ยอดพุ่งต่อเนื่อง! กทม.เตรียมเปิด "ศูนย์พักคอย" เพิ่ม 9 แห่งรับผู้ป่วยโควิด
ยอดพุ่งต่อเนื่อง! กทม.เตรียมเปิด "ศูนย์พักคอย" เพิ่ม 9 แห่ง รองรับผู้ป่วยโควิดอีก 970 เตียง ตั้งเป้าเข้าถึงผู้ป่วยกลุ่มรักษาตัวที่บ้าน ไม่เกิน 12 ชม.
วันที่ 24 ก.พ. นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร(กทม.) ตรวจเยี่ยมศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อทวีวัฒนา (Community Isolation : CI) ที่ศูนย์สร้างสุขทุกวัยทวีวัฒนา เขตทวีวัฒนา
นายขจิต กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ในประเทศไทยที่มีผู้ติดเชื้อจำนวนมากขึ้น ขณะนี้กทม.ได้จัดตั้งศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ (Community Isolation : CI) เพื่อรองรับผู้ป่วยที่ตรวจ ATK และ RT-PCR แล้วแสดงผลว่าติดเชื้อโควิดในพื้นที่ 6 กลุ่มเขต รวมทั้งสิ้น 31 แห่ง สามารถรองรับผู้ป่วยได้ 3,981 เตียง อัตราการครองเตียงขณะนี้ 1,932 เตียง เตียงว่าง 1,849 เตียง โดยมีการคัดกรองอาการและดูแลผู้ป่วยเบื้องต้น เพื่อรอการส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลตามการประเมินจากแพทย์ ทั้งนี้ กทม.อยู่ระหว่างการเตรียมเปิดศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อเพิ่มเติมอีก 9 แห่ง เตียง 970 เตียง
ขณะที่รายงานจากโรงพยาบาลในสังกัดกทม. โรงพยาบาลสนาม และ Hospitel ในความดูแลของ กทม.สามารถรองรับผู้ป่วยได้ 3,460 เตียง อัตราการครองเตียง 3,116 เตียง เตียงว่าง 377 เตียง คิดเป็นร้อยละ 90.06 (ข้อมูล ณ วันที่ 24 ก.พ.65 เวลา 08.00 น.)
นายขจิต กล่าวว่า สำหรับผู้ป่วยติดเชื้อ หากประสงค์ทำการรักษาแบบกักตัวที่บ้าน (HI) สามารถโทรแจ้งได้ที่ สายด่วน สปสช.1330 กด 14 หรือประสานรับการรักษาผ่านศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินสำนักงานเขต (EOC) 50 เขต โดยศูนย์ฯ ได้บูรณาการการทำงานร่วมกับคลินิกอบอุ่น ศูนย์บริการสาธารณสุข หรือสถานพยาบาล มีเป้าหมายการเข้าถึงผู้ป่วยภายใน 12 ชั่วโมง ซึ่งเจ้าหน้าที่จะติดต่อกับผู้ป่วยเพื่อประเมินอาการเบื้องต้น หากผู้ติดเชื้อมีอาการไม่รุนแรง และสามารถแยกกักตัวได้ จะเข้าสู่การแยกกักรักษาที่บ้าน(Home Isolation : HI)
ในกรณีที่ผู้ติดเชื้อมีอาการเปลี่ยนแปลง หรือไม่สามารถแยกกักที่บ้านได้ จะนำส่งศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ (Community Isolation : CI) หรือส่งไปยังโรงพยาบาลสนาม หรือส่งต่อรักษาในโรงพยาบาลตามระดับความรุนแรงของอาการต่อไป
นายขจิต กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ศูนย์เอราวัณ (1669) สำนักการแพทย์ ได้ยกระดับการนำส่งผู้ป่วยเข้าระบบการรักษาของโรงพยาบาล โดยศูนย์เอราวัณ 1669 ได้เพิ่มจำนวนคู่สายด่วนจากเดิม 30 คู่สาย เป็น 100 คู่สาย พร้อมเจ้าหน้าที่บริการรับสายตลอด24 ชั่วโมง โดยยังคงมีเป้าหมายนำส่งผู้ป่วยเข้าสู่ระบบการรักษาภายใน 1 วันโดยไม่ให้มีผู้ป่วยตกค้าง นอกจากนี้ได้ปรับปรุงศักยภาพการรับ-ส่งผู้ป่วย โดยร่วมกับเครือข่าย อาทิ เทศกิจ 50 เขต เจ้าหน้าที่ทหาร อาสาสมัคร มูลนิธิต่างๆ ทำให้รับ-ส่งผู้ป่วยได้รวดเร็วขึ้น จากเดิมสามารถรับผู้ป่วยได้วันละ 150 คน เพิ่มเป็นวันละ 300 คน โดยรถ 1 คัน จะรับผู้ป่วยวันละ 2 รอบๆ ละ 3 คน
ปลัด กทม.กล่าวว่า สำหรับศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อทวีวัฒนา จัดตั้งเพื่อเป็นสถานที่รองรับผู้ป่วยโควิด กลุ่มสีเขียวที่ยังไม่มีอาการในพื้นที่กรุงเทพฯ สามารถรองรับผู้ป่วยได้ 114 เตียง แบ่งเป็นชาย 52 เตียง หญิง 52 เตียง และสำหรับครอบครัว 2 ห้อง 10 เตียง โดยมีโรงพยาบาลราชพิพัฒน์เป็นผู้บริหารจัดการผู้ป่วย ดำเนินงานตามมาตรการความปลอดภัยในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 มีจุดลงทะเบียน จุดคัดกรองผู้ป่วย จุดวัดอุณหภูมิและวัดค่าออกซิเจน จุดบริการอาหารและน้ำดื่ม ติดตั้งเตียงจัดวางที่นอน ติดตั้งระบบไฟฟ้าเพิ่มเติม ระบบเสียงตามสาย ระบบรักษาความปลอดภัย CCTV
ขณะเดียวกัน ยังมีระบบอินเตอร์เน็ต ติดตั้งพัดลม ฉีดพ่นยากำจัดยุงลาย ทำความสะอาดห้องน้ำและห้องสุขา ระบบบำบัดน้ำเสียระบบกำจัดขยะทั่วไปและขยะติดเชื้อ นอกจากนี้ยังได้จัดเตรียมสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นสำหรับผู้ป่วย เช่น ชุดเครื่องนอน มุ้งผ้าเช็ดตัว ครีมอาบน้ำ ยาสระผม แปรงสีฟัน ยาสีฟัน หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ เป็นต้น พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่เทศกิจดูแลความปลอดภัยและความเป็นระเบียบเรียบร้อย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับยอดโควิดวันนี้ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพฯ ประจำวัน มีผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 3,236 ราย อยู่อันดับ 1 ในประเทศ ถือเป็นยอดผู้ติดเชื้อที่มากกว่า 3 พันคนเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน