เกิดเหตุระเบิดขณะทหารพรานซ่อมปั้มน้ำ เจ็บ 3 เสียชีวิต 1

เมื่อวันที่ 16 มี.ค. 65 ร.ต.อ.สัณห์ปกรณ์ หลุ่ยจิ๋ว รอง สว.(สอบสวน) สภ.มายอ จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งมีเหตุระเบิดเกิดขึ้นมีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นเจ้าหน้าที่ทหารหลายนาย เหตุเกิดบริเวณ คลองชลประทาน บ.เมาะโง ม.5 ต.กระหวะ อ.มายอ หลังได้รับแจ้งจึงประสานชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าตรวจสอบ พร้อมด้วย พล.ต.ต.นรินทร์ บูสะมัญ ผบก.ภ.จ.ปัตตานี พ.ต.อ.สืบสกุล มณีนวล ผกก. ไปถึงเจ้าหน้าที่พบผู้ได้รับบาดเจ็บจึงรีบลำเลียงส่ง รพ.มายอ จำนวน 4 ทราบ และได้กันพื้นที่โดยรอบเพื่อตรวจสอบอีกครั้งเกรงว่าจะเกิดเหตุซ้ำซ้อนขึ้น ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 4 นาย ทราบชื่อ

1. อส ทพ จิโรจน์ จิตวิสุทธิ์ มีบาดแผลที่ขาทั้งสองข้างถูกแรงระเบิดเกือบขาด และที่ลำตัวหลายแห่งอาการสาหัส แพทย์พยายามให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา

2. อส.ทพ.จตุรงค์ สงขาว มีบาดแผลถูกสะเก็ดระเบิดตามลำตัวหลายแห่งอาการสาหัส แพทย์ได้ส่งต่อไป รพ.มอ.หาดใหญ่

3.อส.ทพ.สุทธิรักษ์ ชาญวิริยะตั้งสกุล

4. อส.ทพ.วัฒนพร หนูยิ้มซ้าย ได้รับบาดเจ็บถูกส่งต่อไป รพ.ปัตตานี
 

ตรวจสอบในที่เกิดเหตุอยู่บริเวณริมถนนห่างจากปั้มน้ำประมาณ 3 เมตร ริมคลองชลประทานและพบหลุมระเบิดกว้าง 50 ซม.และมีชิ้นส่วนระเบิด สะเก็ดระเบิดกระจายไปทั่วบริเวณ เจ้าหน้าที่ได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวนทราบว่า เจ้าหน้าที่ทหารพรานทั้ง 4 นายสังกัด ร้อย ทพ.4204 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 42 ขณะเกิดเหตุ ทั้ง 4 นายได้เดินออกจากฐานกองร้อยที่อยู่บริเวณที่เกิดเหตุเพื่อไปทำการซ่อมแซมปั้มน้ำที่เสียอยู่ ทำให้ภายในฐานปฏิบัติการณ์ไม่มีน้ำไว้ใช้ และเมื่อเจ้าหน้าที่เดินไปถึงก็ได้ลงไปตรวจสอบเพื่อทำการซ่อมแซม แต่ปรากฏว่า ได้เกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บทันที โดยเฉพาะ อส ทพ จิโรจน์ อาการสาหัส อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่เชื่อว่า คนร้ายน่าจะรู้ความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ภายในฐานโดยเฉพาะเครื่องปั้มน้ำดังกล่าวซึ่งคนร้ายรู้ว่าเจ้าหน้าที่ต้องใช้เครื่องปั่มน้ำเพื่อสูบน้ำไว้ใช้ภายในฐาน จึงอาจจะทำให้เครื่องปั้มน้ำเสียแล้วนำระเบิดแสวงเครื่องแบบเหยียบฝังไว้ เมื่อเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบแล้วเกิดเหยียบระเบิดขึ้นจนเป็นเหตุให้มีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
 

หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.นรินทร์ บูสะมัญ ผบก.ภ.จ.ปัตตานี สั่งระดมหน่วยกำลังในพื้นที่ทุกหน่วยเข้าปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายทุกจุด พร้อมตั้งจุดตรวจจุดสกัดในพื้นที่เส้นทางเข้าออกตรวจสอบบุคคลต้องสงสัยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุให้ทำการรวบรวมอย่างละเอียดเพื่อทำการตรวจพิสูจน์ว่าเป็นฝีมือของกลุ่มใด อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ครั้งเชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มก่อความไม่สงบ