ชมภาพ กรมสมเด็จพระเทพฯ ทรงเปิดงาน เทศกาลน้ำมันเมล็ดคามีเลีย ภัทรพัฒน์
กรมสมเด็จพระเทพฯ ทรงเปิดงาน "เทศกาลน้ำมันเมล็ดคามีเลีย ภัทรพัฒน์ ณ ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์
วันนี้ (24 ก.พ.65) สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดงาน เทศกาลน้ำมันเมล็ดคามีเลีย ภัทรพัฒน์ และทรงบรรยายเกี่ยวกับ เรื่องเล่าน้ำมันเมล็ดคามีเลีย ณ ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร
สำหรับประวัติของน้ำมันเมล็ดคามีเลีย ภัทรพัฒน์ นั้น เริ่มตั้งแต่ปี 2547 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานพระราชดำริให้มูลนิธิชัยพัฒนา ดำเนินการศึกษาและทดลองปลูกต้นชาน้ำมันสายพันธุ์คามีเลีย โอลีเฟร่า จากสาธารณรัฐประชาชนจีน จากนั้นมีพระราชดำริให้จัดตั้ง ศูนย์วิจัยและพัฒนาชาน้ำมันและพืชน้ำมัน อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เพื่อเป็นโรงงานผลิตน้ำมันจากเมล็ดชาน้ำมันสายพันธุ์คามีเลีย โอลีเฟร่า และพืชน้ำมันชนิดอื่นๆ ซึ่งโรงงานแห่งนี้ได้ผลิตน้ำมันคุณภาพสูงสำหรับการบริโภคและนำไปเป็นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องอื่นๆ เช่น เครื่องสำอาง เป็นต้น
การศึกษาและทดลองปลูกต้นชาน้ำมันสายพันธุ์คามีเลีย โอลีเฟร่า ได้เริ่มดำเนินการในเขตพื้นที่โครงการพัฒนาดอยตุง (พื้นที่ทรงงาน) อันเนื่องมาจากพระราชดำริเป็นแห่งแรก ก่อนที่จะขยายไปในพื้นที่บริเวณใกล้เคียงประมาณ 3,600 ไร่ คิดเป็นต้นชาน้ำมันมากกว่า 900,000 ต้น ถือเป็นการฟื้นฟูสภาพป่าเสื่อมโทรมและเป็นการทดแทนป่าไม้ที่ถูกทำลาย ขณะเดียวกันสามารถสร้างรายได้ให้แก่ราษฎรในพื้นที่
รวมถึงสร้างความตระหนักรู้ถึงคุณประโยชน์ของการดูแลรักษาป่า และสามารถอยู่ร่วมกับป่าได้อย่างเข้าใจและพึ่งพิงกัน ซึ่งเป็นไปตามพระราชดำริ “คนอยู่ร่วมกับป่า” ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร อันจะนำไปสู่วิถีแห่งความสุข ความสมดุล และความยั่งยืนในที่สุด
ส่วนน้ำมันเมล็ดคามีเลียนั้น เป็นที่รู้จักในประเทศจีนนานกว่า 1,000 ปี มีประโยชน์มากมายจนได้ชื่อว่าเป็น น้ำมันมะกอกแห่งโลกตะวันออก เนื่องจากมีองค์ประกอบของไขมันที่ดีต่อร่างกายไม่ด้อยไปกว่าน้ำมันมะกอก และไม่มีกรดไขมันทรานส์ ซึ่งทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมวิตามินเอ ดี อี เค ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้น้ำมันเมล็ดคามีเลียยังมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูง ช่วยป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดตีบตัน