราชการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมในการรับมือสถานการณ์ไฟป่า และหมอกควันที่อาจจะรุนแรงมากขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นการจัดเจ้าหน้าที่อยู่ประจำห้องปฏิบัติการศูนย์บัญชาการป้องกัน และแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันจังหวัดเชียงใหม่ ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งเพิ่มชุดปฏิบัติการพิเศษป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันของทุกอำเภอ โดยเน้นย้ำให้ศูนย์บัญชาการฯ ในระดับอำเภอ รายงานผลการปฏิบัติงานในพื้นที่ของแต่ละอำเภอให้ศูนย์บัญชาการฯ จังหวัดทราบในทุกวัน
รวมถึงการตรวจสุขภาพของเจ้าหน้าที่และจิตอาสาที่ปฏิบัติงานดับไฟป่าทุกคนก่อนเริ่มปฏิบัติงานจริง และจะจัดทำประกันภัยให้กับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานดับไฟป่า จำนวน 1,000 คน ในวงเงินประกันภัยจำนวน 100,000 บาท โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม - 30 เมษายน 2565
อย่างไรก็ตาม ขอให้ศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันในแต่ละอำเภอ แยกประเภทของจุดความร้อนที่ตรวจพบว่า จุดความร้อนนั้น เกิดขึ้นในเขตพื้นที่ชนิดใด เพื่อความสะดวกให้ในการบริหารจัดการ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในระดับอำเภอ ระดับตำบล และระดับหมู่บ้าน เข้าไปตรวจสอบดูแลและประชาสัมพันธ์ให้ความรู้กับคนในพื้นที่ให้มากที่สุด เพื่อจะสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ข่าวโดย สกาวรัตน์ ศิริมา จ.เชียงใหม่