ปั้มน้ำมันอิสระปิดตัว น้ำมันแพงทองขึ้นคนเทขายไร้คนซื้อ
น้ำมันแพงชาวบ้านเดือดร้อนทุกภาคส่วน ปั้มเล็กปิดกิจการ ขนส่ง โลจิสติกส์ ต้องซื้อน้ำมันแพง เตรียมขึ้นค่าขนส่ง คนแห่ขายทอง เพราะไม่มีกิน และได้ราคาที่แพงขึ้น ส่วนคนซื้อเป็นศูนย์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากการทำสงครามระหว่าง ประเทศรัสเซีย กับ ยูเครน ยืดเยื้อมาเป็นเวลา 14 วัน เป็นเหตุให้ราคาน้ำมันและราคาทองคำ ซึ่งเป็น ปัจจัย หลัก ของการเกิดสงคราม มีราคาแพงขึ้น และได้ส่งผลกระทบในวงกว้าง โดยเฉพาะน้ำมันทั้ง ดีเซล และ แก๊สโซฮอลล์ ซึ่งทุกคนมีความจำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวัน ทั้งการขนส่ง และการเดินทางไปทำงาน ต่างให้สัมภาษณ์ว่า เริ่มที่จะแบกรับภาระไม่ไหว
กลุ่มมอเตอร์ไซด์รับจ้าง เปิดเผยว่า ถ้าราคาน้ำมันยังสูงขึ้นและในระยะยาวไม่มีการปรับลด ก็จำเป็นที่จะต้องขึ้นราคาค่าโดยสาร เช่นเดียวกับ บริษัทขนส่งสินค้าพื้นที่ภาคใต้ ต่างเตรียมที่จะหารือกันในกลุ่มผู้ประกอบการ เพื่อขอปรับค่าขนส่งตามราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ในขณะที่ ปั้มน้ำมันอิสระในภาคใต้ ต่างทยอยกันปิดปั้ม เพราะไม่มีน้ำมันจำหน่าย โดย “จ๊อปเบอร์” ผู้ที่ซื้อน้ำมันจากคลังปิโตรเลียมมาขายให้กับปั้มอิสระ และขายให้กิจการขนส่งโลจิสติกส์ และผู้รับเหมาก่อสร้าง ที่มีแท็งค์ และซื้อน้ำมันจาก “จ๊อปเบอร์” มาใช้ในกิจการของตนเอง เนื่องจากราคาถูกกว่าการไปเติมที่ปั้มน้ำมันลิตรละ 1-2 บาท ต่างไม่มีน้ำมันใช้ ต้องให้รถยนต์ออกมาเติมน้ำมันที่ปั้มในราคาแพง ส่วนปั้มน้ำมันที่มีแบรนด์ทุกยี่ห้อ ก็ไม่ยอมขายน้ำมันใส่ถัง 200 ลิตร ให้กับผู้ประกอบการ ผู้ประกอบธุรกิจต่างๆ ที่ต้องใช้น้ำมันกับเครื่องจักรกล และเครื่องยนต์ต่างๆ ในโรงงาน และในนากุ้ง
“จ๊อปเบอร์” ผู้ค้าน้ำมันใน จ.สงขลา เปิดเผยว่า ไม่สามารถซื้อน้ำมันจากคลังน้ำมัน ไม่ว่าจะเป็นของ เชลล์, เอสโซ่ ,คาลเท็กซ์ และ ปตท. เพราะ ราคาที่คลังขายให้กับ”จ๊อปเบอร์” แพงกว่า น้ำมันที่ปั้มต่างๆ ที่มีแบรนด์ ขายอยู่ถึงลิตรละ 2 บาท จึงเป็นเหตุให้ปั้มอิสระเป็นจำนวนมากในหมู่บ้าน ในตำบล ต้องปิดกิจการ และ โรงงาน โรงโม่ บริษัทขนส่ง ไซน์งาน ก่อสร้างทุกแห่ง ไม่มีน้ำมันใช้ ต้องนำรถยนต์ รถบรรทุก ไปเติมที่ปั้มที่มีแบรนด์ ซึ่งทำให้ต้นทุนของผู้ประกอบการสูงขึ้น หากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ ทุกภาคส่วน ทุกอาชีพ ต้องได้รับความเดือดร้อน และการขาดทุน ต้องหยุดกิจการ จะกระทบต่อการจ้างงาน เป็นเหตุให้มีคนตกงาน ซึ่งเด็กปั้มน้ำมันที่เป็นปั๊มอิสระตกงานแล้วในขณะนี้
ในขณะที่ประชาชนทั่วไป ต่างให้ความเห็นว่า รัฐบาลต้องออกมาควบคุมราคาขายปลีกน้ำมันในปั้ม หรือสถานีบริการน้ำมัน ให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน เหมือนก่อนที่จะมีสงครามระหว่าง รัสเซีย และ ยูเครน เพราะขณะนี้ ประชาชน สับสน และ ใช้น้ำมันที่ราคาไม่เท่ากัน เพราะปั้ม ปตท.และ บางจาก ขายน้ำมัน ถูกกว่า ปั้ม เชลล์ ,เอสโซ่ ,คาลเท็กซ์ และปั้มอื่นๆถึงลิตรละ 2 บาท ด้วยกัน ทำให้ผู้ใช้น้ำมัน ต้องเสียเวลาในการ ขับรถเพื่อหาปั้มที่ขายในราคาถูก และ ปั้ม ปตท. บางจาก ที่ขายถูกกว่า ยี่ห้ออื่นๆ ก็ไม่ได้มีทุกแห่ง
ในขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวพบว่า หลังจากที่ราคาทองคำพุ่งขึ้นบาทละ 31,000 กว่าบาท ได้ทำให้มีคนจำนวนมากแห่นำทองออกไปขาย โดยส่วนหนึ่งเป็นคนที่ขายทองเพื่อนำเงินมาใช้ในยามเดือดร้อน ทั้งจากโควิด19 ขณะที่คนอีกส่วนหนึ่ง ที่มีทองคำเก็บไว้ ต่างนำทองออกมาขาย เพราะเชื่อว่าราคาทองน่าจะไม่สูงไปกว่านี้แล้ว เป็นการขายเพื่อทำกำไร ในขณะที่เจ้าของร้านทองใน อ.หาดใหญ่ร้านหนึ่งกล่าวว่า มีแต่คนนำทองมาขาย มาจำนำ ส่วนคนซื้อทองเป็นศูนย์ เพราะราคาที่แพงขึ้น และคาดว่าถ้าสงคราม ยังไม่มีทางออก ราคาทองคำอาจจะขึ้นไปอยู่ที่บาทละ 33,000 บาทก็อาจจะเป็นไปได้