โรคอัมพาต โรคความดันโลหิต โรคเบาหวาน และโรคหัวใจ อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ และสารคาเทชินซึ่งช่วยยืดอายุการใช้งานของน้ำมันให้นานขึ้น อีกทั้งน้ำมันเมล็ดคามีเลียมีจุดเดือดสูงมากกว่า 250 องศาเซลเซียส จึงทำให้สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายวิธี
ไม่ว่าจะเป็นการทอด การผัด การหมักหรือใช้เป็นส่วนผสมของน้ำสลัด น้ำมันเมล็ดคามีเลียถือเป็นน้ำมันที่ดีต่อสุขภาพของคนทุกเพศทุกวัย ปัจจุบันน้ำมันเมล็ดคามีเลีย ได้รับการรับรองคุณภาพมาตรฐานจากองค์การอาหารและยา และมูลนิธิโรคหัวใจได้อนุญาตให้ใช้ตราสัญลักษณ์ “อาหารรักษ์หัวใจ” ในสินค้าน้ำมันเมล็ดคามีเลีย ภายใต้ตราสินค้าภัทรพัฒน์
“เทศกาลน้ำมันเมล็ดคามีเลีย ภัทรพัฒน์” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 22 – 28 กุมภาพันธ์ 2565 ณ ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ กรุงเทพฯ ซึ่งภายในงานได้แบ่งพื้นที่การจัดงานออกเป็น 2 โซน ได้แก่
ควอเทียร์ แกลลอรี่ ชั้น M เป็นโซนนิทรรศการ ร้านค้าในเครือมูลนิธิชัยพัฒนา และร้านค้า ร้านอาหารชื่อดัง โดยในงานจะมีการเปิดตัวผ้าไหมย้อมสีจากเปลือกเมล็ดชาน้ำมันสายพันธุ์คามีเลีย โอลีเฟร่า หรือเมล็ดคามีเลียครั้งแรกในประเทศไทย โดยฝีมือการทอจากกลุ่มเกษตรกรเครือข่ายโครงการศูนย์เรียนรู้ด้านหม่อนไหมแบบครบวงจร ของมูลนิธิ ชัยพัฒนา อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ
ควอเทียร์ อเวนิว ชั้น G เป็นโซน Food Expo ซึ่งเป็นครั้งแรกกับการจัดงานรวบรวมร้านอาหารที่ใช้น้ำมันเมล็ดคามีเลีย ภัทรพัฒน์ ปรุงอาหาร พบกับการรังสรรค์เมนูอร่อยโดยเชฟชื่อดัง อาทิ
เชฟเป่าเป้ เจสสิก้า หวังเชฟเควส ชานิน จีมะเชฟแก้ว ปวีณ์นุช ยอดปรีชาวิจิตรเชฟลี่ พรชนัน พัฒนาปัญญาสัตย์ จากมาสเตอร์เชฟ ประเทศไทย และร้านค้าชั้นนำกว่า 50 ร้าน พร้อมหลากหลายกิจกรรม และการสาธิตการปรุงอาหารสารพัดเมนูอร่อย ที่ปรุงจากน้ำมันเมล็ดคามีเลีย ภัทรพัฒน์ โดยแบรนด์อาหารชั้นนำ อาทิ
สปาเก็ตตี้แซลมอนกระเทียมพริกไทยน้ำมันเมล็ดคามีเลีย ภัทรพัฒน์ โดย เชฟบัณฑิต วรมูล จากธรรมชาติซีฟู้ดไก่บ้านหมักน้ำมันเมล็ดคามีเลีย ภัทรพัฒน์ บาร์บีคิว โดยเชฟกิตติ์ธนัตถ์ สกุลกัณณ์หาค้า จาก BETAGROพาสต้าแฮมน้ำมันเมล็ดคามีเลีย ภัทรพัฒน์ ผสมพริกไทยดำ โดย เชฟพฤษวัฒน์ คงสาคร จาก TGM เป็นต้นนอกจากนี้ ยังสามารถซื้อน้ำมันเมล็ดคามีเลีย ภัทรพัฒน์ ในราคาพิเศษได้ภายในงาน พร้อมรับกระเป๋าที่ออกแบบและสั่งทำพิเศษเฉพาะงานนี้โดยเฉพาะ