"สมเด็จพระวันรัต"พระอาจารย์ถวายพระอักษรในหลวง รัชกาลที่ 10 ช่วงทรงผนวช
หมายการบำเพ็ญกุศลศพสมเด็จพระวันรัต และอัญเชิญสรีระร่าง”สมเด็จพระวันรัต”สรงน้ำศพ ณ อาคาร 100 ปี"วัดบวรนิเวศวิหาร"(มีกำหนดการทั้งหมดท้ายเรื่อง)
เจ้าประคุณสมเด็จพระวันรัต (จุนท์ พฺรหฺมคุตฺโต ป.ธ.9) ได้ละสังขาร เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2565 เวลา 14.22 น. ด้วยอาการสงบ สิริอายุ 85 ปี 65 พรรษา จากโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ณ อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย กรุงเทพมหานคร
บทบาทของสมเด็จพระวันรัต อดีตเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศราชวรวิหาร ในทางธรรมมีมากมาย โดยเฉพาะช่วงรัชสมัยในหลวง รัชกาลที่ 9 และรัชกาลที่ 10 ทรงผนวช
เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์ พระอมรโมลี ได้เป็นพระอาจารย์ถวายพระอักษรเรื่องพระธรรมวินัย แด่ในหลวง รัชกาลที่ 10 เมื่อครั้งดำรงพระราชอิสริยยศ “สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฏราชกุมาร” ช่วงทรงผนวชเมื่อวันที่ 6 -20พฤศจิกายน 2521 ประทับอยู่ ณ วัดบวรนิเวศวิหาร
นอกจาก สมเด็จพระวันรัต เป็นพระนวกะร่วมสมัยกับในหลวง รัชกาลที่ 9 ที่ทรงผนวชวันที่ 22ตุลาคม- 5 พฤศจิกายน 2499 ตอนประทับที่วัดบวรนิเวศวิหาร
“ตอนนั้นอาตมาเป็นพระใหม่ โดยก่อนหน้านี้อาตมาบวชเณรมาก่อน 5-6 ปี และเพิ่งได้บวชเป็นพระในปีนั้น
ขณะที่ในหลวง รัชกาลที่ 9 ทรงผนวชเป็นเวลา 15 วัน ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยมีสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร เป็นพระราชอุปัธยาจารย์ ทรงได้รับฉายาว่า “ภูมิพโลภิกขุ” จากนั้นได้เสด็จฯมาประทับจำพรรษาที่พระตำหนักปั้นหย่า วัดบวรฯ
อาตมาได้เห็นพระราชจริยวัตรของพระองค์ขณะที่เป็นพระสงฆ์... ทรงเสด็จออกบิณฑบาตเหมือนพระภิกษุทั่วไป ไม่มีพิธีรีตอง และไม่ทรงสวมฉลองพระบาท โดยจะเสด็จด้วยพระบาทเปล่าทุกครั้ง พระองค์ทรงเคร่งครัดในพระธรรมวินัยยิ่งกว่าสามัญชน
เวลาทำวัตรสวดมนต์ พระองค์จะประทับนั่งพับเพียบหันพระบาทไปทางทิศตะวันออก แล้วประทับอยู่แบบนั้น โดยไม่พลิกพระบาทหันมาทางทิศตะวันตกเลยสักครั้งเป็นเวลาเกือบชั่วโมง ทั้งช่วงเช้าและช่วงบ่าย
เพราะตามธรรมเนียมผู้บวชทีหลังต้องเคารพนับถือพระผู้ใหญ่ที่บวชมาก่อน ซึ่งทรงศึกษามาก่อนผนวชแล้ว ถึงนำมาปฏิบัติอย่างเคร่งครัดทุกประการ” สมเด็จพระวันรัต กล่าวไว้ในปี 2559
......................
กำหนดการบำเพ็ญกุศล
วันพฤหัสบดีที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2565
เวลา 08.30 น.เคลื่อนศพสมเด็จพระวันรัต ออกจากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย มายังห้องบำเพ็ญกุศล บริเวณชั้น 2 อาคาร 100 ปี วัดบวรนิเวศวิหาร
เวลา 09.30 น. กรรมการมหาเถรสมาคม พระอนุวงศ์ ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ถวายน้ำสรงศพ ชั้น 2 อาคาร 100 ปี วัดบวรนิเวศวิหาร
ส่วนภิกษุสามเณร คณะศิษยานุศิษย์ และประชาชน ถวายน้ำสรงศพ หน้าภาพถ่าย ณ ห้องประชุม ชั้น 1 อาคารสภาการศึกษา มหามกุฎราชวิทยาลัย
เวลา 17.00 น.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จ
พระราชดำเนินในการพระราชทานน้ำหลวงสรงศพ ณ ห้องบำเพ็ญกุศล บริเวณชั้น 2 อาคาร 100 ปี วัดบวรนิเวศวิหาร
วันศุกร์ที่ 18-23 มีนาคม พ.ศ.2565 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดพระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ในการสวดพระอภิธรรมศพ
ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2565 จนถึงการบำเพ็ญพระราชกุศล 100 วัน เปิดโอกาสให้คณะสงฆ์ องค์กร หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ตลอดจนคณะศิษยานุศิษย์ รับเป็นเจ้าภาพการสวดพระอภิธรรมศพ เวลา 18.00 น.